ประยุทธ์คืนความสุขฯ ยันไม่ยกเลิกการศึกษา EIA - EHIA เพียงแต่เราไม่ต้องรอผลพวกนั้น

เมื่อวันที่ 18 มี.ค.ที่ผ่านมา พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี กล่าวในรายการ “คืนความสุขให้คนในชาติ” ออกอากาศทางโทรทัศน์รวมการเฉพาะกิจแห่งประเทศไทย โดยยืนยันว่าไม่ยกเลิกการศึกษาผลกระทบ EIA หรือ EHIA เพียงแต่เราไม่ต้องรอผลพวกนั้น 

"..ไม่ใช่ว่าเรายกเลิกการศึกษาผลกระทบ EIA หรือ EHIA ไม่ใช่ คือเพียงแต่เราไม่ต้องรอผลพวกนั้น แต่เราสามารถจะเริ่มต้นทำโครงการ เริ่มหาผู้ร่วมลงทุน การร่าง TOR ไว้ก่อน.." พล.อ.ประยุทธ์ กล่าว 
 
พล.อ.ประยุทธ์ ยังกล่าวด้วยว่า สาเหตุที่ประเทศชาติถอยหลัง หยุดอยู่กับที่ หรือถอยหลังไปกว่าเดิมมากมาย ประเทศอื่นเขาไม่มาคบค้าสมาคมด้วยถ้าเราทำอย่างนี้อีกต่อไป คือการ (1) ไม่บริหารราชการด้วยความสุจริต (2) ไม่เคารพกฎหมาย กระบวนการยุติธรรม (3) ไม่มีธรรมาภิบาล (4) ไม่กำกับดูแล ในเรื่องนโยบาย ในสิ่งที่ถูกต้อง ขาดความรับผิดชอบ เอาผลประโยชน์ที่มิควรมี มิควรได้ แล้วโยนความผิดไปให้ข้าราชการบกพร่อง ถูกดำเนินคดีทั้งหมด ตอนนี้มีปัญหาหมด (5) ก้าวล่วงทุกอำนาจ ของส่วนราชการ รังแกข้าราชการ (6) ไม่สร้างความเข้มแข็งให้กับประเทศชาติและประชาชน ขีดความสามารถเราแย่ลง ความเข้มแข็งแย่ลง ประชาชนถูกมอมเมา ถูกสร้างภาพลวงตา
 
"ความเข้มแข็งแย่ลง ประชาชนถูกมอมเมา ถูกสร้างภาพลวงตา เหมือนกับพยายามทำให้ประชาชนนั้นไม่ฉลาดขึ้น ต้องพึ่งพาคนอื่นตลอดเวลา เรารับของแจก เงินให้อย่างเดียวต้องสร้างความเข้มแข็งให้เขาด้วยเหมือนกับเราให้เบ็ดไปตกปลา เขา ลืมตาอ้าปากไม่ได้สักที ไม่รู้เป็นไร ควบคุมง่ายมั้ง วันนี้ เราจะต้องแก้ให้ได้ ให้เขาฉลาดขึ้น ให้เขาแข็งแรงขึ้น" พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวถึงปัญหาที่ผ่านมา
 
นอกจากนี้ พล.อ.ประยุทธ์ ยังแนะดูซีรี่ย์เกาหลี Descendants of the Sun ที่แทรกไปด้วยความมีจรรยาบรรณในวิชาชีพ ชวนร่วมมาตรการ “4 ป” ปิด ปรับ ปลด เปลี่ยน ลดการใช้พลังงานไฟฟ้าพร้อมติหนังสือพิมพ์สุดสัปดาห์รูปโจ๋งครึ่มเหลือเกิน 
 
รวมถึงการชี้แจงถึงมาตรการการสร้างความเชื่อมั่นในกระบวนการยุติธรรม การเคารพกฎหมาย การปฏิรูปแนวทางบริหารจัดการน้ำ การจัดระเบียบบ้านเมือง  มาตรการผ่อนผัน ให้เหยื่อ ผู้เสียหาย และพยานในคดีการค้ามนุษย์ การชะลอการบังคับใช้ พ.ร.บ.ธุรกิจรักษาความปลอดภัย พ.ศ. 2558 และ การต่างประเทศ การเจรจาทางการค้า หรือการจัดทำพันธะสัญญาในประชาคมโลก มีปัญหามากมาย เป็นต้น
 

คำต่อคำ พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวในรายการคืนความสุขฯ 18 มี.ค.59

สวัสดีครับ พ่อแม่พี่น้องชาวไทยที่รักทุกท่านวันที่ 22 มีนาคม ของทุกปี จะเป็นวันอนุรักษ์น้ำโลก ซึ่งนับว่าเป็น 1 ในความท้าทายของโลก ในปัจจุบัน เพื่อจะได้สร้างความตระหนักรู้ร่วมกัน ถึงการใช้ทรัพยากรน้ำของมนุษย์อย่างประหยัด และยั่งยืน ทั้งโลกต่างมีความกังวลในสถานการณ์น้ำ ในมิติต่าง ๆ เช่น ไม่ว่าจะเป็นการดูแลแหล่งน้ำและผืนป่าต้นน้ำ การเข้าถึงแหล่งน้ำธรรมชาติ-น้ำใต้ดิน-แหล่งน้ำสะอาด การปนเปื้อนแหล่งน้ำจากสารเคมี-โรงงานอุตสาหกรรม-ขยะมูลฝอย-การขับถ่ายของ ทั้งนี้ ล้วนมีผลกระทบเชื่อมโยงต่อภาคการผลิต ทั้งเกษตรกรรมและอุตสาหกรรม โดยเฉพาะน้ำกินน้ำใช้ ที่สำคัญที่สุดต่อชีวิตประจำวันของสิ่งมีชีวิต ทั้งมนุษย์ สัตว์ และพืช

เพราะฉะนั้น อยากให้นึกถึงว่า ปวงชนชาวไทยเราโชคดี ที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ทรงมีสายพระเนตรยาวไกล ทรงเป็นห่วงเป็นใย ดูแลพสกนิกรชาวไทย และประเทศไทยที่เป็นประเทศเกษตรกรรมเสมอมา ดังพระราชดำรัส ของสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ใจความตอนหนึ่ง สรุปได้ว่า “พระเจ้าอยู่หัวเป็นน้ำ พระราชินีจะเป็นป่า ป่าที่ถวายความจงรักภักดีต่อน้ำ และพระเจ้าอยู่หัวสร้างอ่างเก็บน้ำ พระราชินีจะสร้างป่า” ต้องนึกถึงคำเหล่านี้ ที่ทรงพระราช ทานไว้ ซึ่งเป็นที่มาของโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริและพระราชกรณียกิจนานัปการ ของล้นเกล้าล้นกระหม่อมของปวงชนชาวไทย ทั้ง 2 พระองค์ เช่น โครงการฝนหลวง โครงการแก้มลิง โครงการพัฒนาแหล่งน้ำ-เขื่อนป่าสักชลสิทธิ์-เขื่อนคลองท่าด่าน-เขื่อนขุนด่านปราการชล โครงการป่ารักน้ำ ฝายขนาดเล็ก ซึ่งในวันนี้เราเรียกว่า ฝายประชารัฐ โครงการน้ำดีไล่น้ำเสีย การบำบัดน้ำเสียด้วยผักตบชวา กังหันน้ำชัยพัฒนา โครงการปลูกป่า อนุรักษ์ป่า โครงการบ้านเล็กในป่าใหญ่ โครงการอนุรักษ์พันธุ์พืชและสัตว์ป่า โครงการธนาคารอาหารชุมชน เป็นเพียงตัวอย่างเท่านั้น ทรงพระราชทานไว้แล้ว

วันนี้ เราต้องร่วมกันแสดงความรับผิดชอบ ปลูกจิตสำนึกว่า นอกจากการอนุรักษ์น้ำ ด้วยการประหยัดและใช้น้ำอย่างคุ้มค่าแล้ว เราคงต้องรักษาความสะอาดแหล่งน้ำไว้ด้วย โดยไม่ทิ้งขยะ สิ่งปฏิกูล สารพิษลงสู่แม่น้ำลำธาร รวมทั้งช่วยกันปลูกป่า รักษาต้นน้ำลำธาร ไว้ให้กับลูกหลาน สร้างความยั่งยืนให้กับชนรุ่นหลังด้วย

การปฏิรูปแนวทางบริหารจัดการน้ำ

ในส่วนของรัฐบาลได้มีการปฏิรูปแนวทางบริหารจัดการน้ำ อย่างบูรณาการ ทั้งระบบ จัดทำเป็นยุทธศาสตร์ 10 ปี แล้วก็ทำไปเรื่อย ๆ ปรับเปลี่ยนได้ตามสถานการณ์ ไม่ได้ผูกพันงบประมาณไว้ทั้งหมดเช่นที่ผ่านมา เราจะขยายผลจากแนวทางของทั้ง 2 พระองค์ ทรงพะราชทานไว้ จะให้ครอบคลุม (1) การฟื้นฟูป่าต้นน้ำ (2) การแก้ปัญหาขาดแคลนน้ำอุปโภค-บริโภค ในเรื่องของการจัดทำประปาหมู่บ้าน โรงเรียนต่าง ๆ ชุมชน ชนบทให้ครบ (3) การแก้ปัญหาขาดแคลนน้ำภาคการผลิต ด้วยการพัฒนาแหล่งน้ำ น้ำบาดาล สระน้ำชุมชน ฝายประชารัฐ (4) การป้องกันอุทกภัย ด้วยการฟื้นฟูทางน้ำ ขุดลอกคูคลอง การจัดทำผังเมืองที่สอดคล้อง โดยไม่สร้างถนนให้ขวางทางน้ำ หรือสร้างชุมชนใหม่ขวางทางน้ำเหล่านั่น (5) การจัดการคุณภาพน้ำ แม่น้ำลำธาร และการบริหารจัดการเพื่อรักษาระบบนิเวศน์ ผลักดันน้ำเค็ม และ (6) การบริหารจัดการน้ำ ทั้งนอกและในเขตชลประทาน ด้วยการนำเทคโนโลยีสารสนเทศมาช่วย อย่างไรก็ตาม ทรัพยากรน้ำมีอยู่อย่างจำกัด น้ำต้นทุนจำกัด จำนวนประชากรเราเพิ่มขึ้นทุกปี การปลูกพืชต่าง ๆ นั้นใช้น้ำมากขึ้นทุกปี ฝนไม่ตกต้องตามฤดูกาลเข้าไปอีก ประกอบกับภาวะโลกร้อนด้วย ทำให้เกิดภัยทางธรรมชาติที่รุนแรง ทั้งน้ำท่วมและภัยแล้ง เชื่อมโยงกับวงจรน้ำของประเทศและของโลกทั้งสิ้น (7) การบริหารจัดการที่ดินอย่างบูรณาการ ที่เราทำในรัฐบาลนี้ เพื่อให้ประชาชนผู้ยากไร้ได้ใช้ประโยชน์จากที่ดินอย่างมีความเท่าเทียม เป็นธรรม และเป็นการแก้ไขปัญหาการบุกรุกป่าด้วยอย่างยั่งยืน

เรากำลังเร่งปรับแผนให้สอดคล้องกับวันนี้ ซึ่งแล้งมากขึ้น แล้วพี่น้องเกษตรกรเดือดร้อน แล้วผลิตน้ำประปา น้ำอุปโภค บริโภค เดือดร้อนเข้าไปอีก เพราะฉะนั้นเราได้มีการประมาณการ ไว้ล่วงหน้าแล้ว เมื่อ 2 ปีที่ผ่านมารัฐบาลนี้ก็ชี้แจงมาโดยตลอด ได้แจ้งเตือน ไว้ล่วงหน้าแล้ว ขอให้ทุกคนได้ทำวามเข้าใจ ทำอย่างไร เราจะทำให้บ้านของเรา เมืองของเรา ประชาชนของเรานั้นมีน้ำไว้ใช้มากขึ้นวันนี้ อาจจะเป็นไปได้ยาก เพราะว่าทุกคนราบดีว่าน้ำต้นทุนมีน้อย ป่าเราถูกบุกรุกมาก ป่าต้นน้ำก็น้อยลง ฝนตกน้อย แหล่งเก็บน้ำขนาดใหญ่ กลาง เล็ก เพื่อการเก็บกักน้ำฤดูฝนที่ผ่านมามีไม่เพียงพอ ซึ่งต่อเนื่องมาจากก่อน ๆ หน้านั้น ระบบส่งน้ำบางส่วนที่ทำกันมายังไม่ตรงกับพื้นที่ที่ต้องการใช้น้ำ ไม่มีการจัดระเบียบพื้นที่ใช้น้ำ

เราจำเป็นต้องหามาตรการลดความเสี่ยงในวันข้างหน้า โดยร่วมมือกันในเรื่องต่อไปนี้ (1) ประชาชน/เกษตรกร ต้องร่วมมือกัน ทั้งการใช้น้ำอุปโภค-บริโภค ในภาคการผลิตทั้งเกษตรกรรม-อุตสาหกรรม และการรักษาระบบนิเวศน์ โดยเราต้องให้ความสำคัญเร่งด่วนกับ “น้ำกิน น้ำใช้” ไว้ก่อน ต้องรักษาไว้ให้ได้ถึงฤดูฝนหน้า ดังนั้นภาคการเกษตรก็ต้องปรับพฤติกรรมในการปลูกพืช เช่นการปลูกพืชใช้น้ำน้อยแต่มีมูลค่าผลผลิตสูง ทดแทนการปลูกแบบเดิม (2) การเร่งขุดลอกคูคลอง สร้างแก้มลิง – ฝายประชารัฐ สำหรับเก็บน้ำไว้ใช้ กระจายทุกพื้นที่ รอรับน้ำฝนฤดูฝนหน้า (3) การปฏิรูประบบเศรษฐกิจและรายได้ของประเทศใหม่ ทั้งหมด โดยปรับสัดส่วนรายได้ ไม่ให้มาจากการส่งออกทางภาคเกษตร แต่เพียงอย่างเดียว หรืออื่น ๆ ด้วย ฝากไว้อย่างเดียวไม่ได้แล้ว ตอนนี้ (4) เร่งการวิจัยและพัฒนา สร้างนวัตกรรม ผลิตเอง แปรรูป เพิ่มมูลค่า ผลิตใช้ในประเทศก่อนตามความต้องการ ที่เหลือเราก็ส่งออก รวมถึงการลดต้นทุนการผลิต เพื่อสามารถแข่งขันราคาได้ในตลาดโลก (5) การปฏิรูปโครงสร้างการเกษตร โดยจะต้องคำนึงถึง ความต้องการ การผลิตที่เรียกว่า Demand Supply ในประเทศ ลดการส่งออกพืชผลทางการเกษตร ข้าว อ้อย มันสำปะหลัง ยางพารา ในลักษณะวัตถุดิบ แต่เพียงอย่างเดียว ไม่ได้ เพราะต้นทุนเราสูงกว่า การผลิตใช้น้ำมากกว่า ราคาขายเราไปลดราคา แข่งขันกับต่างประเทศไม่ได้ ก็ทำให้เกิดการขาดทุน คนไม่สนใจที่จะซื้อของจากเราเพราะราคาสูง ถ้าขายราคาต่ำ เกษตรกรก็ไม่มีรายได้ นี่พันกันไปทั้งหมด

ผมไม่อยากให้พี่น้องเกษตรกรลำบาก ในระยะต่อไป ถ้าเราเข้าใจกันในประเด็นนี้ จะดีขึ้น เพราะถ้าหากเราไม่แก้ไขแล้ว จะกระทบรายได้ของประเทศ รายได้ของประชาชน เกษตรกร จาก ผลกระทบจากภัยแล้ง แล้วก็สภาพลมฟ้าอากาศโลกเปลี่ยนแปลง ในทศวรรษต่อไป เรื่องเหล่านี้เป็นความท้าทายของประเทศไทย คนไทย ว่าเราจะผ่านปัญหาเหล่านี้ได้อย่างไรหรือไม่ เราจะมาต่อต้าน ขัดแย้ง แย่งน้ำใช้กันวันนี้ไม่ได้แล้ว ทุกคนต้องการน้ำ มาก ๆ เพื่อจะเพาะปลูกอย่างเดียว คงไม่ได้แล้ว น้ำประปา น้ำบริโภค อุปโภค ไม่มีอีกจะทำยังไง ทุกอย่างมีผลกระทบกับคนทั้ง 70 ล้าน ทั้งคน ทั้งสัตว์ ทั้งพืชด้วยนะ เพราะฉะนั้นเรามีหลากหลายสาขาอาชีพ ต้องเผื่อแผ่แบ่งปันกัน และทุกคนอาจจะต้องนำน้ำ ที่ใช้แล้ว มาปรับปรุง แล้วก็นำมาใช้ใหม่ วันนี้ช่วยกันทั้งหมดอยู่แล้ว ขอบคุณ

ชะลอการบังคับใช้ พ.ร.บ.ธุรกิจรักษาความปลอดภัย พ.ศ. 2558

เรื่องที่อยากสร้างความเข้าใจในวันนี้เพิ่มเติม 1. กรณีที่กลุ่มสหพันธ์ธุรกิจรักษาความปลอดภัยที่มีการยื่นเรื่องขอให้ชะลอการบังคับใช้ พ.ร.บ.ธุรกิจรักษาความปลอดภัย พ.ศ. 2558 ซึ่งมีผลตามกฎหมายเมื่อ 5 มี.ค. 59 ที่ผ่านมา เหตุผลนั้น เราจะต้องมีการพัฒนาผู้ประกอบการธุรกิจ รปภ. จำนวนมาก แต่มีมาตรฐานที่แตกต่างกัน เพื่ออนาคตด้วยเพื่อจะให้การบริการรักษาความปลอดภัยให้กับประชาชน เอกชนต่าง ๆ มีประสิทธิภาพ เพราะว่ามีความใกล้ชิด เกี่ยวข้อง แล้วก็ทำให้ประชาชนไว้วางใจ ในการใช้ รปภ. เหล่านี้ในด้านการรักษาความปลอดภัยในชีวิต ทรัพย์สิน รวมทั้งส่งผลต่อความสงบเรียบร้อยของสังคม เราจำเป็นต้องกำหนดมาตรฐานของบริษัท และเสริมสร้างศักยภาพของพนักงาน รปภ. ให้เกิดประโยชน์สูงสุด เพื่อให้เกิดประโยชน์ต่อผู้ใช้บริการและสังคมโดยรวม ไม่มีเจตนาสร้างความลำบากแก่ผู้ประกอบการ หรือพนักงาน รปภ. ก็ขอความร่วมมือ เป็นภาระเพิ่มเติมเล็กน้อย แต่มีประโยชน์ระยะยาว ประเด็นสำคัญ คือ (1) บริษัท รปภ. ต้องจดทะเบียนให้ถูกต้อง มีใบอนุญาต และปฏิบัติตามมาตรฐานการ รปภ. ให้ความร่วมมือกับเจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคงในพื้นที่ด้วย (2) พนักงาน รปภ. ต้องมีสัญชาติไทย จบ ม.3 อันนี้เป็นประเด็นใหญ่ ซึ่งเป็นการศึกษาภาคบังคับตามที่กฎหมาย วันนี้ก็ยังมีคนที่มีระดับการศึกษาต่ำกว่า ม. 3 ก็ต้องมาดูกันว่าจะทำอย่างไร แต่อนาคตน่าจะต้องเป็นอย่างนั้น วันนี้อาจจะต้องมาทบทวนกันตรงนี้อีกนิดหนึ่ง ขอให้บริษัทต่าง ๆ ได้ผ่อนผันให้ทำงานตรงนี้ไปก่อน แล้วก็เดี๋ยว กระทรวงแรงงาน สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ความมั่นคง จะหารือกันอีกทีว่าตรงนี้จะทำกันอย่างไร อย่าให้ใครเดือดร้อนนะครับ แต่ทุกคนต้องปรับปรุงตัวเองด้วย อาจจะต้องมีหลักสูตรอบรม รปภ. เพิ่มเติมแล้วก็มีใบรับรองใบอนุญาต สำหรับผู้ที่ทำงานอยู่แล้ว แต่ยังไม่เข้าเกณฑ์ที่กำหนดไปใหม่ จะทำอย่างไร คนมาใหม่จะทำอย่างไร มีเวลาเปลี่ยนผ่านเท่าไร ตรงนี้สำคัญที่สุดเลย ที่สำคัญก็คือว่าจะต้องไม่มีประวัติอาชญากรรมในคดีร้ายแรง ไม่มีลักษณะต้องห้าม เช่น ติดยาเสพติด วิกลจริต เหล่านี้เป็นต้น เป็นอย่างนี้ก็ไปดูแลใครไม่ได้อยู่แล้ว

ไม่อยากให้ทุกคนนั้นใช้ไปขัดแย้ง หรือเข้าใจผิดรัฐบาล เราต้องการยกระดับมาตรฐาน ทุกอย่างต้องยกหมด ทุกอย่าง มาตรฐานเราค่อนข้างต่ำ ทุกเรื่องเลย วันนี้เราพยายามทำให้ดีขึ้น แต่แน่นอน ถ้ามีปัญหาก็แก้ไขกันไป วันนี้รับฟังทุกอันอยู่แล้ววันนี้ก็อยากทำให้เกิดการยอมรับ ทราบดีว่าพนักงาน รปภ.นั้น เป็นกลไกหนึ่งในการป้องกันอาชญากรรม และสนับสนุนงานเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองและตำรวจซึ่งไม่สามารถไปดูแลได้ทั้งหมดอยู่แล้ว อย่างไรก็ตามเรามีบทยกเว้นบางเรื่องไว้แล้ว แล้วเราจะดูแลในมาตรการต่าง ๆ เพื่อช่วยเหลือในช่วงการเปลี่ยนผ่านนี้ ขอให้ใจเย็น ๆ บริษัทต่าง ๆ ขอว่าอย่าเพิ่งไล่ใครออก เดี๋ยวจะให้ตรวจสอบด้วย เราจะต้องพิจารณาหามาตรากรในช่วงระยะเปลี่ยนผ่านนี้ให้ได้ ขอให้ความเป็นธรรมกับเขาด้วย

ยันไม่ยกเลิกการศึกษาผลกระทบ EIA หรือ EHIA เพียงแต่เราไม่ต้องรอผลพวกนั้น 

เรื่องที่ 2 การขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศ รัฐบาลและ คสช. ได้มีการปลดล็อตเงื่อนเวลา ที่เป็นอุปสรรคในการเดินหน้าโครงการต่าง ๆ ของประเทศ มีหลายโครงการต้องล่าช้า 5 ปี 10 ปีมาแล้ว ทำไม่ได้สักอย่าง บางอย่างต้องพับโครงการไป แล้ววันนี้ก็เดือดร้อนไปหมด เพราะไม่ได้ทำยังไง เพราะความไม่เข้าใจ เพราะความขัดแย้งของประชาชน โดยการบิดเบือนอะไรก็แล้วแต่ เราต้องสามารถทำอย่างไรให้สามารดำเนินการได้ เพื่อจะรองรับสิ่งที่จะเกิดผลกระทบในระยะใกล้ ระยะไกลได้ด้วย ไม่ใช่ว่าเรายกเลิกการศึกษาผลกระทบ EIA หรือ EHIA ไม่ใช่ คือเพียงแต่เราไม่ต้องรอผลพวกนั้น แต่เราสามารถจะเริ่มต้นทำโครงการ เริ่มหาผู้ร่วมลงทุน การร่าง TOR ไว้ก่อน สัญญาจ้างรอไว้ ใครสนใจก็เข้ามา ห้ามเซ็นสัญญาโดยเด็ดขาด จนว่าจะผ่าน EIA หรือ EHIAก็ตาม ทำ “คู่ขนาน” กันไป จะขับเคลื่อนเศรษฐกิจให้เร็วขึ้น ละเลยไม่ได้อยู่แล้ว สุขภาพอนามัยประชาชน หรือผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อมแต่อย่างใด เพราะต่างประเทศเขาก็มีกฎหมายเหล่านี้อยู่ เพียงแต่ว่าเราลดเวลาให้ได้ ไม่เช่นนั้นสร้างไม่ได้ ทำไม่ได้แล้วทำยังไง ไม่ว่าจะเป็น สาธารณูปโภคพื้นฐาน อ่างเก็บน้ำ โครงการใหญ่ ๆ ติดไปทั้งหมดเลย ติดทั้งการทำสัญญา ติดทั้งการทำโครงการ ติดทั้งการทำ EIA ทำกลับไปกลับมา แล้วทำไม่ได้ วันนี้ทำคู่ขนานกันไปได้หรือไม่ แล้ว ผ่าน EIA เมื่อไร EIA เป็นบวกเมื่อไร เราก็ดำเนินการได้เลย เซ็นสัญญากันได้เลย แล้วทุกคนก็ได้มาช่วยด้วย มาช่วยทำความเข้าใจกับประชาชนว่า ได้ทำแล้วจะทำยังไง เทคนิค เทคโนโลยี บางทีฝ่ายรัฐไปพูดคนเดียว ไม่เชื่อ ไม่ฟังกัน ก็ต้องให้ผู้ที่ได้รับในการที่อนุมัติโครงการไปแล้ว ไปชี้แจงในเทคนิคของตัวเองด้วย ก็เป็นส่วนหนึ่งที่จะทำให้ทุกอย่างเข้าใจกันได้มากขึ้น

เราจะต้องพัฒนาคุณภาพชีวิตความเป็นอยู่ของพี่น้องประชาชนให้ดีขึ้น มีโครงการเมกะโปรเจ็ทด้านโครงสร้างพื้นฐานคมนาคม ชลประทาน ที่อยู่อาศัย โรงพยาบาล การป้องกันสาธารณภัย วันนี้เราต้องทำให้กระบวนการขั้นตอนนั้นมีประสิทธิภาพ รวดเร็ว คู่ขนานกันไป แล้วก็ไม่ต้องให้เกิดการทุจริตขึ้นมาอีก ที่ผ่านมาทำไม่ได้หลายอย่าง มีปัญหาในเรื่องของความสมบูรณ์ของการรายงาน ใช้เวลานานมากเลย ถ้าท่านเข้ามาอยู่อย่างท่านจะทราบว่าปัญหามากมาย พอมากก็ทำไม่ได้ ทำไม่ได้ต่อว่ารัฐบาล ว่าทำไมทำไม่ได้ ให้ใช้อำนาจ ใช้ได้ไหมในเรื่องเหล่านี้เพราะ เป็นเรื่องของกฎหมายระหว่างประเทศด้วย เป็นเรื่องของสุขภาพประชาชนด้วย

สิ่งเหล่านี้ความพอใจด้วย แต่ทุกคนต้องร่วมมือกัน มากบ้างน้อยบ้าง ผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย ทั้งหมด ส่วนได้ต้องมาก ส่วนเสียก็นิดหน่อย ส่วนเสียนี่จะดูแลยังไง จะเยียวยายังไง จะหาอาชีพ รายได้ให้เขาอย่างไร จะต้องศึกษาทั้งหมด แล้วก็ไปกันให้ได้ไม่เช่นนั้นพอไม่ได้ ส่วนใหญ่เสีย ส่วนน้อยได้อยู่ตรงนี้ ไม่ได้ ทุกอย่าง อยากให้ทำให้เร็ว ต้องร่วมมือกัน เข้าใจกัน สร้างความเข้มแข็งจากภายในนะครับ ด้วยการผลักดันมาตรการช่วยเหลือประชาชนผู้มีรายได้น้อย มาตรการกระตุ้นการลงทุน การลงทุนด้านโครงสร้างพื้นฐานขนาดใหญ่ วันนี้ 1 ล้านกว่าล้าน ยังใช้ไม่ได้เลย เพราะว่าอะไร ต่อต้านขัดแย้งกันทั้งหมด พอเสร็จแล้ว ถ้าผ่านได้ต้องไปเสียเวลาทำสัญญา ร่าง TOR อะไรกันใหม่ หาผู้ประกอบการ เสียเวลาไปอีกเท่าหนึ่ง เหมือนเดิม ลดเวลาให้ลดลงเท่านั้นเอง แต่ขั้นตอนต่าง ๆ นั้นต้องมีประสิทธิภาพ ทำ EIA ต่าง ๆ เหล่านั้น ก็กรุณา คณะกรรมการต่าง ๆ ผู้ทรงคุณวุฒิต่าง ๆ ต้องช่วยกันตรงนี้ ถ้ายังคงเอาหลายเรื่องมาขัดแย้งทำไม่ได้ทั้งสิ้น แล้วอนาคตเราจะเป็นอย่างไร บ้านเมืองจะเกิดอะไรขึ้น ก็จะซ้ำเติมพี่น้องประชาชนทุกภาคส่วน เพราะกระทบทั้งสิ้น อยู่ในห่วงโซ่เดียวกัน เรื่องน้ำก็เกี่ยวกับการเกษตร ถ้าเกี่ยวกับสาธารณูปโภคพื้นฐาน เกี่ยวกับพี่น้อง การสัญจรไปมา การคมนาคม การเจริญเติบโตของบ้านเมือง ทุกอย่างพันกันไปหมด เศรษฐกิจก็ตามไปด้วย โดยรวมของประเทศ ผมไม่อยากให้เป็นเพียงแค่พิธีกรรม ต้องทำให้มีประสิทธิภาพ รัฐบาลมีหน้าที่ต้องมีการปฏิรูปการบริหารราชการแผ่นดิน ให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุด ใช้เวลางบประมาณให้คุ้มค่า และรักษาผลประโยชน์ของประชาชนของประเทศโดยรวมทั้งประเทศ

การต่างประเทศ การเจรจาทางการค้า หรือการจัดทำพันธะสัญญาในประชาคมโลก มีปัญหามากมาย 

เรื่องที่ 3. มีผลต่อเศรษฐกิจด้วยในเรื่องของการต่างประเทศ การเจรจาทางการค้า หรือการจัดทำพันธะสัญญาในประชาคมโลก มีปัญหามากมาย ปัจจุบันมีการเปลี่ยนแปลงของโลกใบนี้ เราพร้อมหรือยัง ในเรื่องของการเร่งเปิดตลาดใหม่ การเจรจา FTA RCEP วันนี้เราคืบหน้าไปหลายประเทศแล้ว ในขณะนี้ซึ่งที่ผ่านมาไม่ค่อยได้ทำ ไม่ตามเรื่อง การศึกษาเรื่อง PPP อะไรที่ตกลงกันได้ ไม่ใช่ 90% แล้ว เหลืออีก 10% ยังไม่ได้ ก็ทำ 90% ไปก่อนได้ไหม อีก 10 % ทำทีหลังได้หรือไม่ วันนี้ก็พูด หลายประเทศ เขาก็เห็นชอบด้วย ไม่เช่นั้นเดินไม่ได้ ต้องการเร่งให้เกิดขึ้นใน 2 ปีให้ได้ เป็นการเริ่มต้น ต่อไปท่านก็ทำต่อไป รัฐบาลต่อไป แต่ประเด็นสำคัญก็คือว่าถ้าเราพูดกับเขาไม่รู้เรื่อง ไม่มียุทธศาสตร์ชัดเจน ไม่ใช่การที่เราจะกำหนดเองประเทศเดียว ขึ้นอยู่กับความไว้เนื้อเชื่อใจ ของผู้นำรัฐบาล ของรัฐบาล และวิธีการแก้ปัญหา วิธีบริหารราชการแผ่นดินที่เป็น ธรรมาภิบาล คิดว่าทั้งโลกเขาดูอย่างนี้อยู่ ทำตามนี้ เราต้องมองทั้งในประเทศ / CLMV / อาเซียน / อาเซียน+3 +6 อะไรก็แล้วแต่ สหภาพยุโรป / กลุ่มประเทศตะวันตก / กลุ่มประเทศแอฟริกา / กลุ่มประเทศหมู่เกาะ / กลุ่มประเทศมุสลิม ทั้งหมดอยู่ในห่วงโซ่เดียวกัน ทั้งโลก เราจะต้องสร้างภาคี – กลุ่มประเทศเหล่านั้น ในลักษณะต้นทาง (การผลิต) – กลางทาง (การแปรรูป) –ปลายทาง (การตลาด) / โดยมีทั้งผลิตร่วม – ร่วมทุน ยกระดับวัสดุต้นทุน / วันนี้อยากให้ทุกคนเข้าใจในเรื่องของ “สินค้า GI” มีปัญหามากสำหรับเราในอนาคต เพราะว่าต่อไปนี้ เขาจะซื้อเฉพาะสินค้าที่ระบุว่า ผลิตมาจากที่ใด ซึ่งมีลักษณะภูมิศาสตร์แตกต่างกัน ถ้ามาจากตรงโน้น เอามาผลิตตรงนี้ ไปขายตรงโน้น ไม่ได้ วัสดุต้นทุนที่ไหน ทำที่นั่น แล้วก็ส่งขายตลาดโลก นี่สำคัญ เราคงต้องเร่งในเรื่องการจดทะเบียนลิขสิทธิ์ หรือเรียกว่าทรัพย์สินทางปัญญา ที่ผ่านมาผมตรวจสอบแล้วค้างอยู่ประมาณ 2 หมื่นกว่ารายการ ได้เร่งให้กระทรวงพาณิชย์ กรมทรัพย์สินทางปัญญา ภาคเอกชน ภาควิชาการ มาช่วยกัน ในการทำให้สำเร็จโดยเร็ว เพราะว่าจะต้องไปผูกพันในสัญญาต่าง ๆ เหล่านั้น กติกา ต่าง ๆ ที่มีมาใหม่นี่ วันนี้ขอบคุณ กระทรวงพาณิชย์ก็เร่งรัดเรื่องนี้อยู่ ที่ผ่านมาก็ไม่ชัดเจน

วันนี้จึงมีความเสี่ยงทุกเรื่อง หลายอย่างถ้าเราทำอย่างสะเปะ สะปะ อ่อนแอ ไม่มียุทธศาสตร์ ไม่มีวิสัยทัศน์ ก็ทำให้เสียเปรียบ วันนี้ช้า เกือบจะช้าไปด้วยซ้ำไป ด้วยการไม่เป็นสากล กฎหมายไม่ปรับเปลี่ยนให้สอดคล้อง การลงทุนก็ไม่อยากมีใครลงทุนกับเรา และสิ่งสำคัญที่สุดคือหากการเมืองไม่มีเสถียรภาพประเทศไม่ปลอดภัย มีความขัดแย้ง มีการเดินขบวนต่าง ๆ เหล่านี้ เสียหายทั้งสิ้น ไม่ใช่ผมเสียหายอย่างเดียวหรอก แต่ประเทศเสียหาย ท่านคิดเอาแล้วกัน ว่าท่านควรจะต้องทำกันอย่างไรบางอย่างก็แก้ได้ ใช้เวลาหน่อย ไม่ใช่เรียกร้องกันทุกเรื่องไป

ที่ผ่านมา เป็นสิบ ๆ ปี ไม่ได้แก้เลย ท่านจะทำยังไง แก้ให้ท่านทั้งหมด เราไม่ได้เลือกทำด้วยซ้ำไป ทำทุกเรื่องแต่เรื่องไหนสำคัญกว่าก็ทำก่อนเรื่องไหนที่สำคัญน้อยกว่า ทำคู่ขนาน เราต้องไปรื้อ ไปแก้ไขอะไรต่าง ๆ แก้ปัญหาทั้งหมดเลย ที่ทำไว้กัน ที่ผ่านมาเพราะว่าอะไร เพราะไม่สนใจกัน กวดขัน แล้วก็โยนความผิดให้ราชการ ข้าราชการเขาเดือดร้อน ผู้บริหารก็จะต้องบริหารประเทศให้มีธรรมาภิบาล อย่าอ้างแต่ประชาธิปไตย อ้างแต่ประชาชน อ้างสิทธิมนุษยชน แล้วไม่รับผิดชอบใด ๆ บอกว่าข้าราชการรับผิดชอบ เพราะเป็นคนทำ เขาเป็นเพียงแค่นโยบาย วันนี้ทำทั้งนโยบาย ทั้งกำกับดูแลการปฏิบัติของเขาด้วย ให้แนวทางแนะนำต่าง ๆ หาวิธีการที่ถูกต้องให้ได้ ท่านให้เขาหรือยัง วันนี้ อย่ามาพูดวันนี้

ที่ผ่านมาโครงการอะไรที่ออกมาเป็นของใคร ที่ออกมาได้ทั้งหมด ส่วนใหญ่ก็มีผลประโยชน์ ตรงนั้นตรงนี้ ไม่มีการวางโครงสร้างชัดเจน เป็นภูมิภาค เป็นกลุ่มจังหวัด เป็นจังหวัด วันนี้ทำทุกอย่าง เพื่อวางรากฐานของประเทศให้เข้มแข็งเป็นภูมิภาค ไม่คลุมเครือ แล้วไปก้าวก่าย ไม่สนับสนุนโครงการที่ทำมาจากหน่วยงาน ไม่ทำ เขาอยากเสนออะไรเสนอขึ้นมา จะพิจารณาในครม. ในคณะทำงาน คณะขับเคลื่อนว่า สมควรทำตอนนี้หรือไม่ รับฟังเขาไง ข้าราชการเขามีกำลังใจ ในการที่จะทำงานกับผม ถ้าหากว่าเหล่านี้ไม่เกิดในวันหน้า ข้าราชการหมดกำลังใจเหมือนเดิม รอให้สั่งมาแล้วกัน เสนอมาไม่ตอบสนอง ตามหลักวิชาการ ไม่ทำ เพราะอะไร เพราะการใช้อำนาจบริหารไปทาบทับ แล้วใช้การลงโทษทางวินัยผู้ไม่ปฏิบัติตามในสิ่งที่ไม่ค่อยถูก แล้วก็ตั้งคนที่ยอมทำให้ มาอยู่ในตำแหน่งระดับสูง เหล่านี้เป็นปัญหาทั้งประเทศ ที่ผ่านมา ไม่อยากให้ความผิดไปตกอยู่กับข้าราชการอีกต่อไป เราต้องแก้ไขให้ได้ เราอย่าไปเคยชินกับการใช้อำนาจในทางที่ไม่ถูกต้อง ที่ผ่านมายาวนาน วันนี้ คสช. เข้ามาก็มีผู้เสียประโยชน์ ที่เคยมีเคยได้ เรียกร้องมา บิดเบือนกันไป ข้อเท็จจริง เลยถูกบิดเบือนทั้งหมด ต้องพูด วันนี้ขอให้ประชาชนช่วยกัน อย่าตกเป็นเครื่องมือของใครอีกต่อไป

ความเชื่อมั่นในกระบวนการยุติธรรม-เคารพกฎหมาย ชี้ที่ผ่านมาประชาชนถูกมอมเมาสร้างภาพลวงตาทำให้ไม่ฉลาดขึ้น ต้องพึ่งพาคนอื่นตลอดเวลา เรารับของแจก 

เรื่องที่ 4. เรื่องความเชื่อมั่นในกระบวน การยุติธรรม และการเคารพกฎหมาย วันนี้เราต้องเร่งรัดดำเนินการให้ได้ ระยะเวลาที่ผมเหลืออยู่ ผมกำลังให้ทบทวนคดีทั้งหมดออกมา แล้วให้ทุกหน่วยงาน ไม่ว่าจะเป็นศาล องค์กรอิสระต่าง ๆ ขอความร่วมมือ ให้ช่วยจัดระเบียบมาว่าอะไรต่าง ๆ จะต้องทำให้เรียบร้อยโดยเร็ว ขึ้นกับความไว้เนื้อเชื่อใจ ทำให้ต่างประเทศไว้วางใจ และประชาชนไม่เคลื่อนไหวกันอีก แต่ต้องเป็นธรรม อย่าให้ใครมาว่าเราไม่เป็นธรรม 2 มาตรฐาน ต้องทำทั้งคู่ ทำไม่ว่าจะฝ่ายไหนก็ตาม ทำทั้งหมด ใครทำให้เสียหายมากก็อาจจะต้องทำเร็วขึ้น เสียหายน้อย รอได้แล้วก็ทำต่อ ทำทุกอย่างเละไปหมด ค้างอยู่เป็นหลายพัน หลายหมื่นคดี เพราะฉะนั้นใครก็ตามที่บริหารราชการแผ่นดิน ในห้วงที่ผ่านมา เท่ากับผ่าน 3 อำนาจ อำนาจตามประชาธิปไตยทั้งหมด แล้วท่านก็ตั้งคนเหล่านั้นขึ้นมาเอง อนุมัติกันมา อะไรกันมา ผมว่าเขาตั้งใจดี ทุกหน่วยงาน ไม่ว่าจะข้าราชการทกฝ่ายนะ เพราะว่าต้องเชื่อมโยงกันไง แล้วมีกฎหมายของเขา มีการวิธีพิจาณาต่าง ๆ ของเขาเอง แต่ถ้าเราไปเกี่ยวข้องมาก ๆ ก้าวล่วงมาก ๆ กระบวนการยุติธรรมเสียหาย ความไว้เนื้อเชื่อใจก็หายไป ไม่ใช่ว่า ถ้าเขาตัดสินมาเข้าตัวเองดีหมด อะไรที่ต้องถูกบังคับบอกไม่ใช่ ไม่เป็นธรรม แบบนี้ควรจะกลับมาบริหาราชการแผ่นดินอีกหรือไม่ ไม่ควรเลย ในส่วนของผมเอง เพราะว่าถ้าสิ่งเหล่านี้เกิดขึ้นต่อไป ประเทศชาติถอยหลัง หยุดอยู่กับที่ หรือถอยหลังไปกว่าเดิมมากมาย ประเทศอื่นเขาไม่มาคบค้าสมาคมด้วยถ้าเราทำอย่างนี้อีกต่อไป คือการ (1) ไม่บริหารราชการด้วยความสุจริต (2) ไม่เคารพกฎหมาย กระบวนการยุติธรรม (3) ไม่มีธรรมาภิบาล (4) ไม่กำกับดูแล ในเรื่องนโยบาย ในสิ่งที่ถูกต้อง ขาดความรับผิดชอบ เอาผลประโยชน์ที่มิควรมี มิควรได้ แล้วโยนความผิดไปให้ข้าราชการบกพร่อง ถูกดำเนินคดีทั้งหมด ตอนนี้มีปัญหาหมด (5) ก้าวล่วงทุกอำนาจ ของส่วนราชการ รังแกข้าราชการ (6) ไม่สร้างความเข้มแข็งให้กับประเทศชาติและประชาชน ขีดความสามารถเราแย่ลง ความเข้มแข็งแย่ลง ประชาชนถูกมอมเมา ถูกสร้างภาพลวงตา เหมือนกับพยายามทำให้ประชาชนนั้นไม่ฉลาดขึ้น ต้องพึ่งพาคนอื่นตลอดเวลา เรารับของแจก เงินให้อย่างเดียวต้องสร้างความเข้มแข็งให้เขาด้วยเหมือนกับเราให้เบ็ดไปตกปลา เขา ลืมตาอ้าปากไม่ได้สักที ไม่รู้เป็นไร ควบคุมง่ายมั้ง วันนี้ เราจะต้องแก้ให้ได้ ให้เขาฉลาดขึ้น ให้เขาแข็งแรงขึ้น เราจะอยู่กันอย่างสงบ ที่ผ่านมานั้นประชาชนเหมือนกับไม่ได้รับการพัฒนาตนเอง ด้วยรัฐบาล ต้องสอนเขา ให้เขาเรียนรู้ ไม่ไปยกวาทะกรรมมาบิดเบือน กลายเป็นชนชั้น ไม่ใช่ เป็นเรื่องของรายได้ ที่ไม่เพียงพอ เราต้องทำให้เขาเพียงพอเท่านั้นเอง ต้องสร้างความเข้มแข็งให้ได้ ระดับพื้นที่จะต้องไม่ไปผูกมัดผูกพันกับอำนาจทางการเมือง หรือประโยชน์ทางการเมือง เรามีมานานแล้ว แบบนี้ ต้องไม่ให้เกิดขึ้นอีก อันเก่าต้องแก้ปัญหากันไป ทุกท่านรู้ดีอยู่แล้ว ไม่ว่าจะนักการเมือง พรรคการเมือง ไปทบทวนตัวเองด้วย อย่าทำเป็นหลงลืม ในสิ่งที่ท่านทำไปแล้ว ผิดแก้ใหม่เท่านั้นเอง ทำไมไม่ได้ ทำไมให้คนอื่นเขามาร่วมด้วยไม่ได้เหรอ ท่านจะใช้อำนาจของท่านอย่างเดียว แล้วอ้างประชาชน แต่ท่านทำให้ประชาชนยากจน ประชาชนขัดแย้ง ประชาชนเข้าใจผิด อ่อนแอเหล่านี้เป็นปัญหาทั้งสิ้น

ชี้จะหากฏหมายมาดูว่าพูดให้กับคนที่ทำผิดกฎหมาย ผิดหรือไม่

5. เรื่องต่อไปคือ เรื่องการแบ่งแยกและปกครอง คือ Divide and Rule ทำให้แยกเป็นกลุ่ม ๆ ดูแลง่ายดี ไม่ว่าจะเป็นข้าราชการ – ประชาชน แบ่งแยกฝ่ายนี้ ฝ่ายโน้น มีความรุนแรงสนับสนุนด้วย กองกำลังอะไรก็แล้วแต่ จะ 1 -2 -3 อะไรแล้วแต่ไปว่ามา ไม่คำนึงถึงชื่อเสียงประเทศชาติ / ใช้อาวุธ ใช้ความรุนแรง มีการทำลายการประชุมระดับประเทศ สร้างความอับอายต่อสายตาชาวโลกต่อเนื่อง ไม่ยอมรับผิดชอบตามกฎหมาย หรือต่อสู้ตามกระบวนการยุติธรรม อ้างประชาธิปไตยอย่างเดียว ป้ายความผิด บิดเบือน เอาโลกมากดดันประเทศ มันสมควรไหม เห็นแก่ตัว ประชาชนมีเกือบ 70 ล้านคน ประเทศไทย ต้องมาเดือดร้อนกับคนไม่กี่คน วันนี้ก็ยังไม่หยุดเลย ไม่กี่กลุ่มเท่านั้นเองที่ไม่หวังดี ไปหามา ไม่อยากให้ประชาชนเชื่อสิ่งเหล่านี้ต่อไป สื่อไม่รู้จะห้ามยังไง ท่านแพร่ไปเรื่อย จริงบ้างไม่จริงบ้าง ถ้าจริง โอเค ยอมรับ ถ้าไม่จริงเสียหายประเทศ แล้วเป็นผลเสียต่อการขับเคลื่อนประเทศ

ผมขอตำหนิผู้ที่พูดเรื่องที่ไม่จริง บิดเบือน คือไปพูดให้กับคนที่ทำผิดกฎหมายก็ผิด ต่อไปจะหากฎหมายสักอย่างมาดูว่าผิดหรือไม่ สนับสนุนการกระทำความผิด ขอให้ระมัดระวังด้วย วันหน้าอาจจะต้องถูกดำเนินคดี เพราะเช่นนั้น ถ้าท่านพิจารณาข้อเท็จจริง รัฐบาลและ คสช. ต้องการอำนาจ ต้องการอยู่ในอำนาจให้นานที่สุด ทำไมจะต้องเลือกตั้ง อยู่ในอำนาจต่อไปไม่ดี หรือ? วันนี้มีอำนาจเต็มอยู่แล้ว ต่างประเทศผมคุยทุกประเทศ เขาถามว่าแค่เลือกตั้งเท่านั้นเอง แต่นักการเมืองขยายความ ทุกเรื่อง รัฐธรรมนูญ ทุกประเด็น แล้วเน้นเรื่องไม่เป็นประชาธิปไตย สืบทอดอำนาจ แล้วผมถามที่ผมทำวันนี้ เพื่อใคร แล้วที่ท่านว่าผมนี่ท่านจะทำเพื่อใคร ท่านพูดเลยว่าท่านจะทำอะไรต่อไป ไม่ใช่ประชาธิปไตย ประชาชนเลือกตั้ง แล้วไม่พูดว่าจะทำอะไร ปฏิรูปหรือไม่ เพราะฉะนั้นขอให้ทุกอย่างเดินหน้าไปให้ได้ วันนี้ต่างประเทศมองเรา 90% แล้ว ด้วยความเชื่อมั่นในรัฐบาล แต่มีอย่างเดียวคือการเลือกตั้ง ขอให้รัฐบาล คสช. รักษาสถานการณ์ ให้สงบ ปลอดภัย ทุกประเทศคาดหวังอย่างนั้น มีเสถียรภาพแบบนี้ตลอดไปให้รับรองกับเขา เพราะฉะนั้นคนจะรับรองต่อจากผมคือใคร รัฐบาลต่อไป ออกมาพูดวันนี้ให้ต่างชาติเขาได้ยินว่าท่านเป็นรัฐบาลแล้ว เลือกตั้งแล้ว ท่านจะทำให้ปลอดภัย เหตุการณ์ที่ว่าทั้งหมดมันไม่เกิดขึ้น เขาไม่อยากให้ ไม่มีใครอยากให้เกิดขึ้นหรอก ต่างประเทศ มีผลเสียต่อการลงทุนของเขา เพราะฉะนั้นกรุณาทำความเข้าใจในเรื่องของ รัฐธรรมนูญ ประชามติ เลือกตั้ง ปฏิรูป ยุทธศาสตร์ชาติ แผนสภาพัฒน์ฯ นโยบายความมั่นคงว่าควรจะต้องทำอะไรต่อไป ให้เชื่อมโยงกันให้ได้ อยากให้ทุกคนอธิบายให้ได้ กฎหมาย 400 กว่าฉบับ วันนี้เราขับเคลื่อนมาแทบตาย 2 ปีกว่า บางอย่างออกได้อยู่ บางอย่างพิจาณา 3 วาระอยู่ ยังติดอยู่ ทำไมเราต้องออก ให้ทันสมัย เป็นสากล ให้ดูแลประชาชนให้ทั่วถึง เป็นธรรม ลดความเหลื่อมล้ำ กฎหมายคือทำให้คนไม่เหลือมล้ำกัน ที่ผ่านมา ออกไม่ได้ทั้งสิ้น

เรื่องที่ 6. คือการปรับปรุงและแก้ไขกฎหมาย เพื่อเสริมภาพลักษณ์อันดีของประเทศไทย ในเวทีการเมืองระหว่างประเทศ ขับเคลื่อนเศรษฐกิจและสังคม สำคัญ ล่าสุดที่เสนอไป สคช. ให้เห็นชอบ ก็คือพระราชบัญญัติวิธีพิจารณาคดีค้ามนุษย์ ได้สำเร็จ ใช้เวลาเพียง 5 เดือน นับตั้งแต่วันยกร่าง ภายใต้การทำงานความร่วมกันของหลายฝ่าย ทั้งท่านผู้พิพากษา – ท่านอัยการหลายท่าน และผู้แทนหน่วยราชการ มาหารือร่วมกัน มีผู้ทรง คุณวุฒิ จากอีกหลายหน่วยงาน มีประเด็นที่สำคัญ ได้แก่ (1) ใช้ระบบไต่สวนในคดีค้ามนุษย์แทนระบบกล่าวหา ตั้งแผนกคดีค้ามนุษย์ ในศาลอุทธรณ์ ซึ่งจะช่วยให้การพิจารณาคดีค้ามนุษย์มีความรวดเร็วขึ้นผูกพันหลายอย่างไง ทั้งเจ้าหน้าที ที่กระทำความผิด ทั้งเหยื่อ ทั้งผู้ประกอบการ ทั้งหมดพันกันไปหมด เรื่องที่ (2) คือมีการปรับปรุงเรื่องการสั่งปล่อยตัวผู้ต้องหาชั่วคราว และกำหนดมาตรการป้องกันการหลบหนี โดยศาลสามารถสั่งให้ใช้อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ ในการตรวจสอบ หรือจำกัดการเดินทางของผู้ที่ได้รับการปล่อยตัวชั่วคราวได้ เพื่อลดภาระในการที่จะ ความแน่นของผู้ต้องหาในเรือนจำเหลานี้ ต้องหาวิธใหม่ ๆ เหมือนที่ต่างประเทศเขาทำกันอยู่บ้า แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นอยู่ที่เราจะช่วยกันยังไง เรื่องที่ (3) มีการใช้ระบบการสืบพยานผ่านทางจอภาพและนำเทคโนโลยีสารสนเทศมาใช้ให้มากขึ้นในการดำเนินคดี การต่อสู้คดีอะไรแล้วแต่ เช่น การเบิกความจากศาลอื่น หรือสถานที่ทำการของทางราชการ หรือสถานที่อื่น ๆ ทั้งในหรือนอกประเทศได้ ด้วยการถ่ายทอดภาพและเสียง ในลักษณะการประชุมทางจอภาพ นอกจากนี้ ยังขยายฐานความผิด ในกรณีเป็นธุระจัดหา ซื้อขาย หน่วงเหนี่ยว กักขัง จัดให้อยู่อาศัย ใช้จ้างวาน ซึ่งเด็กที่อายุไม่เกิน 15 ปี ให้ทำงานหรือให้บริการ อันอาจจะเป็นอันตรายร้ายแรงต่อร่างกายและจิตใจ การเจริญเติบโต หรือการพัฒนาการของเด็กเหล่านั้น ถือว่าถูกหยุดชะงักไป ด้วยกระบวนการการค้ามนุษย์ด้วย ถือว่า เป็นความผิดการค้ามนุษย์ด้วย

มาตรการผ่อนผัน ให้เหยื่อ ผู้เสียหาย และพยานในคดีการค้ามนุษย์

ขณะเดียวกันรัฐบาลยังมีมาตรการผ่อนผัน ให้เหยื่อ ผู้เสียหาย และพยานในคดีการค้ามนุษย์ สามารถอยู่ในประเทศไทยและทำงานได้ เป็นการชั่วคราว เป็นเวลา 1 ปี เพื่อจะเข้าให้จบขบวนการเป็นพยานให้จบ เดิมอยู่ได้ไม่กี่วัน เสร็จแล้วก็คดี ทำอะไรต่อไม่ได้ ทั้งนี้อยากให้มีการสืบสาวราวเรื่อง ตรวจสอบหลักฐาน ให้เสร็จสมบูรณ์ จนสามารถเอาตัวผู้กระทำความผิดมาลงโทษให้ได้ เพราะถ้าหากไม่สิ้นกระบวนการ อาจจะสามารถขยายเวลาต่อได้ ครั้งละ 1 ปี มีการประชุมหารือ เป็นมติ ครม. ไปแล้ว ภายใต้การกำกับดูแลของกระทรวงมหาดไทย รวมทั้งในเรื่องของการให้กระทรวงพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ได้ประสานกับกระทรวงยุติธรรม ดูแลและให้ความช่วยเหลือด้านมนุษย์ธรรม กับผู้เสียหายและเหยื่อ หางานให้ทำ ส่วนการคุ้มครองพยาน ให้เป็นหน้าที่ของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (สตช.) ที่จะต้องใช้ในเรื่องของการ ใช้กฎหมายในเรื่องของการคุ้มครองพยาน เป็นหน้าที่ของแต่ละฝ่าย ตรงซะที แต่ต้องร่วมมือกัน

พรบ. ฉบับนี้ จะสามารถกำจัดจุดอ่อนในอดีตได้ทั้งหมด และจะเป็นเครื่องมือทางกฎหมายที่สำคัญ ในการแก้ไขปัญหาการค้ามนุษย์ให้หมดไปจากประเทศไทย องค์กรระหว่างประเทศให้ความสนใจเรื่องนี้เป็นอย่างมาก แล้วชื่นชม ชมเชย เจตนารมณ์ของรัฐบาลนี้ แล้วก็เป็นกำลังใจให้กับเราให้มีการบังคับใช้กฎหมายอย่างเข้มแข็ง เตือนไว้ล่วงหน้า เพราะไม่อยากให้เจ้าหน้าที่ ไม่อยากให้ประชาชนของเราเข้าไปสู้คดีในกฎหมายเหล่านี้ด้วย ไม่อยากทำร้ายใครทั้งสิ้น แต่ถ้าทำผิดต้องถูกลงโทษ หลายประเทศ ประเทศรอบบ้านเราก็จะเอาแนวทางของเราเป็นตัวอย่าง เรื่องค้ามนุษย์ IUU เหล่านี้ เขาก็มีปัญหาเหมือนกัน แต่เราทำมากที่สุด เวลานี้ แต่มีคนบางคนซึ่งไม่ทำ ไม่สนใจ กลับมาตีผม โจมตีสิ่งที่ตัวเองปล่อยปล่ะละเลยมายาวนาน โทษผมอีก ไม่เข้าใจ ความคิดสวนทางตลอด

เรื่องที่ 7 เป็นเครื่องยืนยัน ถึงความก้าวหน้าในการทำงานของรัฐบาล เกือบ 2 ปีที่ผ่านมา วัดได้จากการประเมินและจัดลำดับประเทศต่าง ๆ ทั่วโลก ในสายตาชาวต่างชาติ เราต้องฟังเขาด้วย อย่าไปคิดเองประเมินเองทั้งหมด มีองค์กรระหว่างประเทศ มากมายสะท้อนให้เห็นถึงความเชื่อมั่นในเสถียรภาพของประเทศไทย ล่าสุดนิตยสาร U.S. News & World Report เป็นที่ยอมรับระดับโลก ได้จัดอันดับ ประเทศไทยอยู่ในอันดับที่ 21 จาก 60 ประเทศที่ดีที่สุดในโลก ประจำปี 2559 ด้วยการเก็บข้อมูลจาก 16,000 คน ทั่วโลก หากพิจารณาในรายละเอียด ซึ่งแบ่งออกเป็น 9 หมวดการประเมิน จะเห็นว่าเราเป็น 1 ใน 10 อันดับแรก ใน 4 หมวด ได้แก่ (1) หมวดการขับเคลื่อน ได้อันดับ 4 วัดจากความโดดเด่น มีเอกลักษณ์ที่แตกต่างของเราในด้านต่าง ในปี 59 (2) ในส่วนของหมวดการผจญภัย ได้อันดับ 4 วัดจากความสุข ความสะดวกสบาย ความเป็นมิตร เป็น “เมืองแห่งรอยยิ้ม” และมีแหล่งท่องเที่ยว ธรรมชาติ ทัศนียภาพดึงดูดใจชาวต่างชาติ (3) หมวดมรดกของชาติ ได้อันดับ 8 วัดจากอาหารอร่อย ความหลากหลายทางวัฒนธรรม และ (4) หมวดความเปิดกว้างในการทำธุรกิจ เหมาะแก่การลงทุน หรือการเริ่มต้นธุรกิจใหม่ เราได้อันดับ 10 วัดจากมูลค่าต้นทุนการผลิตที่ต่ำ ระบบภาษี และการทุจริตคอร์รัปชั่น วันนี้เราปรับแก้ทุกอย่างแล้ว การอำนวยความสะดวก การให้ข้อมูลข่าวสาร

นอกจากนั้น ยังมีอีกหลายหน่วยงาน – องค์กร ทั้งในประเทศและระหว่างประเทศ ได้ประเมินประเทศไทย อยู่ในอันดับที่ 1 – 10 ของโลก ในหลาย ๆ ด้าน เช่น ปี 2558 กรุงเทพฯ เป็นเมืองที่ชาวต่างชาติ เดินทางมาท่องเที่ยว เป็นอันดับที่ 2 ของโลก รองจากกรุงลอนดอน และเป็นอันดับ 1 ของเอเซีย อุตสาหกรรมรถยนต์ – สิ่งทอ – อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ เราเป็นผู้ผลิตอันดับ 1 ใน 10 ของโลกด้วย เรากำลังปรับไปสู่ความทันสมัยอีก ให้มีมูลค่าสูงขึ้น

เหตุที่มาเล่าให้ฟังนี้ อยากให้ทุกคนได้ภูมิใจ แล้วช่วยกันคนละไม้ คนละมือ จะดีขึ้นไปตามลำดับตั้งแต่ปี 2557–58–59 ดูแล้วกัน แต่เรื่องเศรษฐกิจก็ต้องช่วยกันอีก เศรษฐกิจปัญหามากมาย ปัญหาโลก ปัญหาเรา ปัญหาเพื่อนบ้าน มากมายไปหมด ภายในประเทศสำคัญที่สุด ถ้าเรารักษาสิ่งที่ดีไว้ ร่วมมือกันพัฒนา ดีขึ้นแน่นอน ความยั่งยืน ความน่าอยู่ นอกจากของเราเอง ชาวต่างชาติที่มาเที่ยวก็ปลอดภัย สุขใจ เป็นเมืองที่ดึงดูดใจอยู่แล้วสำหรับนักลงทุนชาวต่างชาติ

เจ้าภาพจัดการประชุมวิชาการกล้วยไม้เอเชียแปซิฟิก

วันที่ 19 - 27 มีนาคม นี้ ประเทศไทยจะเป็นเจ้าภาพจัดการประชุมวิชาการกล้วยไม้เอเชียแปซิฟิก ครั้งที่ 12 (Asia Pacific Conference – APOC) ณ ศูนย์นิทรรศการและการประชุมอิมแพ็ค เมืองทองธานี จังหวัดนนทบุรี ภายในงานจะมีทั้ง (1) การประชุมวิชาการกล้วยไม้ และการจัดนิทรรศการเกี่ยวกับกล้วยไม้ อย่างครบวงจร ทั้งการผลิต การตลาด การใช้ประโยชน์จากกล้วยไม้

(2) การนำเสนอผลงานเทคโนโลยีการผลิต การปรับปรุงพันธุ์ การอนุรักษ์พันธุกรรม และการใช้ประโยชน์จากกล้วยไม้ โดยนักวิชาการจาก 13 ประเทศ

(3) นอกนั้น มีการประกวดการจัดสวนกล้วยไม้ ประกวดภาพถ่ายกล้วยไม้ และแข่งขันวาดภาพกล้วยไม้ เปิดให้ประชาชนเข้าชมได้ตั้งแต่เวลา 10.00 – 20.00 น. ทุกวัน

ทั้งนี้ กิจการ MICE ในลักษณะดังกล่าว ได้แก่ การประชุม – นิทรรศการ – งานแสดงสินค้า ระดับนานาชาติ ทั้งหลายเหล่านี้ เป็นอีกเครื่องจักรหนึ่งในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจของรัฐบาล เสริมการท่องเที่ยวเพื่อกระจายรายได้ในท้องถิ่น เกิดอาชีพ เกิดรายได้ ในการ เพาะพันธ์ปลูกขายกล้วยไม้ ดึงเม็ดเงิน การค้า การลงทุนจากต่างประเทศ เข้าสู่ประเทศไทย ซึ่งจะเกิดเป็นจำนวนมหาศาลในแต่ละปีข้างหน้านี้ด้วย เพียงแต่เราต้องทำให้บ้านเมืองเราน่าอยู่ สะอาด สงบ ปลอดภัย

สิ่งที่อยากเห็นก่อนมีรัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้ง 

8. สิ่งที่รัฐบาล และ คสช. อยากเห็นก่อนมีรัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้ง คือการเริ่มต้นวางพื้นฐานในประเด็นกิจการที่สำคัญ ระยะแรกคือในปีงบประมาณ 59-60 ให้ได้ เช่นในเรื่องของการศึกษา การวิจัยพัฒนา การพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ที่เป็นรูปธรรม การปฏิรูประบบราชการ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพ สร้างความไว้เนื้อเชื่อใจ เป็นธรรม ไม่มีสองมาตรฐาน ปรับโครงสร้างการบริหารงาน ปฏิรูปหน่วยงานตนเองจากภายใน ไปสู่ความร่วมมือระหว่างหน่วยงานนะครับ ก็ช่วยกันทำ ช่วยกันคิดนะ ถ้าต่างคนต่างคิด ต่างคนต่างทำ ทำอะไรไม่ได้สักอย่าง

เรื่องการบริหารจัดการขยะสำคัญที่สุดด้วย ถ้าเราทำในระยะแรกให้ได้ คือการแยกขยะบ้านเรือน ขยะชุมชน เพื่อจะเพิ่มมูลค่า ทำให้ขยะมีราคา ที่เหลือทำอะไรไม่ได้ ก็ไปมีเตาเผาขยะชุมชน เล็กบ้าง กลางบ้าง ใหญ่บ้างก็แล้วแต่ ถ้าทำได้ก็ต้องเร่งทำนะครับ เรารอไม่ได้แล้ว ขยะทับถมปีละหลายพันตันนะ สะสมนี่ เพื่อจะให้เกิดความความสะอาด ลดโรคระบาด แล้วก็ขยะอันตรายทั้งหมดนะครับ ขยะจากโรงพยาบาล ขยะสารเคมี วันนี้มากมายมหาศาล แล้วไปทิ้งรวมกนในหลุมขยะหลุมเดียว ของแต่ละพื้นที่เป็นไปได้ยังไงนะครับ ต้องมีวิธีการกำจัดที่แตกต่างกันออกไป ท่านต้องเริ่มแยกขยะ ทุกชุมชน วันนี้ทหารเขาทำไปแล้ว ผมก็จะให้ข้าราชการทำต่อ ทุกหน่วยงานทุกสถานที่ราชการ จะต้องมีการแยกขยะ อันไหนที่เป็นขยะมีมูลค่าก็เก็บไว้ แล้วก็ไปทำให้เกิดมูลค่าสูงขึ้น นำมาใช้ใหม่ บางอันก็ต้องทิ้ง แล้วทิ้งที่ไหน ทิ้งไปบางอย่างก็ต้องเอาไปเผา เผามีเตาหรือเปล่า ถ้าไม่มีเตาแล้วจะทำยังไง ก็ต้องไปจัดหาเพิ่มเติม ในท้องถิ่นในหมู่บ้าน ตำบล อำเภอ แล้วแต่ ถ้าทำได้อีกต่อไป ก็ไปทำโรงขยะ โรงงานกำจัดขยะ โรงงานขยะไฟฟ้า เพื่อผลิตไฟฟ้า

เรื่องต่อไปเรื่องระบบงบประมาณ วันนี้ผมกล่าวไปหลายครั้งแล้วว่าเราต้องมีการปรับระบบงบประมาณใหม่ ในมีนาคม 2559 นี้ ถ้างบประมารใดที่เสนอมาแล้ว แล้วยังผูกพันสัญญาไม่ได้ ผมจะเรียกคืนทั้งหมด ถ้าหากว่าจะทำก็ต้องมาชี้แจงให้ได้ว่าติดขัดยังไง จำเป็นแค่ไหน ถ้าใหญ่เกินไปผมจะลดให้เล็กลง เพื่อจะเอาเงินที่เหลือไปทำตรงอื่นก่อน ตามหลักความเร่งด่วน แล้วถ้าวันหน้า ผ่าน EIA ได้ ตรงนั้นตรงนี้ก็มาทำต่อไป ถ้าไม่ได้ ก็ไม่ได้ ไม่เช่นนั้นติดไปหมด ผมบอกไปแล้วว่า ติดไปหมดทุกอัน โครงการขนาดใหญ่ติดไปหมดทุกอัน เพราะทุกคนต้องการทำทีเดียวทั้งหมด เป็นไปไม่ได้ ประชาชนยังไม่เข้าใจ วันนี้ผมเข้าไปทำ เพื่อให้เกิดขึ้นอย่างเป็นรูปธรรม คือไปแก้ พระราชบัญญัติงบประมาณด้วย จะต้องใช้ ปี 60 เป็นต้นไป ให้ลงกล่องให้ได้ ไม่ใช้กันอย่างฟุ่มเฟือย ไม่คุ้มค่า ไม่มีประสิทธิภาพ ไม่มีผลสัมฤทธิ์ ต้องต่อเนื่องเชื่อมโยง บูรณาการ กิจการทั้งงานฟังค์ชั่น งานเร่งด่วน ที่ภาษาอังกฤษเรียก agenda เพราะฉะนั้นจะต้องทำตรงนี้ให้ได้โดยเร็วนะครับ เพราะมีผลเรื่องการพัฒนาประเทศ ในเรื่องระบบการเงินการคลังของประเทศ ต้องมีความเข้มแข็ง จะดูอย่างไร ปรับโครงสร้างอย่างไร ภาษี รายได้ สินค้าเข้า สินค้าออก เหล่านี้ มีหลายภาษีด้วยกัน ต้องปรับทั้งหมด ทั้งนี้ ก็พยายามไม่ให้เกิดผลกระทบกับประชาชน โดยรวมให้มากที่สุด ในส่วนของการทำให้ประเทศเข้มแข็งด้วยระบบ การเงิน การคลังนั้นต้องควบคู่ไปกับการบริหารราชการที่ดีของรัฐบาล ไม่ว่าจะรัฐบาลผม รัฐบาลเลือกตั้งต้องมีความสมดุล การใช้จ่ายงบประมาณนะครับรายได้ รายรับ

เรื่องของการสร้าง ปลูกฝังระบบธรรมาภิบาลให้ได้โดยเร็ว ปีนี้ผมเน้นเรื่องระบบธรรมาภิบาล ในทุกสังคม ในทกภาคส่วน ตั้งแต่เด็กเล็ก เยาวชน ประชาชน เอกชน ข้าราชการ ทุกหน่วยงานจะต้องมีธรรมาภิบาลนะครับ ไปดูธรรมาภิบาลมีอะไรบ้าง มี 6 ข้อ ในเรื่องการขจัดการทุจริต คอร์รัปชั่น ในเรื่องของการสร้างจิตสำนึก ป้องกัน ปราบปราม ต้องเริ่มแต่เด็ก กฎหมายด้วยกระบวนการ และการปฏิบัติที่เท่าเทียม เด็กต้องเตือนผู้ใหญ่นะ ลูกเตือนพ่อแม่ว่าทำยังไงจะไม่เกิดการทุจริต ไม่ไปคอร์รัปชั่นอะไรต่างๆ ให้เป็นที่อับอายของลูก ถึงจะรวยแต่โกงเขามา ลูกก็อายเขา เวลาถูกดำเนินคดี ลูกเต้าก็เดือดร้อนไปหมด ลูกเตือนพ่อแม่ด้วย เป็นธรรม

เรื่องการปรับโครงสร้างเศรษฐกิจ รายได้ประเทศ ต้องทำ ไม่เช่นนั้นก็อยู่อย่างนี้ ขาดดุลไปเรื่อย แล้วเราต้องลงทุนอีกมากมายมหาศาล ที่เราไม่ได้ทำมาก่อน หมดไป สิ้นเปลืองไปโดยไม่ต่อเนื่อง ไม่ยั่งยืน ผมกำลังแก้ทั้งหมด 2 ปีมาแล้ว แต่แก้ไม่ได้ง่าย ๆ

เรื่องของการปรับโครงสร้างเศรษฐกิจ รายได้ประเทศกับโครงสร้างการเกษตร เชื่อมโยงกันทั้งหมด การเกษตรก็ไม่ใช่ดูแต่ปลูก ต้องปลูก ผลิต แปรรูป นวัตกรรม ไปสู่ตลาด ให้มีความเข้มแข็งทั้ง 3 ส่วน อันแรกคือประชาชน ค้าขายกันเอง กลุ่มเกษตรกร เป็นกลุ่ม สหกรณ์ ใช่ไหม แล้วไปสู่ Social Business นี่คือแท่งหนึ่ง ที่ต้องเข้มแข็งให้ได้ นี่ทำตรงนี้อยู่ เพื่อจะแข่งขันกับช่องที่ 2 คือเรื่องของพ่อค้าคนกลาง จะได้ทำให้ราคาของเกษตรกร ราคาผลิตผลสูงขึ้น อันที่ 3 ไปดูในเรื่องของกลุ่มธุรกิจขนาดใหญ่ ต้องโยงกันทั้ง 3 อันให้ได้ ถ้าไม่ได้ก็เป็นแบบเดิม อุดหนุนกันไปเรื่อย แล้วก็เกิดความผิดพลาด ผิดกฎหมายมาโดยตลอด เราต้องสร้างความเข้มแข็งให้ได้นะครับ เป็นภูมิภาค ผมบอกแล้วเรามี 4 ภาค และ 4 ภาคต้องเข้มแข็งด้วยตัวเอง แล้วลงไปสู่ประชาชน หมู่บ้าน เริ่มจากภูมิภาค ไปสู่กลุ่มจังหวัด 18 กลุ่ม แต่ละภูมิภาค 4 ภูมิภาค ก็มี 18 กลุ่มนั่นแหละ จากนั้นมีจังหวัดในแต่ละกลุ่มจังหวัด ทำในกลุ่มของตัวเองให้แข็งแรง ต้นทาง กลางทาง ปลายทาง

เรื่องการบริหารจัดการน้ำทั้งระบบ ตามยุทธศาสตร์ที่กำหนด เพื่อจะรองรับ และเผชิญต่อภัยในอนาคต วันนี้ต้องทำความเข้าใจเพิ่มขึ้น เรื่องการบริหารจัดการน้ำนี่ ยืนยันอย่างหนึ่งคือผมไม่ได้ผูกพันงบประมาณระยะยาว ทั้งระบบ ไม่ใช่ ปรับเปลี่ยนไปได้ตามห้วงเวลา

เรื่องสุดท้ายเรื่องพลังงานไฟฟ้า เราอาจจำเป็นต้องแลกด้วยทรัพยากรธรรมชาติ บางส่วน ที่ไม่เสียหายมากนัก จะทำยังไงที่จะเกิดความสมดุล ผมบอกว่าไม่มีอะไรที่ได้ทั้งหมด หรือเสียทั้งหมด แต่อะไรคุ้มค่ากว่ากัน แล้วจะเยียวยาสิ่งที่เสียหารไปได้อย่างไร ไม่ว่าจะประชาชน ไม่ว่าจะเป็นสิ่งแวดล้อม หรืออะไรต่าง ๆ ต้องแก้ไขตรงนั้นให้ได้ ไม่ให้เกิดขึ้น ได้อย่าง เสียอีก 3 อย่าง ผมก็ไม่ยอมเหมือนกัน แต่ทำไงได้อย่างแล้ว 3 อย่างที่ว่าเสียแล้วไม่เสีย อยู่ที่วิธีการ เทคนิค เทคโนโลยีมากมาย ฟังกันบ้าง ต้องแลกในเรื่องของผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย ถ้าได้มาก เสียน้อย ก็ต้องยอมกัน เสียน้อย จะแก้ไขอย่างไร จะได้แก้ได้ซะที ไม่ว่าจะเป็นพลังงานไฟฟ้าเกิดจากก๊าซ น้ำมัน ถ่านหิน วันนี้ถ้าเราทำได้ ก็จะเสริมกันขึ้นมา ทำให้ 70% ตามแผน PDP ที่มีพลังงานที่เกิดจากอินทรียวัตถุ ก็จะถูกลง วันนี้น้ำมันก็ถูก อะไรก็ถูก ก็ดี ถ้าเราทำไม่ได้ ไปไม่ได้ มี 3 อย่างที่ถูกกว่านี้ ก๊าซ ธรรมชาติ น้ำมัน ถ่านหิน แต่ทำอย่างไรไม่เกิดผลกระทบ ไม่ทำลายสิ่งแวดล้อม เทคโนโลยีได้ไหม หรือไม่ได้ อย่าไปดูบางประเทศเขายกเลิกถ่านหิน ไปดูว่าเขายกเลิกแล้วใช้อะไรแทน เขาใช้โรงงานนิงเคลียร์ ไปตามดู อย่าไปฟังแต่ที่ดี ๆ แล้วก็มาค้านผม แล้วถ้าเขาทำโรงงานนิวเคลียร์ แล้วท่านว่าอย่างไร ท่านก็ไปค้านเขาไม่ได้อีก เรายังค้านกันเองอยู่ ของเก่าก็ทำไม่ได้ ถ้าเราช่วยกันรักษาเหล่านี้ไว้ได้ รักษาธรรมชาติไว้ได้ด้วย ทำให้ประเทศเข้มแข็งได้ด้วย สร้างเสถียรภาพ ความมั่นคงทางพลังงาน ก็จะเป็นผลดี ควบคู่กับการประหยัด ไม่ใช่น้ำมันถูกก็ขับรถเข้าไป เที่ยวเข้าไป อุบัติเหตุเกิดขึ้นสูงมาก ในช่วงที่ผ่านมา แล้วกลับมาโทษรัฐบาลว่า รัฐบาลทำให้ประชาชนนั้นบาดเจ็บสูญเสีย เพราะว่าให้มีวันหยุดมากเกินไป ฟังแล้วน่าตลกดีผมว่า แล้วประชาชนก็ต้องช่วยตัวเอง ดูแลตัวเองด้วย ไม่มีกฎหมายใดจะไปห้ามท่านตายได้อยู่แล้ว เว้นแต่ตัวท่านเอง ในช่วงฤดูร้อน 2 เดือน คือ มีนาคม – พฤษภาคม ทุกปีนั้น จากสถิติ มีการใช้ไฟฟ้าสูง

มาตรการ “4 ป” ปิด ปรับ ปลด เปลี่ยน 

ผมขอความร่วมมือจากพี่น้องประชาชนทุกหมู่เหล่า ได้ดำเนินการตามมาตรการ “4 ป” ปิด ปรับ ปลด เปลี่ยน ระหว่างวันที่ 20 มีนาคม – 30 พฤษภาคม ช่วงบ่าย 2 – บ่าย 3 โมง ขอให้พยายามกัน “ปิด” ไฟดวงที่ไม่จำเป็น “ปรับ” อุณหภูมิแอร์ มาที่ 26 องศาเซลเซียส ถ้าลำบากนักก็ไปอยู่กลางแจ้งไป บอกแอร์ร้อน 26 อยู่ไม่ได้ ก็อยู่กลางแจ้ง ให้ลมเป่า หรือเปิดพัดลมเอาก็ได้ ข้างนอก ตอนนอนก็ไม่เปิดจนเย็น แอร์ก็เป็นน้ำแข็ง แล้วไม่เย็นเหมือนเดิม ทุกๆ คนไม่เรียนรู้ ปรับไปมากๆ ก็เย็นเป็นน้ำแข็ง ก็ไม่เย็นอีกอยู่ดี นอนห่มผ้าหนา ๆ เหล่านี้ สุขภาพด้วย เปิดเย็นมาก ห่มผ้าหนา ไม่ดีนักหรอก เปิดแต่พอเพียง ห่มผ้าสบาย ๆ ก็จะช่วยประหยัดได้ทุกอย่าง การ “ปลด” ปลั๊กเครื่องใช้ไฟฟ้าที่ไม่ได้ใช้งาน การต้มน้ำร้อนแช่เอาไว้ อุ่นน้ำร้อนไว้ตลอด ต้องเซฟลงบ้างนะ จะได้เซฟพลังงานด้วย รัฐก็ไม่ต้องสร้างพลังงานเพิ่มเติม จนมากมายมหาศาล ลงทุนมหาศาล แล้วทุกคนจะเอาราคาถูกเข้าไปอีก มันวนกันทั้งหมดนะ วิทยุ ทีวี ไม่ฟัง ไม่ดูก็อย่าไปเปิด บางคนเปิดไว้เป็นเพื่อนเฉยๆ ส่งเสียงไว้เป็นเพื่อนไม่เหงาอยู่คนเดียว ไม่ใช่ แล้วตอนนี้ก็อยากให้ “เปลี่ยน” มาใช้อุปกรณ์ไฟฟ้า เบอร์ 5 นะ เบอร์ 5 เป็นสัญลักษณ์การประหยัดพลังงาน เปลี่ยนมาใช้หลอด LED ที่ช่วยประหยัดพลังไฟฟ้าได้กว่า 80%

วันนี้ก็มีโครงการที่ตลาดผมนี่ ตลาดข้างทำเนียบ ช่วยมาดูด้วย ผมมีหลายอย่าง วันนี้ก็มีการเอาเตาถ่านมาแลกเปลี่ยน เตาใหม่ของผม เตาที่กระจายพลังงาน ใช้ถ่านที่เราอัดแท่งมา ความร้อนสูงขึ้น นี่ยกเตามาเข้าแถวเป็นแถวเลย เตาบ้าน เตาหิ้วๆ เตาถ่าน เอามาแลกของใหม่ แล้วเสร็จแล้ว เขาทุบทิ้งตรงนั้นเลย ก็ต้องช่วยกัน ร่วมมือกัน ขอบคุณทุกคนที่มาร่วมแรง ร่วมใจกันตรงนี้ ตรงตลาดของรัฐบาล ไม่ใช่ตลาดของผม ถ้าเราทำอย่างนี้ได้ จะช่วยลดก๊าซเรือนกระจก และก๊าซคอบอนไดอ๊อกไซด์ ใน 20 ปีช้างหน้าตามที่เราสัญญาไว้กับประชาคมโลก ทุกประเทศในโลกต้องลดให้ได้ อย่างน้อย25-30% ทุกประเทศในที่ประชุม

สำหรับที่ประชุมคณะกรรมการนโยบายพลังงานแห่งชาติ (กพช.) ได้เห็นชอบแผนการขับเคลื่อนภารกิจด้านพลังงานโดยให้มีการส่งเสริมการใช้งานยานยนต์ไฟฟ้า (Electronic Vehicles : EV) ในประเทศไทย ซึ่งจะประกอบด้วย การผลักดันให้ไทย เป็น “ศูนย์กลางการผลิตรถไฟฟ้า” ในภูมิภาค โดยผมให้นำร่องการใช้งานกลุ่มรถโดยสารสาธารณะไฟฟ้าก่อนนะครับ แล้วขยายผลไปสู่การส่งเสริมรถยนต์ไฟฟ้าส่วนบุคคลในอนาคต แบบค่อยเป็นค่อยไป ในอนาคตนะครับ วันนี้ก็มี อีโคคาร์ มีกระบะที่ใช้เครื่องจักร เครื่องยนต์ที่ใช้น้ำมันปาล์มมาผสมนะครับ B7 – B10 – B15 - B20 วันนี้ได้แค่ B7 – B10 เท่านั้นแหละ ต้องทำให้ถึง B15 - B20 เราจะได้เอาปาล์มมาผสม 20% 15 % มากกว่า 7% 10% เดิม พี่น้องชาวสวนปาล์มก็ไม่เดือดร้อน ผมพูดคุยกันหมดแล้วกับหลายประเทศที่จะมาลงทุน เราจะเข้าไปส่งเสริมอย่างครบวงจรนะครับ วันนี้ได้เตรียมความพร้อมต่างๆ แล้ว เช่น การพัฒนาโครงสร้างระบบสาธารณูปโภคพื้นฐาน ในเรื่องของการใช้รถไฟฟ้าทุกประเภท การกำหนดรูปแบบและมาตรฐานสถานีอัดประจุไฟฟ้า ภาษี กฎหมาย กฎระเบียบต่าง ๆ อัตราค่าบริการรถโดยสารสาธารณะไฟฟ้า อัตราค่าไฟฟ้าและค่าบริการสำหรับสถานีอัดประจุไฟฟ้า การพัฒนาระบบบริหารความต้องการใช้ไฟฟ้าของประเทศร่วมกับการใช้งานยานยนต์ไฟฟ้า ไปจนถึงการกำหนดมาตรการจูงใจ – ส่งเสริมการลงทุน – ลดอุปสรรคการประกอบกิจการต่าง ๆ ให้ภาคเอกชนเข้ามาลงทุน

ผมได้มีการพบปะพูดคุยกับผู้บริหารระดับสูงของบริษัทผู้ผลิตรถยนต์จากเพื่อนของเรา จากญี่ปุ่นนะครับ ซึ่งลงทุนมากมายอยู่ในประเทศเรานี่ ก็ได้ย้ำนโยบายของรัฐบาลในการพัฒนาอุตสาหกรรมรถยนต์ โดยเฉพาะรถยนต์ประหยัดพลังงานแบบต่างๆ Eco Car รุ่นใหม่ ๆ รถยนต์ Hybrid ซึ่งจะเป็นต้นแบบการพัฒนาไปสู่รถยนต์ไฟฟ้าชนิดต่างๆ รวมถึงรถยนต์ไฮโดรเจน วันนี้ผมไปดูที่ตลาดก็น่าสนใจ จริง ๆ แล้วมีการทดสอบ ทดลองของเด็ก ๆ ในสถานศึกษามานานแล้ว ที่เอาน้ำมา แล้วก็เอาแก๊ส ที่อยู่ในน้ำนี้ออกมาแล้วเข้ามาทำให้เกิดพลังขับเคลื่อน แต่เป็นการทดลองอยู่นะ วันหน้าเราอาจจะเป็นคนผลิตรถยนต์ไฮโดรเจนก็ได้ น้ำมากมาย แต่ก็ระวังเหมือนกัน น้ำขาดอีกแล้ว ต้องใช้เทคโนโลยีขั้นสูงนะครับนั่นคือวิจัยพัฒนา เราต้องการลดจริงๆ ล่ะก็ปล่อยก๊าซเรือนกระจกนะครับ เราต้องให้ความสำคัญกับการผลิตรถยนต์ใช้พลังงานจากเอธานอล ไบโอดีเซล เพื่อช่วยเพิ่มความต้องการในการใช้พืชพลังงาน ปาล์ม อ้อย และการดูแลตั้งแต่กลางทาง ไปถึงปลายทาง ให้ครบระบบ คิดอะไรชอบทำ ตรงนี้ ตรงโน้น แต่ทำไม่ได้ทั้งหมด ไม่ครบวงจรยังไง จะใช้แก๊ส ใช้ NGV ปั้มแก๊สพอหรือไม่ เหล่านี้ไม่คิดแบบผม ไม่คิดแบบรัฐบาลนี้ ผมไม่เข้าใจ เป็นชิ้นไปหมด

ที่ผ่านมาผมได้ไปเยี่ยมชมตลาดคลองผดุงฯ เมื่อวันก่อนนี้ เป็นการจัดงานในลักษณะ “เพลินพลังงาน งานวิจัยขายได้” ผมต้องการให้กระทรวงพลังงานเป็นเจ้าภาพ แล้วนำออกมาสู่การผลิต ทำให้คนรู้ว่าเรามีนวัตกรรมหลายอย่าง มากมาย ยกตัวอย่าง เช่น หลอดไฟพลังงานจากคน ตอนที่เราจะปิดไฟ ดับไฟเอาหลอดนี้มาใช้ ช่วยกันอุดหนุนบ้าง เป็นการใช้พลังงานความร้อนจากตัวคน ไปทำให้เกิดไฟฟ้า เกิดแสงสว่างได้ หลอดทดลองแล้ว เอาหลอดเขามา เอามือจับแค่นี้ ความร้อนจากในตัวจะผลิตพลังงานแล้วทำให้ไฟสว่าง ใช้แทนไฟฉายได้ ไม่เห็นเปลืองใครเลย ถ่านก็ไม่เปลือง คนก็ไม่ได้เหนื่อยหนาสาหัสอะไร ความร้อนในตัวมีอยู่แล้ว ไปดูได้ว่าง ๆ มาซื้อไป ไม่กี่บาท ดีกว่าจะต้องไปเปิดไฟทุกดวง หรือปิดไฟตามนโยบายรัฐบาล ร่วมมือก็ได้เพราะกลัวความมืด ก็ถือไฟตัวนี้ไว้เลย ถือ 24 ชั่วโมงก็ได้ ถ้ากลัวความมืด ไม่เปลืองไฟข้างนอก

การรณรงค์ “ปิดไฟ 1 ชั่วโมง ให้โลกพัก” ผมว่าใช้ได้ทันที มีไฟฉายอีก อะไรอีก ที่ไม่สิ้นเปลืองพลังงาน แล้วมีพลังงานทดแทนอย่างอื่นอีก การใช้แสงแดด มาขับเคลื่อนมอเตอร์ไฟฟ้า มาผลิตพลังงาน มาชาร์ตแบตเตอรี่ ต่าง ๆ มีหมดเลย เราทำได้แล้วทั้งนั้น แต่ไม่ซื้อ ไม่ใช้ ไปซื้อของมียี่ห้อ แต่ทั้งหมดต้องผ่านมาตรฐาน ไม่ใช่ใช้แล้วไฟดูดตาย อย่างนี้ไม่ได้เหมือนกัน ต้องมีการผ่านมาตรฐาน มอก. ถ้าเป็นยา ก็ผ่าน อย. ด้วย วันนี้มีคนอุดหนุนกันเต็มไปหมด วันหนึ่งหลายแสน ที่ผ่านมาก็หลายล้านแล้ว ขอให้ทำต่อไปเพราะเป็นประโยชน์

การจัดระเบียบบ้านเมือง

เรื่องการจัดระเบียบบ้านเมือง สุดท้าย การขายของให้ถูกที่ การจัดระเบียบที่จอดรถ รถรับจ้างรถตู้ หรืออะไรก็แล้วแต่ การบุกรุกป่า เหล่านี้ ผมไม่อยากให้เจ้าหน้าที่รัฐอ้างว่า นายกฯ สั่ง หัวหน้า คสช. สั่ง หรือใครสั่งทั้งหมด ผมสั่งแต่เพียงว่า อะไรที่เป็นเรื่องข้อกฎหมาย อะไรที่ปล่อยปละละเลยมา การจัดระเบียบ ท่านไปทำในกฎหมายของท่าน หาวิธีการทางรัฐศาสตร์ด้วย สร้างความเข้าใจ จะให้รัฐบาลช่วยเยียวยาตรงไหนก็ว่ามา ไม่ใช่ท่านไปทำ แล้วไปทุบ ไปรื้อเขา แล้วท่านบอกนายกฯ สั่ง คนก็มาเกลียดผมหมด แบบนี้ใช้ไม่ได้ อย่าให้ผมได้ยินอีกนะ ผมเห็นคนรายงานมาหลายที่คนที่พอจะชอบพอกันบ้างก็เกลียดผมไปด้วยตอนนี้ หาว่าผมไปรังแกคนจนบ้าง อะไรบ้าง ผมรังแกเขาตรงไหน ผมให้อยู่ในระเบียบ ถ้าตรงนี้ไม่ได้ จะให้ไปอยู่ที่ไหน ทุกคนก็ต้องเข้าใจซึ่งกันและกัน บางคนมีไม่รู้กี่ล้าน มาขายตรงนี้ ตรงนั้นไปเรื่อย รับจ้างเขามาขายบ้างอะไรบ้าง ต้องเผื่อแผ่คนอื่นเขาบ้าง พวกเทศกิจ อะไรพวกนี้ ผมยังเห็นในทีวี โกรธจริง ๆ วันนั้น มาเรียกร้อง มาอะไรกับประชาชน ลงโทษสถานหนัก สอบสวนแล้ว ปลด ไล่ออก ถ้าผิดจริง เพราะ คสช. ลงโทษทั้งหมด

วันนี้อย่ามาพูดว่า ไม่ทำ ทำไม่จริง ท่านคอยดูแล้วกันปีนี้ แต่ทำมาตลอด 2 ปี เขาจัดระเบียบอยู่ คดีไหน อย่างไร ผมคิดว่าอย่าไปยุ่งกับเขาเลย ให้เขาทำ เขารู้หน้าที่เขาดีอยู่แล้ว ศาล กระบวนการยุติธรรม เราอย่าไปก้าวล่วงเขา หรือรัฐบาลอย่าไปก้าวล่วงเขา ก็ไม่ถูก ความเชื่อถือ เชื่อมั่นก็ไม่เกิดขึ้น เราต้องอยู่ด้วยกันด้วยการไว้เนื้อเชื่อใจ ซึ่งกันและกัน ลดความหวาดระแวง แล้วทำให้เกิดประโยชน์ต่อประชาชนให้มากที่สุด อันนั้นคือสิ่งที่รัฐบาลทุกรัฐบาลต้องดำเนินการในระยะต่อไป วันนี้ขอพูดเพียงเท่านี้ ขอบคุณครับ วันนี้พูดเร็วไป เพราะว่าไม่อยากรบกวนเวลามาก เดี๋ยวจะเสียเวลาท่านไปดูหนัง ดูละครอะไรของท่าน

แนะดูซีรี่เกาหลี Descendants of the Sun แทรกไปด้วยความมีจรรยาบรรณในวิชาชีพ

อย่าลืมไปดูที่ผมบอกของทรูวิชั่นมั้ง ซีรี่ เดรสสิเด้น ออฟ เดอะชัน (Descendants of the Sun) เป็นเรืองของผู้สืบทอด ซึ่งดูแล้ว.. ผมไม่ได้ดูเขาสวย พระเอกหล่อ ผู้หญิงสวย ไม่ใช่ ผมดูว่าทำไมเขาคิดซีรี่ออกมาได้แบบนี้ ทำไมเขาเขียนบทมาได้อย่างนี้ มีทั้งความทันสมัย มีทั้งดารา ยอดนิยม แล้วทำไมเขาเขียนเรื่องมาให้เป็นเรื่องที่เกี่ยวพันกับเรื่องความรัก ที่ไม่หวือหวา ไม่ใช่แบบอะไรล่ะ เปลืองตัวอยู่ทุกวัน แสดงออกมาบางทีก็เกินไป แต่เขาอยู่ในกรอบประเพณี แล้วสอดแทรกไปด้วยความมีจรรยาบรรณในวิชาชีพของแต่ละคน ผู้ชายเป็นทหาร ยศร้อยเอก ผู้หญิงเป็นหมอ แล้วต่างคนต่างทำหน้าที่ของตัวเอง แล้วถึงแม้ว่าจะชอบกัน รักกัน อะไรก็แล้วแต่ ทุกคนไปก้าวก่ายงานของแต่ละคนไม่ได้ วันนี้จึงพันกันไปหมด ลองไปดู ผมไม่ได้ไปชื่นชมอะไรเขาเป็นพิเศษ เพียงแต่ผมอยากให้ท่านดูเท่านั้น แล้วคิดดูซิว่า ทำไมเขาคิดอย่างนี้ได้ ทำไมเราคิดอย่างนี้ไม่ได้ เราคิดแต่เพียงว่า ตีกัน สองครอบครัวตีกัน แย่งเงิน ทรัพย์สิน เจ้าของบ้าน ทะเลาะกับทายาท มรดก พินัยกรรม แล้วตามไปสู่คนใช้ทะเลาะกันเข้าไปอีก กว่าจะจบแต่ละทีใครตายที ร้องห่มร้องไห้กัน น้ำตาเป็นเผาเต่า ผมว่าไม่ใช่ คือดูหนังดูละคร เขาทำให้มีความสุข อย่าไปอิงมากขนาดนั้น เพราะไม่ใช่เรื่องจริง เรื่องนิยาย นิยายที่จะต้องสอดคล้องกับความเป็นจริงบ้าง อย่าไปเขียนแบบนั้น สังคมแบบนั้นในประเทศไทยมีหรือ ทะเลาะกันขนาดนั้น ไม่มี ทั้งวันทั้งคืน ไม่ต้องทำอะไร ทะเลาะกัน แล้วทำงานกันตอนไหน กินอะไรกันได้ ทะเลาะกันทั้งวัน ผมเห็นทุกเรื่อง แต่ผมไม่ทำลายขบวนการ วงการละครของท่านอยู่แล้ว บางอย่างก็ดี บางเรื่องก็ดี คนดูแล้วก็ชื่นชม มีหลายช่อง ที่มีรายการผมไม่เคยดู แต่ผมทราบว่ามีอยู่ ช่องหนึ่งที่ผมพูดคือช่อง ทรูวิชั่น ช่อง 232 น่าจะมีวันพุธ กับวันพฤหัสฯ ผมไม่ได้โฆษณาให้เขา ให้ท่านไปดูก็ได้ ท่านจะได้คิดออกว่าควรจะทำหนัง ทำซีรี่กันยังไง ทำละครยังไง ไปดู ดาราเราทั้งหล่อทั้งสวย หลายคนไปทำอะไร ไปสร้างความเกลียดชัง ไปแต่งตัวให้มันหวือหวา

ติหนังสือพิมพ์สุดสัปดาห์รูปโจ๋งครึ่มเหลือเกิน

หนังสือพิมพ์ก็ควรพิจารณาตัวเอง วันหยุดสุดสัปดาห์รูปโจ๋งครึ่มเหลือเกิน ผมไม่อาจจะไปใช้กฎหมายกับท่าน แต่สังคมต้องช่วยกัน ไม่ใช่เอ่ยปากอยากให้ทำโน่นทำนี่ แต่ตัวเองก็อยากดู ไม่ใช่ผมว่า แล้วให้รัฐบาลไปบังคับ ผมว่าทุกคนต้องบังคับได้ สังคม บังคับให้สังคมเรานี่มีความสุข ไม่เสื่อมโทรม ไม่เกิดสังคมเสื่อมพูดง่าย ๆ เดี๋ยวเกิดอะไรตามมา เรื่องการข่มขืน การฆ่า การเป็นแม่ก่อนวัย เดือดร้อนไปหมด เพราะฉะนั้นสื่อต่าง ๆ ต้องช่วยกัน ทำอย่างไรให้คนไทยเป็นคนที่กลับมาอยู่ในสังคมไทย วัฒนธรรมไทยให้ได้โดยเร็ว การเอาต่างชาติมา เอามาได้ผมไม่ได้ห้าม ห้ามไม่ได้อยู่แล้ว เอามาแต่พอสมควร อะไรที่เป็นของเราก็แทรกเอาไว้ ยืนเอาไว้ เอาเข้ามาปรับเปลี่ยนบ้าง อะไรบ้าง แต่เราต้องยืนของเรา หลายประเทศเขาทำ เขายืนของเขาหมด เอาประวัติศาสตร์มาทำวันนี้ให้ทันสมัย วันนี้ไม่มี เราก็ถอยไปเรื่อย ถอยไปสู่การรับราฆ่าฟัน ตีกันทุกวัน ผมว่าแย่ เพราะฉะนั้น อย่าไปคาดหวังเลยว่าจะได้อะไรขึ้นมา ถ้าท่านไม่แก้ ท่านต้องแก้ตัวท่านเอง แก้ค่านิยมของตัวท่านเอง แก้ด้วยการเรียนรู้ของตัวท่านเอง อย่าให้ใครเขาบิดเบือน แล้วก็ลดอัตตาตัวเองให้ได้ ขอบคุณนะครับ วันนี้ขอโทษอาจจะพูดแรงไปบ้าง เบาไปบ้างอะไรก็แล้วแต่ แต่ด้วยความหวังดี ด้วยความรักท่าน รักประเทศไทยทั้งสิ้น ผมคิดว่าทุกคน 70 ล้าน รักทั้งหมด เว้นแต่ไม่เท่าไรที่ไม่ค่อยรักนะ ขอบคุณครับ สวัสดีครับ

 

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไทอัพเดท ได้ที่:
Facebook : https://www.facebook.com/prachatai
Twitter : https://twitter.com/prachatai
YouTube : https://www.youtube.com/prachatai
Prachatai Store Shop : https://prachataistore.net
ข่าวรอบวัน
สนับสนุนประชาไท 1,000 บาท รับร่มตาใส + เสื้อโปโล

ประชาไท