Skip to main content
sharethis
ตัวแทนมารา ปาตานี องค์กรร่มของขบวนการเพื่อเอกราชสามจว.ชายแดนใต้ ชี้ ความไม่สงบวันครบรอบสถาปนาบีอาร์เอ็น ไม่ใช่สัญญาณต่อต้านมารา และกล่าวว่า พร้อมยอมรับหลักกฎหมายมนุษยธรรมระหว่างประเทศ
 
17 มี.ค. 59 อาบูฮาฟิซ อัลฮากีม สมาชิกคนหนึ่งของมารา ปาตานี องค์กรร่มของขบวนการปลดปล่อยปาตานี หรือ สามจังหวัดชายแดนภาคใต้ ตอบคำถามประชาไทเมื่อวานนี้ ถึงเหตุการณ์ความรุนแรงเมื่อวันที่ 13 มี.ค. ซึ่งมีการก่อเหตุไม่สงบหลายจุด รวมถึงการใช้โรงพยาบาลเจาะไอร้อง จ.นราธิวาส เป็นที่มั่นในการต่อสู้กับค่ายทหารพรานซึ่งอยู่ตรงข้าม
 
เนื่องจากสองอำเภอที่เกิดเหตุมากที่สุดคือ อ.เจาะไอร้อง และ อ.สุไหงปาดี จ.นราธิวาส ซึ่งเป็นสองในห้า อำเภอสันติสุข นำร่อง (ซึ่งหมายถึง อำเภอที่เป็นพื้นที่ปลอดภัย) ซึ่งเป็นโครงการที่ฝ่ายทหารไทยกล่าวอ้างฝ่ายเดียว มีผู้วิเคราะห์ว่า การโจมตีอย่างหนักในสองอำเภอดังกล่าวคือการส่งสัญญาไม่เอากระบวนการพูดคุยสันติภาพ และไม่เอามารา ปาตานี 
 
ทั้งนี้ วันที่ 13 มี.ค. เป็นวันครบรอบ 56 ปีการก่อตั้งบีอาร์เอ็น องค์กรเพื่อเอกราชปาตานีซึ่งเชื่อว่า มีกำลังนักรบในพื้นที่มากที่สุด บีอาร์เอ็นนั้นเคยแสดงท่าทีปฏิเสธมาราและการพูดคุยสันติภาพทั้งทางตรงและทางอ้อม
 
แม้ไม่มีผู้เสียชีวิตจากเหตุการณ์หลังเหตุการณ์ดังกล่าว ภาคประชาสังคมในสามจังหวัดชายแดนภาคใต้และองค์กรสิทธิมนุษยชนระหว่างประเทศต่างออกมาประณามการบุกโรงพยาบาล และเรียกร้องให้ทั้งฝ่ายขบวนการและฝ่ายไทยเคารพหลักกฎหมายมนุษยธรรมระหว่างประเทศ ซึ่งห้ามปฏิบัติการทางทหาร และการตั้งค่ายทหาร ในพื้นที่โรงพยาบาล โรงเรียน ศาสนสถาน และพื้นที่ชุมชน 
 
(อาบูฮาฟิซ ให้สัมภาษณ์ประชาไทเป็นภาษาอังกฤษ บทสัมภาษณ์ด้านล่างเป็นคำแปลอย่างไม่เป็นทางการโดยประชาไท) 
 
อาบู ฮาฟิซ อัลฮากีม (แฟ้มภาพ)
 
1 มารา ปาตานี เห็นอย่างไรต่อการก่อความไม่สงบหลายจุดในวันที่ 13 มีนาคม โดยเฉพาะในอำเภอเจาะไอร้อง มาราเห็นว่า การโจมตีในอำเภอที่ถูกประกาศเป็นโครงการนำร่อง อำเภอสันติสุขนั้น เป็นสัญญาณต่อต้านการเจรจาสันติภาพหรือไม่ 
 
เราไม่รู้แน่นอนว่าใครเป็นผู้ก่อเหตุที่โรงพยาบาล แต่สิ่งต่างๆ ชี้ว่าน่าจะเป็นฝีมือของนักรบอาร์เคเค (นักรบกลุ่มบีอาร์เอ็น) เมื่อพิจารณาว่า วันที่ 13 มีนาคมนั้นมีความสำคัญทางสัญลักษณ์ และยังมีการก่อเหตุที่จุดอื่นด้วย 
 
เหตุการณ์นี้ไม่เกี่ยวกับมารา ปาตานี เห็นได้จากว่า เหตุการณ์ทำนองเดียวกันนี้เคยเกิดขึ้นหลายครั้งในอดีต ก่อนที่จะมีมารา ด้วยซ้ำ
 
ถ้าจะมีการส่งสัญญาณใดๆ มันคงเป็นการเตือนว่า รัฐไทยต้องจริงจังกับการแก้ปัญหาที่ต้นเหตุของความขัดแย้ง และหลีกเลียงจากการกระทำที่ไม่ยุติธรรมที่เราเห็นอยู่ทุกวันนี้ เพราะฝ่ายทหารของขบวนการก็จะเอาคืนอย่างสม่ำเสมอ จนถึงวันนี้ ทั้งมาราและฝ่ายไทยยังไม่ได้ตกลงอะไรเกี่ยวกับพื้นที่ปลอดภัย เมื่อไรที่การพูดคุยสันติภาพเริ่มอย่างเป็นทางการแล้ว เราถึงจะคุยกันเรื่องความเป็นไปได้ และหาข้อตกลงกันว่า จะทำอย่างไรให้เกิดพื้นที่ความปลอดภัย และหากลไกที่เหมาะสมทำให้มันเวิร์ค
 
เพราะฉะนั้น เนื่องจากยังไม่มีการตกลงเรื่องพื้นที่ปลอดภัย มันก็ไม่มีเหตุผลที่จะบอกว่า นี่คือการต่อต้านมารา พื้นที่ปลอดภัยที่เจาะไอร้องนั้นเป็นเพียงข้อเสนอฝ่ายเดียวของกองทัพภาคที่สี่ เมื่อพิจารณาว่าพื้นที่ดังกล่าวเป็นที่มั่นของนักรบอาร์เคเค การตอบโต้เช่นนั้นก็เป็นสิ่งที่เข้าใจได้ 
 
2. การเจรจาสันติภาพจะได้รับผลกระทบจากปฏิบัติการเมื่อวันอาทิตย์หรือไม่ อย่างไร  
 
ส่วนตัวผมไม่เห็นว่าเหตุการณ์จะกระทบกับกระบวนการพูดคุย ในทางตรงข้าม มันยิ่งจำเป็นที่จะต้องเดินหน้าเรื่องพื้นที่ปลอดภัย ให้มีข้อตกลงกันเรื่องนี้อย่างเร็วที่สุดที่จะเป็นไปได้ ตอนนี้ทั้งปาร์ตี้เอ และปาร์ตี้บี กำลังจะสรุปเรื่องศัพท์เทคนิคในข้อตกลงในเร็ววันนี้ ถ้าทุกฝ่ายโอเคแล้ว เราก็จะได้เดินหน้าการเจรจาสันติภาพอย่างเป็นทางการ
 
3. ภาคประชาสังคมในพื้นที่ต่างเรียกร้องให้ทั้งฝ่ายไทยและฝ่ายขบวนการนำกฎหมายมนุษยธรรมสากล มาใช้ มารา ปาตานีเห็นอย่างไรกับข้อเสนอนี้
 
เราได้ยินเรื่องการเรียกร้อง ให้นำกฎหมายมนุษยธรรมระหว่างประเทศมาใช้ และเราเห็นด้วยอย่างที่สุด 
 
กล่าวถึงเหตุการณ์ล่าสุด เป้าหมายหลักของการปฏิบัติการคือหน่วยทหารและทหารพราน ซึ่งตั้งอยู่ใกล้กับโรงพยาบาล ขณะที่มันเป็นเป้าที่ชอบธรรม แต่การใช้พื้นที่โรงพยาบาล ซึ่งกระทบต่ออุปกรณ์และบุคลากรเพื่อไปถึงเป้าหมายการโจมตีนั้น เป็นสิ่งที่ขัดกับกฎหมายมนุษยธรรมระหว่างประเทศมากๆ การที่ทหารและทหารพรานไปตั้งค่ายอยู่ใกล้กับโรงพยาบาลก็ไม่ต่างกัน เพราะฉะนั้น ทั้งสองฝ่ายได้ละเมิดหลักกฎหมายดังกล่าว 
 
เพราะฉะนั้น มันจึงสำคัญที่ทั้งสองฝ่ายต้องตกลงร่วมกันเรื่องพื้นที่ปลอดภัยในกระบวนการสันติภาพ และหลักการของกฎหมายมนุษยธรรมระหว่างประเทศควรถูกประยุกต์ใช้ ทั้งฝ่ายไทยและนักรบอาร์เคเคจะต้องได้รับการศึกษาเกี่ยวกับหลักการของกฎหมาย และกฎที่เกี่ยวข้อง 
 

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net