Skip to main content
sharethis

คดีขันแดง ม.116ที่เชียงใหม่ 'ศูนย์ทนายสิทธิ' เปิดบันทึกแจ้งข้อหา จนท. อ้างถึงภาพที่ไทยรัฐนำไปลง ด้านเจ้าตัวยันถ่ายเพื่อแชร์ในเฟซบุ๊ก ไม่ทราบว่ามีผู้สื่อข่าวมาถ่ายรูปไปลงหนังสือพิมพ์ด้วย ระบุผู้สื่อข่าวดังกล่าวก็ไม่ได้มีแจ้งว่าจะนำไปลงข่าว หรือมีการมาขอสัมภาษณ์แต่อย่างใด

 
ภาพขันแดง ที่มาเฟซบุ๊ก 'ไพศาล จันปาน'

เมื่อวันที่ 29 มี.ค. ที่ผ่านมา ศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชน รายงานว่า ที่ศาลมณฑลทหารบกที่ 33 จังหวัดเชียงใหม่ พ.ต.ท.ประดิษฐ์ ติ๊บมา พนักงานสอบสวนสภ.แม่ปิง ได้นำตัวนางธีรวรรณ เจริญสุข ผู้ต้องหาตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 116 จากกรณีการถ่ายภาพคู่กับขันน้ำสีแดง มาขออำนาจฝากขังต่อศาล โดยศาลอนุญาตให้ฝากขัง และให้ประกันตัวผู้ต้องหาด้วยหลักทรัพย์ 1 แสนบาท พร้อมกำหนดเงื่อนไขห้ามเคลื่อนไหวทางการเมือง

พนักงานสอบสวนระบุเหตุขอฝากขังต่อศาลว่าเนื่องจากคดีนี้เป็นคดีความมั่นคง เกรงว่าผู้ต้องหาจะหลบหนี โดยพนักงานสอบสวนไม่คัดค้านการประกันตัว และศาลได้อนุญาตให้ฝากขังผู้ต้องหาเป็นเวลา 12 วัน ตั้งแต่วันที่ 29 มี.ค.-9 เม.ย. ถ้าพนักงานสอบสวนประสงค์จะขอฝากขังต่อ ให้มายื่นคำร้องอีกครั้ง
 
ฝ่ายผู้ต้องหาได้ยื่นขอปล่อยตัวชั่วคราวด้วยหลักทรัพย์ 1 แสนบาท และศาลทหารได้อนุญาตให้ประกันตัว โดยกำหนดเงื่อนไขห้ามชุมนุมทางการเมือง อันก่อให้เกิดความไม่สงบในราชอาณาจักร และห้ามแสดงความคิดเห็นด้วยวาจาหรือสิ่งอื่นใด เพื่อให้เกิดความปั่นป่วนหรือกระด้างกระเดื่องในหมู่ประชาชน
 
ก่อนหน้านี้ เมื่อวันที่ 28 มี.ค.59 นางธีรวรรณ ได้ถูกเจ้าหน้าที่ทหารไปติดตามหาตัวที่บ้านพัก จึงได้นัดหมายขอเข้าพูดคุยทำความเข้าใจกับเจ้าหน้าที่ทหารที่ค่ายกาวิละ โดยมีการสอบถามที่มาที่ไปของขันดังกล่าว พร้อมกับทำประวัติไว้ แล้วจึงปล่อยตัวกลับ โดยมีเจ้าหน้าที่ตำรวจติดตามไปถ่ายภาพบริเวณบ้านที่อำเภอสันกำแพงด้วย
 
แต่ในช่วงเย็น เจ้าหน้าที่ทหารกลับได้มีการเรียกตัวมาที่ค่ายกาวิละอีกครั้ง โดยครั้งนี้มีชุดพนักงานสอบสวนกว่า 10 คน เดินทางมาในที่ประชุมด้วย ก่อนจะมีการแจ้งข้อกล่าวหาตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 116 ภายในค่ายทหาร โดยนางธีรวรรณให้การปฏิเสธตลอดข้อกล่าวหา ก่อนเจ้าหน้าที่จะนำตัวไปลงบันทึกประจำวันที่สถานีตำรวจภูธรแม่ปิง และนัดมาขออำนาจศาลทหารฝากขัง
 
บันทึกแจ้งข้อหา ระบุถึงภาพที่ลงไทยรัฐ
 
โดย ศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิฯ ได้เปิดบันทึกการแจ้งข้อกล่าวหาคดีดังกล่าว โดยบันทึกดังกล่าวระบุว่าเมื่อวันที่ 26 มี.ค.59 เวลาประมาณ 14.00 น.เศษ ผู้ต้องหาได้ถือขันน้ำสีแดงและถือภาพโปสเตอร์สวัสดีวันสงกรานต์ ปีใหม่ไทย ซึ่งมีรูปภาพนายทักษิณ ชินวัตร และนางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ให้นักข่าวหนังสือพิมพ์ไทยรัฐถ่ายรูป ซึ่งต่อมาหนังสือพิมพ์ไทยรัฐ ฉบับวันจันทร์ที่ 28 มี.ค.59 ได้นำรูปถ่ายดังกล่าวไปลงที่ภาพปกหน้า 1 คอลัมน์สงกรานต์ม๋วนใจ๋ และได้เขียนบรรยายภาพว่า “สงกรานต์ม๋วนใจ๋ ชาวบ้านในจ.เชียงใหม่ ยิ้มปลื้มอวดขันน้ำสีแดง ที่เขียนคำอวยพร “สวัสดีสงกรานต์ปีใหม่ไทย 2559” จากนายทักษิณ ชินวัตร และน.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกฯ ซึ่งมีแจกไปตามชุมชนต่างๆ ให้ชาวบ้านใช้สาดน้ำเล่นสงกรานต์ ที่จะมีการจัดงานประหยัดน้ำเล่นสงกรานต์ หรือปี๋ใหม่เมืองเจียงใหม่”
 
และในหน้า 14 คอลัมน์ชื่อ เชียงใหม่คึก “แม้ว-ปู แจกขันน้ำแดง ผู้สื่อข่าวรายงานจากจ.เชียงใหม่ว่าในช่วงใกล้เทศกาลสงกรานต์ที่จะมีการจัดงานประหยัดน้ำเล่นสงกรานต์ พบว่าชาวเชียงใหม่ต่างเฮฮาคึกคักเนื่องจากพบว่าตามชุมชนหลายแหล่งได้รับแจ้งขันน้ำสีแดง พร้อมภาพถ่ายของนายทักษิณ ชินวัตร และน.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี อยู่ในท่ายกมือไหว้พร้อมคำอวยพรและข้อความใต้ภาพว่า”สวัสดีวันสงกรานต์ปีใหม่ไทย 2559 สงกรานต์ปีนี้ผมรู้สึกคิดถึงพี่น้องเป็นพิเศษ อยากมาช่วยท่านแก้ปัญหา แต่วันนี้ขอส่งกำลังใจมาก่อน รักและคิดถึง”
 
บันทึกแจ้งข้อหาระบุว่าพฤติการณ์ดังกล่าวเป็นความผิดฐานกระทำให้ปรากฏแก่ประชาชนด้วยวิธีใดๆ อันมิใช่เป็นการกระทำภายในความมุ่งหมายแห่งรัฐธรรมนูญ หรือไม่ใช่เพื่อแสดงความคิดเห็นโดยสุจริต เพื่อให้เกิดความปั่นป่วน หรือกระด้างกระเดื่องในหมู่ประชาชน ถึงขนาดที่จะก่อความไม่สงบขึ้นในราชอาณาจักร  ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 116 ซึ่งระบุโทษจำคุกไว้ไม่เกิน 7 ปี
 
ผู้ต้องหายันถ่ายเพื่อแชร์ในเฟซบุ๊ก ไม่ทราบเรื่องลงไทยรัฐเอาไปลง
 
สำหรับนางธีรวรรณ อายุ 54 ปี เคยร่วมเป็นมวลชนเคลื่อนไหวกับกลุ่มคนเสื้อแดงในจังหวัดเชียงใหม่ เธอระบุว่าในวันเกิดเหตุ (26 มี.ค.) นั้น เธอได้ไปงานบุญที่วัดแห่งหนึ่งในอำเภอสารภี และได้พบขันดังกล่าวพร้อมกับโปสเตอร์อยู่ในบริเวณงานของวัด ด้วยความนิยมในอดีตสองนายกรัฐมนตรีอยู่แล้ว จึงได้นำมาถ่ายภาพร่วมกันกับเพื่อนๆ และมีการแชร์ต่อกันลงในเฟซบุ๊ก แต่ไม่ทราบว่ามีผู้สื่อข่าวมาถ่ายรูปไปลงหนังสือพิมพ์ด้วย โดยผู้สื่อข่าวดังกล่าวก็ไม่ได้มีแจ้งว่าจะนำไปลงข่าว หรือมีการมาขอสัมภาษณ์แต่อย่างใด
 

 

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net