แอมเนสตี้ฯ เปิดรายงานโทษประหารทั่วโลก ปี 58 สถิติสูงสุดในรอบกว่า 25 ปี

6 เม.ย. 2559 แอมเนสตี้ อินเตอร์เนชั่นแนล เปิดรายงานสถานการณ์โทษประหารชีวิตและการประหารชีวิตทั่วโลกในปี 2558 ชี้ตัวเลขการประหารชีวิตเพิ่มสูงขึ้นอย่างน่าตกใจ สถิติสูงสุดในรอบกว่า 25 ปี โดยสามประเทศที่ประหารชีวิตมากที่สุดคือ อิหร่าน ปากีสถาน และซาอุดิอาระเบีย ทั้งนี้แนวโน้มประเทศต่างๆ ทั่วโลกต่างกำลังหันหลังให้กับโทษประหารชีวิต ปัจจุบันมี 140 ประเทศหรือมากกว่า 2 ใน 3 ของ ประเทศทั่วโลกได้ยกเลิกโทษประหารชีวิตทั้งในทางกฎหมายหรือในทางปฏิบัติแล้ว โดยที่ 102 ประเทศที่ยกเลิกโทษประหารชีวิตสำหรับความผิดอาญาทุกประเภท

รายงานระบุว่าปี 2558 เป็นปีที่มีการประหารชีวิตมากที่สุด นับตั้งแต่มีการบันทึกจากปี 2532  โดยมีผู้ถูกประหารชีวิตมากกว่า 1,634 คนใน 25 ประเทศ เพิ่มขึ้นจากปี 2557 ถึง 54% ซึ่งตัวเลขนี้ยังไม่นับรวมตัวเลขจากประเทศจีน ซึ่งข้อมูลดังกล่าวถือเป็นความลับของทางราชการ แต่จีนยังคงเป็นประเทศที่ประหารชีวิตประชาชนมากสุดในโลก แอมเนสตี้ อินเตอร์เนชั่นแนลเชื่อว่ามีผู้ถูกประหารชีวิตและถูกสั่งลงโทษประหารชีวิตหลายพันคนในปี 2558 แม้จะมีสัญญาณว่าจำนวนการประหารชีวิตในจีนลดลงในช่วงหลายปีที่ผ่านมา แต่เนื่องจากการเก็บข้อมูลโทษประหารชีวิตเป็นความลับทำให้ไม่สามารถยืนยันข้อมูลที่แท้จริงได้

รายละเอียดมีดังนี้

แอมเนสตี้ อินเตอร์เนชั่นแนล
แถลงการณ์

ปี 2558 การประหารชีวิตเพิ่มสูงขึ้นอย่างน่าตกใจ สถิติสูงสุดในรอบกว่า 25 ปี
• การประหารชีวิตเพิ่มขึ้นอย่างมากทั่วโลก นับเป็นสถิติสูงสุดเท่าที่แอมเนสตี้ อินเตอร์เนชั่นแนลบันทึกได้ในรอบกว่า 25 ปี
• เกือบ 90% ของทั้งหมดการประหารชีวิตที่บันทึกได้เกิดขึ้นในสามประเทศ ได้แก่ อิหร่าน ปากีสถานและซาอุดีอาระเบีย
•  นับเป็นครั้งแรกที่ประเทศส่วนใหญ่ในโลกยกเลิกโทษประหารชีวิตสำหรับความผิดอาญาทุกประเภท โดยในปี 2558 มีสี่ประเทศที่ประกาศยกเลิกโทษประหารชีวิต

แอมเนสตี้ อินเตอร์เนชั่นแนล เปิดเผยรายงานสถานการณ์โทษประหารชีวิตและการประหารชีวิตทั่วโลกพบว่า ปี 2558 มีการเพิ่มขึ้นอย่างมากของการประหารชีวิต ทำให้มีประชาชนถูกประหารชีวิตมากที่สุดในรอบ 25 ปีที่ผ่านมา โดยการประหารชีวิตส่วนใหญ่เกิดขึ้นในอิหร่าน ปากีสถานและซาอุดีอาระเบีย

ในปี 2558 มีผู้ถูกประหารชีวิตอย่างน้อย 1,634 คน เพิ่มขึ้นกว่า 50% เมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา นับเป็นสถิติสูงสุดที่แอมเนสตี้ อินเตอร์เนชั่นแนลบันทึกได้ตั้งแต่ปี 2532 เป็นต้นมา ทั้งนี้ไม่รวมจำนวนผู้ถูกประหารชีวิตในจีนซึ่งคาดว่ามีอยู่หลายพันคน แต่ทางการจีนเก็บข้อมูลการประหารชีวิตเป็นความลับทางราชการ

ซาลิล เช็ตตี้ (Salil Shetty) เลขาธิการแอมเนสตี้ อินเตอร์เนชั่นแนลเปิดเผยว่า ตัวเลขการประหารชีวิตที่เพิ่มขึ้นถือเป็นเรื่องน่าเศร้าใจอย่างยิ่ง ปี 2558 มีผู้คนทั่วโลกถูกประหารชีวิตมากที่สุดในรอบ 25 ปี รัฐบาลประเทศต่างๆ ยังคงพรากชีวิตประชาชนโดยใช้ข้ออ้างอย่างผิดๆ ว่า โทษประหารชีวิตทำให้เราปลอดภัยมากขึ้น

“อิหร่าน ปากีสถานและซาอุดีอาระเบียประหารชีวิตประชาชนจำนวนมากอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน ส่วนใหญ่เป็นผลมาจากการพิจารณาคดีที่ไม่เป็นธรรม การสังหารชีวิตผู้คนเช่นนี้ต้องยุติลง แต่ยังโชคดีที่ประเทศซึ่งประหารชีวิตประชาชนยังคงเป็นประเทศส่วนน้อยและมีจำนวนลดลงเรื่อย ๆ ประเทศส่วนใหญ่ในโลกต่างหันหลังให้กับโทษประหารชีวิต และในปี 2558 มีอีกสี่ประเทศที่ยกเลิกบทลงโทษอันแสนป่าเถื่อนออกจากกฎหมายอย่างสิ้นเชิง”

ตัวเลขการประหารชีวิตที่เพิ่มขึ้นมาจากประเทศอิหร่าน ปากีสถานและซาอุดีอาระเบีย
การเพิ่มจำนวนของการประหารชีวิตทั่วโลก ส่วนใหญ่เป็นผลมาจากสามประเทศ ซึ่งมีตัวเลขรวมสูงถึง 89% ของการประหารชีวิตทั้งหมดในปี 2558 (ยกเว้นจีน)

ปากีสถานยังคงเร่งประหารชีวิตบุคคลอย่างต่อเนื่อง หลังจากยกเลิกข้อตกลงชั่วคราวในการพักการประหารชีวิตประชาชนเมื่อเดือนธันวาคม 2557 ส่งผลให้มีประชาชนกว่า 320 คนถูกส่งเข้าแดนประหารในปี 2558 ซึ่งนับเป็นจำนวนสูงสุดที่แอมเนสตี้ อินเตอร์เนชั่นแนลบันทึกได้สำหรับกรณีประเทศปากีสถาน

อิหร่านประหารชีวิตบุคคลอย่างน้อย  977 คนในปี 2558 เปรียบเทียบกับอย่างน้อย 743 คนเมื่อปีก่อนหน้านั้น ส่วนใหญ่เป็นความผิดในคดียาเสพติด อิหร่านยังเป็นหนึ่งในประเทศสุดท้ายของโลกที่ประหารชีวิตเยาวชนผู้กระทำความผิด ซึ่งเป็นการละเมิดอย่างชัดเจนต่อกฎหมายระหว่างประเทศ โดยในปี 2558 ได้มีการประหารชีวิตเยาวชนที่กระทำความผิดขณะมีอายุต่ำกว่า 18 ปีอย่างน้อยสี่คน

ในซาอุดีอาระเบียการประหารชีวิตเพิ่มขึ้น 76% เปรียบเทียบกับปี 2557 โดยมีผู้ถูกประหารชีวิตอย่างน้อย 158 คน ส่วนใหญ่เป็นการตัดคอ แต่ทางการได้ใช้วิธียิงเป้าอยู่บ้าง และบางทีมีการนำร่างกายของบุคคลที่ถูกประหารชีวิตไปแสดงต่อสาธารณะด้วย

จำนวนการประหารชีวิตที่บันทึกได้เพิ่มขึ้นอย่างมากในอีกบางประเทศเช่นกัน ได้แก่ อียิปต์และโซมาเลีย

ในปี 2558 การประหารชีวิตเกิดขึ้นใน 25 ประเทศเพิ่มขึ้นจาก 22 ประเทศในปี 2557 และมีอย่างน้อยหกประเทศที่ไม่ประหารชีวิตใครเลยในปี 2557 แต่กลับประหารชีวิตประชาชนในปี 2558 รวมทั้งชาด (Chad) ซึ่งเป็นการประหารชีวิตครั้งแรกในรอบกว่าทศวรรษ

ประเทศที่ประหารชีวิตบุคคลมากสุดห้าอันดับแรกของโลกในปี 2558 ได้แก่ จีน อิหร่าน ปากีสถานซาอุดีอาระเบียและสหรัฐฯ ตามลำดับ

หลายประเทศอย่างเช่น จีน อิหร่าน และซาอุดีอาระเบีย ยังคงลงโทษประหารชีวิตบุคคลสำหรับความผิดต่าง ๆ รวมทั้งการค้ายาเสพติด คอรัปชั่น “การมีชู้” และ “การหมิ่นศาสนา” ซึ่งไม่สอดคล้องกับหลักเกณฑ์ตามมาตรฐานกฎหมายระหว่างประเทศ ซึ่งอนุญาตให้ใช้โทษประหารชีวิตกับความผิด “อาชญากรรมร้ายแรงสุด” เท่านั้น ทั้งนี้เป็นข้อจำกัดตามกฎหมายระหว่างประเทศ

2558 ปีแห่งความสุดโต่ง
แม้จะมีความถดถอยในปี 2558 แต่ทั่วโลกยังคงเดินทางอย่างมั่นคงไปสู่การยกเลิกโทษประหารชีวิต พัฒนาการบางด้านในปีที่ผ่านมาทำให้เกิดความหวัง และแสดงให้เห็นว่าประเทศที่ยังคงใช้โทษประหารชีวิตเป็นเพียงประเทศส่วนน้อย
ในปี 2558 มีสี่ประเทศยกเลิกโทษประหารชีวิตในกฎหมายของตนอย่างถาวรได้แก่ ฟิจิ มาดากัสการ์ สาธารณรัฐคองโก และซูรินาเม ส่วนมองโกเลียผ่านร่างประมวลกฎหมายอาญาฉบับใหม่ซึ่งยกเลิกโทษประหารชีวิต โดยจะมีผลบังคับใช้ช่วงปลายปี 2559

ปัจจุบันมี 140 ประเทศหรือมากกว่า 2 ใน 3 ของ ประเทศทั่วโลกได้ยกเลิกโทษประหารชีวิตทั้งในทางกฎหมายหรือในทางปฏิบัติแล้ว โดยที่ 102 ประเทศที่ยกเลิกโทษประหารชีวิตสำหรับความผิดอาญาทุกประเภท
“2558 เป็นปีแห่งความสุดโต่ง เราได้เห็นพัฒนาการที่น่าตกใจอย่างมาก แต่ก็ได้เห็นพัฒนาการที่ทำให้เกิดความหวังเช่นกัน สี่ประเทศยกเลิกโทษประหารชีวิตอย่างถาวร เป็นเหตุให้ประเทศส่วนใหญ่ในปัจจุบันห้ามใช้การลงโทษที่น่าสะพรึงกลัวสุดเช่นนี้แล้ว”

“ไม่ว่าความถดถอยระยะสั้นจะเป็นอย่างไร แต่แนวโน้มระยะยาวยังคงชัดเจนว่า โลกกำลังมุ่งหน้าออกจากโทษประหารชีวิต ประเทศที่ยังคงมีโทษประหารชีวิตจึงต้องตระหนักว่า พวกเขาอยู่ในด้านที่ผิดของประวัติศาสตร์ และควรยกเลิกการลงโทษที่โหดร้ายและไร้มนุษยธรรมมากสุดนี้เสียที” ซาลิล เช็ตตี้กล่าว

สรุปภาพรวมระดับภูมิภาค
ภูมิภาคอเมริกา

ทวีปอเมริกายังคงเดินหน้าไปสู่การยกเลิกโทษประหารชีวิต เป็นปีที่เจ็ดติดต่อกันที่ภูมิภาคนี้มีเพียงสหรัฐฯ ประเทศเดียวที่ยังคงประหารชีวิตประชาชน โดยในปี 2558 สหรัฐฯ ประหารชีวิตประชาชน 28 คน ซึ่งนับเป็นตัวเลขต่ำสุดตั้งแต่ปี 2534 นอกจากนั้นการสั่งลงโทษประหารชีวิต 52 ครั้งในปีที่ผ่านมา ยังนับว่าเป็นตัวเลขที่น้อยสุดตั้งแต่ปี 2520 อีกด้วย ส่วนรัฐเพนซิลเวเนียยังกำหนดให้มีข้อตกลงชั่วคราวเพื่อพักการประหารชีวิต โดยรวมแล้วปัจจุบันมี 18 รัฐของสหรัฐฯ ได้ยกเลิกโทษประหารชีวิตอย่างถาวร

นอกจากสหรัฐฯแล้ว ตรินิแดดและโตเบโกยังคงเป็นอีกประเทศหนึ่งในภูมิภาคนี้ที่ยังคงลงโทษประหารชีวิตกับประชาชนอยู่

ภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิก
ในปี 2558 การประหารชีวิตเพิ่มขึ้นอย่างมากในภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิก ส่วนใหญ่เกิดขึ้นในปากีสถานซึ่งมีการประหารชีวิตผู้คนเกือบ 90% ของทั้งหมด (ไม่นับรวมประเทศจีน) ตามข้อมูลที่แอมเนสตี้ อินเตอร์เนชั่นแนลบันทึกได้ในภูมิภาคนี้ บังกลาเทศ อินเดีย และอินโดนีเซียต่างกลับมาใช้การประหารชีวิตอีกครั้งในปี 2558 โดยอินโดนีเซียประหารชีวิตประชาชนไป 14 คนในคดียาเสพติด

จีนยังคงเป็นประเทศที่ประหารชีวิตผู้คนมากสุดในโลก และแอมเนสตี้ อินเตอร์เนชั่นแนลเชื่อว่ามีผู้ถูกประหารชีวิตและถูกสั่งลงโทษประหารชีวิตชีวิตหลายพันคนในปี 2558 แม้จะมีสัญญาณว่าจำนวนการประหารชีวิตในจีนลดลงในช่วงหลายปีที่ผ่านมา แต่เนื่องจากการเก็บข้อมูลโทษประหารชีวิตเป็นความลับทำให้ไม่สามารถยืนยันข้อมูลที่แท้จริงได้

ภูมิภาคยุโรปและเอเชียกลาง
เบลารุสเป็นประเทศเดียวในภูมิภาคที่ยังใช้คงมีโทษประหารชีวิต แม้ว่าประเทศนี้จะไม่ได้ประหารชีวิตเลยในปี 2558 แต่มีการสั่งลงโทษประหารชีวิตประชาชนอย่างน้อยสองกรณี

ภูมิภาคตะวันออกกลางและแอฟริกาเหนือ
การใช้โทษประหารชีวิตเพิ่มขึ้นอย่างมากในปี 2558 ทุกประเทศในภูมิภาคนี้ล้วนใช้โทษประหารชีวิต (ยกเว้นโอมานและอิสราเอล) มีแปดประเทศที่ประหารชีวิตประชาชนโดยภาพรวมมีผู้ถูกประหารชีวิตอย่างน้อย 1,196 คน เพิ่มขึ้น 26% เทียบกับปี 2557 และส่วนใหญ่เป็นผลมาจากการประหารชีวิตที่เพิ่มขึ้นในอิหร่านและซาอุดีอาระเบีย เฉพาะอิหร่านมีการประหารชีวิตผู้คนมากถึง 82% ของการประหารชีวิตทั้งหมดในภูมิภาค

ภูมิภาคแอฟริกาส่วนที่ต่ำกว่าทะเลทรายซาฮารา
มีพัฒนาการทั้งในทางบวกและลบในแอฟริกาส่วนที่ต่ำกว่าทะเลทรายซาฮารา มาดากัสการ์และสาธารณรัฐคองโกต่างยกเลิกโทษประหารชีวิตอย่างถาวร และจำนวนการลงโทษประหารชีวิตลดลงอย่างมากจาก 909 ครั้งในปี 2557 เป็น 443 ครั้งในปี 2558 ส่วนใหญ่เป็นการลดการใช้โทษประหารชีวิตในไนจีเรีย

จำนวนการประหารชีวิตที่บันทึกได้ลดลงเล็กน้อยจาก 46 เป็น 43 เมื่อเทียบกับปีที่แล้ว อย่างไรก็ดี ชาดได้เริ่มการประหารชีวิตบุคคลเป็นครั้งแรกในรอบกว่า 12 ปี โดยมีการยิงเป้าผู้ต้องสงสัยว่าเป็นสมาชิกกลุ่มโบโกฮารามจำนวน 10 คนในเดือนสิงหาคม

แอมเนสตี้ อินเตอร์เนชั่นแนลคัดค้านโทษประหารชีวิตทุกกรณีโดยไม่มีข้อยกเว้น ไม่ว่าจะเป็นความผิดทางอาญาประเภทใด ไม่ว่าผู้กระทำผิดจะมีบุคลิกลักษณะใด หรือไม่ว่าทางการจะใช้วิธีประหารชีวิตแบบใด โทษประหารชีวิตละเมิดสิทธิที่จะมีชีวิตตามที่ประกาศไว้ในปฏิญญาสากลว่าด้วยสิทธิมนุษยชน และถือเป็นการลงโทษที่โหดร้าย ไร้มนุษยธรรม และย่ำยีศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ รวมทั้งงานวิจัยมากมายจากนานาประเทศได้แสดงให้เห็นอย่างชัดเจนว่าโทษประหารชีวิตไม่มีความเชื่อมโยงใดๆ กับการเพิ่มขึ้น หรือลดลงของอาชญากรรม

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไทอัพเดท ได้ที่:
Facebook : https://www.facebook.com/prachatai
Twitter : https://twitter.com/prachatai
YouTube : https://www.youtube.com/prachatai
Prachatai Store Shop : https://prachataistore.net
ข่าวรอบวัน
สนับสนุนประชาไท 1,000 บาท รับร่มตาใส + เสื้อโปโล

ประชาไท