Skip to main content
sharethis

มติ ครม.สั่งปิดเมืองชาตรี อัครา จ.พิจิตร โดยขยายเวลาใบอนุญาตไปจนถึง สิ้นปี 2559 ส่วนพนักงานและผู้รับเหมา รวม กว่า 1,000 กว่าคน ให้ กระทรวงแรงงานดูแล 

10 พ.ค.2559 เมื่อเวลา 14.35 น. ที่ผ่านมา เฟซบุ๊ก 'ภัทราพร ตั๊นงาม' รายงานว่า คณะรัฐมนตรี (ครม.) สั่งปิดเหมืองชาตรี อัครา หลังสิ้นปี 59 แต่ขยายเวลาใบอนุญาตไปจนถึง สิ้นปี 2559 ส่วนพนักงานและผู้รับเหมา รวม กว่า 1,000 กว่าคน ให้ กระทรวงแรงงานดูแล ตามข้อเสนอของ รัฐมนตรี 4 กระทรวงเสนอ ในระหว่างนี้ ให้ บริษัท ขนแร่ ได้ถึงสิ้นปี โดย รัฐมนตรี 4 กระทรวง เห็นร่วมกันว่า เพื่อบรรเทาความขัดแย้ง การต่อต้านของประชาชน ในพื้นที่ ไม่หวั่น เหมืองฟ้องร้อง

โดยสำนักข่าวอิศรารายงานด้วยว่า ที่ประชุม ครม.ได้มีการพิจารณาการต่อใบอนุญาตเหมืองแร่ทองคำชาตรี จ.พิจิตร ของบริษัท อัครา รีซอร์สเซส จำกัด (มหาชน) ซึ่งจะหมดอายุในวันที่ 13 พ.ค. นี้ โดยช่วงเช้ามีประชาชนที่อาศัยอยู่รอบพื้นที่ทำเหมืองแร่ทองคำ 3 จังหวัด ได้แก่ พิษณุโลก พิจิตร และเพชรบูรณ์ เดินทางมาเฝ้ารอติดตามฟังผลการประชุม ครม. ที่ศูนย์รับเรื่องราวร้องเรียน ทำเนียบรัฐบาล ขณะที่ประชาชนในกรุงเทพฯ ต่างเดินทางมาให้กำลังใจประชาชนกลุ่มดังกล่าวด้วย

สำนักข่าวอิสรา รายละเอียดผลการประชุม ครม. ซึ่งมีมติ ดังต่อไปนี้

1. ยุติการอนุญาตอาชญาบัตรพิเศษสำรวจแร่ทองคำและประทานบัตรทำเหมืองแร่ทองคำ รวมถึงคำขอต่ออายุประทานบัตรด้วย

2. ในกรณีของบริษัท อัคราฯ เพื่อบรรเทาปัญหาความเดือดร้อนของพนักงาน และเพื่อเตรียมการเลิกประกอบกิจการ จึงเห็นควรให้ต่ออายุใบอนุญาตประกอบโลหกรรมไปจนถึงสิ้นปี 2559 เพื่อให้สามารถนำแร่ที่เหลืออยู่ไปใช้ประโยชน์ได้ พร้อมทั้งให้บริษัท อัคราฯ เร่งดำเนินการปิดเหมืองและฟื้นฟูพื้นที่ที่ผ่านการทำเหมืองให้เป็นไปตามเงื่อนไขการอนุญาต

3. ให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องดูแลประชาชนและบรรเทาปัญหาที่อาจจะเกิดขึ้นภายหลังสิ้นสุดการประกอบกิจการเหมืองแร่และโลหกรรมของบริษัท อัคราฯ โดยให้กระทรวงอุตสาหกรรมและกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม กำกับดูแลการปิดเหมืองและฟื้นฟูพื้นที่

ส่วนกระทรวงสาธารณสุข ดูแลสุขภาพของประชาชนในพื้นที่อย่างต่อเนื่อง และกระทรวงแรงงานดูแลพนักงานที่ได้รับผลกระทบจากการปิดกิจการ

อรรชกา สีบุญเรือง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม (รมว.อุตสาหกรรม) ระบุว่า นายกรัฐมนตรีอนุมัติให้กระทรวงอุตสาหกรรมดำเนินการตามกฎหมาย ระเบียบต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้อง และบูรณาการส่วนราชการต่าง ๆ เพื่อให้เป็นไปตามมติร่วมกันของทั้ง 4 กระทรวงข้างต้นแล้ว

"กระทรวงอุตสาหกรรมจะประสานงานกับกระทรวงสาธารณสุข กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม กระทรวงแรงงาน และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ในการดำเนินการให้เป็นไปตามกรอบที่ได้รับความเห็นชอบให้ดำเนินการ ทั้งด้านการกำกับดูแลการปิดเหมืองและฟื้นฟูพื้นที่ที่ผ่านการทำเหมือง การดูแลสุขภาพของประชาชนในพื้นที่อย่างต่อเนื่อง รวมถึงการดูแลพนักงานที่ได้รับผลกระทบจากการปิดกิจการ” รมว.อุตสาหกรรม กล่าว

ทั้งนี้ การช่วยเหลือพนักงานของบริษัท อัคราฯ นอกจากกระทรวงอุตสาหกรรมจะประสานกับกระทรวงแรงงานในการให้ความช่วยเหลือแล้ว จะประสานผู้ว่าราชการจังหวัดพิจิตรให้นำเงินกองทุนพัฒนาท้องถิ่น ซึ่งมีอยู่ประมาณ 45 ล้านบาท มาให้การช่วยเหลือพนักงานที่ได้รับผลกระทบด้วย .

 

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net