จากเมื่อวันที่ 21 มี.ค. ที่ผ่านมา พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา หัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) อาศัยอำนาจตามความในมาตรา 44 ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย (ฉบับชั่วคราว) 2557 ออกคําสั่งหัวหน้า คสช. 2 ฉบับ คือ คําสั่ง หัวหน้า คสช. ที่ 10/2559 เรื่อง การขับเคลื่อนการปฏิรูปการศึกษาของกระทรวงศึกษาธิการในภูมิภาค และคําสั่ง หัวหน้า คสช. ที่ 11/2559 เรื่อง การบริหารราชการของกระทรวงศึกษาธิการในภูมิภาค โดยให้เหตุผลว่า โดยที่ได้ปรากฏข้อเท็จจริงถึงสภาพปัญหาในการจัดการศึกษาในส่วนภูมิภาคของประเทศว่าเกิดจากปัญหาการสั่งการและการบริหารจัดการที่ไม่มีประสิทธิภาพและไม่เป็นเอกภาพเป็นปัญหาสําคัญ จึงได้ออกคำสั่งดังกล่าว เพื่อประโยชน์ในการปฏิรูประบบการศึกษาให้สามารถขับเคลื่อนได้อย่างมีประสิทธิภาพและ เกิดประโยชน์สูงสุดต่อการพัฒนาประเทศ (อ่านรายละเอียด) นั้น
เครือข่ายปฏิรูปการศึกษา ชี้เป็นการรวบอำนาจ ย้อนหลังไปสู่รูปแบบการจัดการเดิมๆ
อินทิรา วิทยสมบูรณ์ สมัชชาเครือข่ายปฏิรูปการศึกษา ได้กล่าวถึงคำสั่งหัวหน้า คสช. ดังกล่าวว่า ขบวนการภาคประชาชนเรียกร้องกระจายอำนาจ และเชื่อว่าวิธีการกระจายอำนาจ คือวิธีการในแง่ของการปฏิรูปการศึกษาที่น่าจะเป็น จึงอยากจะให้กระทรวงศึกษาธิการลดบทบาทตัวเองและกระจายอำนาจในเชิงบริหารจัดการให้มันไปเกิดในพื้นที่ของจังหวัด พื้นที่เครือข่าย หรือว่าพื้นที่กลไกอื่นๆก็ดี แต่คําสั่งที่ 11/2559 หากดูผิวเผินมันอาจดูเหมือนกระจายอำนาจ แต่เป็นการรวบอำนาจมากกว่า มันกำลังทำให้เราย้อนหลังไปสู่รูปแบบการจัดการเดิมๆ ของกระทรวงศึกษา สิ่งที่เกิดขึ้นคือการปรับโครงสร้าง ทำการยุบตัว สพฐ.ก็ดี ทำการยุบเขตก็ดี ไปเกิดเป็นศึกษาธิการจังหวัด มันก็แค่การย้ายปัญหาเดิมไปสู่ปัญหาใหม่ ไปอยู่ในกลไกใหม่ มันไม่ได้แก้ปัญหาเดิมที่มันมีอยู่ ถ้ามองในมุมพี่คือการเกาไม่ถูกที่คัน คำสั่งชุดนี้โดยเนื้อความมันอาจจะดูกระจายอำนาจ แต่ลึกลงไปมันก็เป็นการรวมอำนาจอยู่แล้ว มันทำให้เกิดความชัดเจนของคำว่า single command เรื่องเหล่านี้ถ้าหากมันถูกเอาไปโดยที่มันยังไม่พร้อม หรือไม่มีชุดความคิดที่เข้าใจมากำกับมันก็ไปทำให้ปัญหาเดิมที่มันมีอยู่แล้วมันคาราคาซังมากขึ้น และมันก็ไม่ได้แก้ปัญหาอะไร มันก็ไม่ทำให้เราก้าวข้ามปัญหาการศึกษาได้
“กลไกเหล่านี้มันก็ยังถูกแต่งตั้งจัดตั้ง โดยที่ศูนย์กลางกำหนดอยู่ดี เหมือนเป็นคอขวด ต่อให้คุณมีการกระจายแตกออกมา 18 ภาค ก็ไปติดตรงปลัดกระทรวง มันก็ไม่ได้ไปไหน ก็ไม่ได้เข้าใจคำว่ากระจายอำนาจเลย แค่เปลี่ยนที่ ยุบแท่งเดิมแล้วไปทำแท่งใหม่” อินทิรา กล่าว
ขณะที่ จาตุรนต์ ฉายแสง อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ ได้โพสต์ความเห็นต่อคำสั่งหัวหน้า คสช. ดังกล่าว ผ่านเฟซบุ๊กแฟนเพจ 'Chaturon Chaisang' ว่า การออกคำสั่งนี้น่าจะเกิดจากเห็นปัญหาเชิงโครงสร้างและระบบงานและต้องการแก้ปัญหาที่มีอยู่ แต่คำสั่งนี้ไม่ได้เกิดจากกระบวนการศึกษาหรือมีงานวิจัยใดๆมารองรับ แต่น่าจะมาจากการคุยกันไม่กี่คนโดยขาดการปรึกษาหารือผู้เกี่ยวข้องอย่างเพียงพอ สะท้อนให้เห็นว่าทั้งผู้ที่เสนอและผู้ออกคำสั่งขาดความเข้าใจต่อความซับซ้อนของการจัดการศึกษาและขาดความรู้ความเข้าใจต่อประวัติศาสตร์ความเป็นมาของปัญหาการจัดการศึกษาในต่างจังหวัดด้วย จึงทำให้แก้ไม่ถูกจุดและจะยิ่งสร้างปัญหามากขึ้น ทำให้การปฏิรูปการศึกษาที่ไม่มีวี่แววอยู่แล้วยิ่งไม่เกิดขึ้น
ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)