Skip to main content
sharethis

นพ.ประทีป รองเลขาฯสปสช ฟ้อง พ.ร.บ.คอมฯ พญ.เชิดชู หลังปล่อย จม.ถึงประยุทธ์ อ้างตนทุจริตจัดซื้อน้ำยาล้างไต โฆษกสปสช.ย้ำมีกระบวนการบ่อนทำลายระบบหลักประกันสุขภาพถ้วนหน้า ด้านพญ.เชิดชู ยันมีพยาน-หลักฐานพร้อมขอเพียงนายกพูดจริงทำจริง

1 เม.ย.2559 จากการที่ พญ.เชิดชู อริยศรีวัฒนา ในนามประธานสหพันธ์ผู้ปฏิบัติงานด้านการแพทย์และสาธารณสุขแห่งประเทศไทย (สผพท.) ได้เผยแพร่จดหมายเปิดผนึกผ่าน facebook ส่วนตัว 'Churdchoo Ariyasriwatana' และสื่ออื่นๆ ถึงพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา และสำเนาถึงประธานและคณะกรรมการหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ เมื่อวันที่ 31 มี.ค. 2559 ร้องเรียนว่า สปสช.และ นพ.ประทีป ธนกิจเจริญ รองเลขาธิการ สปสช.ว่ามีพฤติกรรมทุจริตในหน้าที่ ด้วยการจัดซื้อน้ำยาล้างไต โดยได้ค่าตอบแทนปีละกว่า 30 ล้านบาท รวมทั้งประเด็นการบริหารงานอื่นๆ

ล่าสุดวันนี้(1 เม.ย.59) รายงานข่าวแจ้งว่า นพ.ประทีป ธนกิจเจริญ รองเลขาธิการ สปสช.และเป็นผู้สมัครเข้าสู่การสรรหาเลขาธิการ สปสช.คนใหม่ ได้เปิดเผยว่า ข้อกล่าวหาดังกล่าวล้วนเป็นเรื่องเท็จที่หน่วยงานที่เกี่ยวข้องไม่ว่าจะเป็น สตง. ป.ป.ท.และ คตร.ได้ทำความกระจ่างแล้ว การกล่าวหาและให้ข้อมูลอื่นที่เป็นเท็จถึงขั้นป้ายสีว่ามีการทุจริต ทำให้เกิดความเสียหายที่ยอมความไม่ได้ และกำลังให้ทนายความยื่นฟ้องเอาผิดทางหมิ่นประมาทและผิด พ.ร.บ.ว่าด้วยความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ.2550

ทพ.อรรถพร ลิ้มปัญญาเลิศ โฆษกสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) กล่าวว่า ขณะนี้ สปสช.และ นพ.ประทีป ธนกิจเจริญ รองเลขาธิการ ในฐานะผู้เสียหาย เตรียมให้ทนายความยื่นฟ้องและเข้าแจ้งความดำเนินคดีต่อพนักงานสอบสวนของกองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (ปอท.) ซึ่งเป็นความผิดตาม พ.ร.บ.ว่าด้วยความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ.2550 และความผิดทางอาญากรณีหมิ่นประมาททำให้เกิดความเสียหาย เพื่อดำเนินคดีกับ พญ.เชิดชู อริยศรีวัฒนาและพวก ที่ได้โพสต์ข้อความใน Facebook ส่วนตัวชื่อ Churdchoo Ariyasriwatana เมื่อวันที่ 31 มี.ค. 2559 ซึ่งเป็นข้อมูลที่เป็นเท็จลงเผยแพร่ เป็นการใส่ความป้ายสีทุจริตทำให้ สปสช.และ นพ.ประทีป เสียชื่อเสียงถูกดูหมิ่นหรือถูกเกลียดชัง กระทบต่อการสมัครคัดเลือกเป็นเลขาธิการ สปสช.คนใหม่  ขณะเดียวกันอยู่ระหว่างการมอบอำนาจให้ทนายความ เพื่อยื่นฟ้องต่อศาลอาญาฐานหมิ่นประมาทด้วย

ย้ำมีกระบวนการบ่อนทำลายระบบหลักประกันสุขภาพถ้วนหน้า

ทั้งนี้ การกระทำของ พญ.เชิดชู ที่ป้ายสีทุจริต ให้ข้อมูลอันเป็นเท็จนี้ ไม่ใช่เพิ่งเกิดขึ้นเป็นครั้งแรก แต่เกิดขึ้นมานานมาก ที่ผ่านมา สปสช.ได้ชี้แจงข้อเท็จจริง แต่ พญ.เชิดชู ก็ยังคงเผยแพร่ข้อมูลที่เป็นเท็จเกี่ยวกับ สปสช.ซ้ำๆ เพื่อบ่อนทำลายระบบหลักประกันสุขภาพถ้วนหน้า ให้ร้ายบิดเบือน สร้างกระแสให้แพทย์ พยาบาล ผู้ให้บริการในระบบสาธารณสุข เกลียดชัง สปสช. ครั้งนี้จึงขอพึ่งพากระบวนการยุติธรรม

โฆษก สปสช. กล่าวว่า ที่ผ่านมา สปสช.ถูกหน่วยงานต่างๆ หลายหน่วยงานตรวจสอบอย่างต่อเนื่องซึ่งเป็นเรื่องปกติและผลการตรวจสอบมีการเผยแพร่เป็นข่าวผ่านสื่ออย่างต่อเนื่อง ผู้ที่มีใจเป็นธรรมก็สามารถพิจารณาได้ว่าข้อเท็จจริงเป็นอย่างไร ที่สำคัญ สปสช.ก็ได้จัดทำเอกสารหลักฐานชี้แจงข้อเท็จจริงมาโดยตลอด แต่ก็ยังมีกลุ่มคนจำนวนน้อยกลุ่มหนึ่งที่ยังบิดเบือนข้อมูล เจตนาให้ร้ายตลอดเวลา ซึ่งไม่ใช่การติเพื่อก่อ แต่มีเจตนามุ่งทำลาย ให้ข้อมูลเท็จย้ำๆ ซ้ำๆ เพื่อต้องการบ่อนทำลายระบบหลักประกันสุขภาพถ้วนหน้าของประชาชน

“สปสช.ขอยืนยันเช่นเดิมว่า ยินดีรับฟังทุกข้อท้วงติง และข้อเสนอแนะในการดำเนินงาน การใช้คำวิพากษ์วิจารณ์จะรุนแรงอย่างไรก็ไม่มีปัญหา หากยืนอยู่บนพื้นฐานของข้อมูลที่ถูกต้อง ไม่ใช่การให้ร้าย ด้วยการให้ข้อมูลที่ไม่เป็นจริง การบิดเบือนเพื่อต้องการสร้างความแตกต่างระหว่างกระทรวงสาธารณสุขและ สปสช. โดยหวังจะทำให้ระบบสุขภาพของรัฐแย่ลง ซึ่งจะเอื้อประโยชน์กับธุรกิจแพทย์พาณิชย์และบริษัทยาข้ามชาติที่กำลังรุกกดดันรัฐบาลขณะนี้” ทพ.อรรถพร กล่าว

พญ.เชิดชู ยันมีพยาน หลักฐานพร้อม ขอเพียงนายกพูดจริงทำจริง

ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า ด้าน พญ.เชิดชู หลังทราบเรื่องการฟ้องดำเนินคดีดังกล่าว เมื่อมีผู้นำมาแจ้งในเฟซบุ๊ก พญ.เชิดชู ได้ตอบว่า มีพยาน หลักฐานพร้อมที่จะมอบให้นายกรัฐมนตรี ขอเพียงให้ท่านนายกพูดจริงทำจริง

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net