Skip to main content
sharethis

<--break- />

สถานีวิทยุแห่งชาติสหรัฐอเมริกา (NPR) รายงานว่าในสหรัฐฯ กำลังหันมาใช้พลังงานทดแทนและเทคโนโลยีใหม่เพื่อทำให้สามารถเน้นการใช้พลังงานแบบที่ปล่อยก๊าซคาร์บอนต่ำเพิ่มมากขึ้น ในบางแห่งของประเทศยังมีพลังงานทดแทนที่ถูกมากจนกระทั่งทำให้พวกเขาลดรายจ่ายการการผลิตพลังงานด้วยแหล่งผลิตเดิม เช่น พลังงานนิวเคลียร์

เรื่องนี้ส่งผลกระทบอย่างมีนัยสำคัญต่ออุตสาหกรรมพลังงานนิวเคลียร์และส่งผลให้โรงไฟฟ้าปฏิกรณ์นิวเคลียร์ที่ไม่ทำกำไรจำนวนหนึ่งปิดตัวลง

ในตอนที่มีการตั้งโรงไฟฟ้าพลังงานนิวเคลียร์แห่งแรกเมื่อ 60 ปีที่แล้ว พลังงานนิวเคลียร์ดูจะเป็นกลายเป็นกระแสใหม่ ซึ่งตัวมันเองก็สร้างกระแสได้พอสมควร เพราะโรงไฟฟ้าเหล่านี้แสดงให้เห็นว่ามันเป็นพลังงานที่สะอาด ปลอดภัย และพึ่งพาได้ อีกทั้งยังปราศจากคาร์บอน โรงไฟฟ้านิวเคลียร์ยังกลายเป็นแหล่งพลังงานถึงร้อยละ 20 ของสหรัฐฯ ด้วย

อย่างไรก็ตามนับตั้งแต่ที่มีการเริ่มใช้พลังงานนิวเคลียร์ ผู้คนในอุตสาหกรรมพลังงานนิวเคลียร์ก็ต้องต่อสู้กับปัญหาใหญ่อย่างเรื่องค่าใช้จ่าย ถ้าสามารถทำให้พลังงานนิวเคลียร์มีราคาถูกได้จะเปรียบเสมือนกับค้นพบสมบัติในระดับตำนานเลยทีเดียว แต่พวกเขาก็ไม่สามารถทำได้สำเร็จ โรงไฟฟ้านิวเคลียร์มีแต่จะเพิ่มรายจ่ายเกินงบ และหลังจากที่เกิดกรณีภัยพิบัติโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ที่ฟุกุชิมะประเทศญี่ปุ่นจากเหตุแผ่นดินไหวและสึนามิก็ทำให้บริษัทหลายแห่งต้องใช้เงินเพิ่มขึ้นหลายล้านดอลลาร์ไปกับวัสดุอุปกรณ์ด้านความปลอดภัยเพื่อทำให้ทำให้โรงไฟฟ้านิวเคลียร์เก่าๆ ทำงานต่อไปได้

ไมค์ ทูว์มีย์ โฆษกบริษัทโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ 'เอนเทอจี นิวเคลียร์' กล่าวว่า "มันคงเป็นเรื่องที่ตัดสินใจยากมากสำหรับบริษัทใดๆ ก็ตามที่ต้องการจะสร้างโรงไฟฟ้านิวเคลียรแห่งใหม่"

เอนเทอจี มีโรงไฟฟ้าปฏิกรณ์นิวเคลียร์ที่ไม่ได้ใช้งานแล้วและไม่ทำกำไรอยู่แห่งหนึ่งในรัฐเวอร์มอนต์และมีแผนจะปิดโรงไฟฟ้านิวเคลียร์อีก 2 แห่งที่ขาดทุนในรัฐนิวยอร์กและแมซซาชูเซตต์

ที่มา : Milada Vigerova, Stocksnap, CC0 1.0

คณะกรรมการกำกับกิจการพลังงานของสหรัฐฯ (Nuclear Regulatory Commission) ระบุว่ามีโรงไฟฟ้าปฏิกรณ์นิวเคลียร์  รวมทั้งหมด 19 แห่ง ที่กำลังอยู่ในขั้นตอนยกเลิกทำการซึ่งมีอยู่ 5 แห่งที่ยกเลิกทำการไปแล้วในช่วงทศวรรษที่ผ่านมา

สาเหตุหลักที่มีการปิดโรงไฟฟ้านิวเคลียร์อย่างต่อเนื่องเป็นเพราะว่าโรงไฟฟ้ารุ่นใหม่ที่ใช้พลังงานก๊าซมีราคาถูกกว่าและสามารถผลิตไฟฟ้าขายได้ในราคาไม่แพง

แต่ ไมเคิล ชไนเดอร์ นักวิเคราะห์อุตสาหกรรมพลังงานนิวเคลียร์ก็กล่าวว่าไม่เพียงแค่พลังงานก๊าซเท่านั้น พลังงานนิวเคลียร์ยังถูกกดดันเรื่องราคาจากพลังงานลมและพลังงานแสงอาทิตย์ด้วย พลังงานทดแทนเหล่านี้มีราคาถูกมากในบางพื้นที่ของสหรัฐฯ ในระดับที่ถึงขั้นตัดราคาพลังงานถ่านหินและก๊าซธรรมชาติได้

"พวกเราเริ่มมองเห็นว่ามีการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ในตลาดพลังงานที่มีการแข่งขันสูงซึ่งเป็นการทิ้งพลังงานนิวเคลียร์ไว้อย่างโดดเดี่ยว" ชไนเดอร์กล่าว

เกินกว่า 10 ปีที่ผ่านมาไม่มีการตั้งโรงไฟฟ้าพลังงานนิวเคลียร์แห่งใหม่เพิ่มขึ้นอีกเลยในสหรัฐฯ โรงไฟฟ้าพลังงานนิวเคลียร์แห่งสุดท้ายที่มีการตั้งในสหรัฐฯ คือโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ในรัฐเทนเนสซีเมื่อปี 2537 (มีการคาดการณ์กันว่าอีกหน่วยหนึ่งจากโรงไฟฟ้าเดียวกันกำลังจะเปิดทำการเพิ่มภายในปีนี้)

มีโรงไฟฟ้านิวเคลียร์จำนวนหนึ่งกำลังก่อสร้างในทางตอนใต้ของสหรัฐฯ ซึ่งมีการกำกับควบคุมตลาดพลังงานอย่างเข้มงวดทำให้ผู้มีอำนาจทางการในพื้นที่นั้นไม่ต้องเผชิญกับการแข่งขันที่ทำให้เกิดการปฏิวัติตลาดพลังงานในพื้นที่ส่วนอื่นของประเทศ แต่วงในของอุตสาหกรรมพลังงานนิวเคลียร์เองก็มีผู้เชี่ยวชาญที่ยอมรับกันมากขึ้นว่าสหรัฐฯ มาถึงจุดที่การตั้งโรงไฟฟ้าพลังงานนิวเคลียร์แห่งใหม่จะถือว่าเป็นสิ่งที่แพงเกินไปแล้ว

"พวกเราคิดว่าราคาค่าใช้จ่ายของพลังงานนิวเคลียร์แห่งใหม่ในตอนนี้ไม่สามารถแข่งขันกับเทคโนโลยีพลังงานทดแทน พลังงานปราศจากคาร์บอน และการเก็บรักษาพลังงาน ที่มีอยู่ในตลาดได้" โจ โดมินเกซ รองประธานบริหารด้านกิจการการกำกับดูแล กิจการเกี่ยวกับรัฐบาล และนโยบายสาธารณะของบริษัทเอ็กเซลอน บริษัทพลังงานนิวเคลียร์ที่ประกาศแผนการปิดโรงงานปฏิกรณ์แห่งหนึ่งในนิวเจอร์ซี

โดมินเกซเปิดเผยอีกว่ามีโรงไฟฟ้าอื่นๆ ที่กำลังขาดทุนในอิลินอยส์และนิวยอร์ก ซึ่งกำลังมีการพิจารณาว่าจะทำการปิดโรงไฟฟ้าเหล่านี้หรือไม่ นอกจากนี้ยังบอกอีกว่าพวกเขาไม่มีแผนการเปิดโรงปฏิกรณ์นิวเคลียร์แห่งใหม่ในตอนนี้

บริษัทอย่างเอ็กเซลอนและเอนเทอร์จี หวังว่ารัฐบาลจะยอมให้ความช่วยเหลือด้านการเงินแก่โรงไฟฟ้าที่เหลือ ในแบบเดียวกับที่รัฐบาลให้เงินช่วยเหลือแก่พลังงานลมและพลังงานแสงอาทิตย์ในตอนนี้ โดยทางบริษัทเหล่านี้เปิดเผยว่าการผลิตพลังงานอย่างต่อเนื่องจากโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ยังคงมีบทบาทสำคัญในการสร้างความมั่นคงด้านโครงข่ายพลังงานแห่งชาติ

แต่ขณะเดียวกัน NPR ก็ระบุว่าโรงปฏิกรณ์ในอเมริกากำลังเก่าลงเรื่อยๆ โดยเฉลี่ยโรงไฟฟ้าเหล่านี้อยู่มากว่า 35 ปีแล้ว ในขณะที่กำลังมีการลงทุนด้านก๊าซธรรมชาติและเริ่มหันมาใช้พลังงานลมกับพลังงานแสงอาทิตย์มากขึ้นเรื่อยๆ "พลังงานแห่งอนาคต" ในแบบเก่ากำลังเริ่มถูกกลืนจาก "พลังงานแห่งอนาคต" ในแบบใหม่

 

เรียบเรียงจาก

Unable To Compete On Price, Nuclear Power On The Decline In The U.S., NPR, 07-04-2016

http://www.npr.org/2016/04/07/473379564/unable-to-compete-on-price-nuclear-power-on-the-decline-in-the-u-s

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net