Skip to main content
ประชาไททำหน้าที่เป็นเวที เนื้อหาและท่าที ความคิดเห็นของผู้เขียน อาจไม่จำเป็นต้องเหมือนกองบรรณาธิการ
sharethis


 

ใครก็ตามที่พยายามมาโดยตลอดที่จะสร้างความชอบธรรมทางกฏหมายให้พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้า คสช. เป็นรัฏฐาธิปัตย์ ควรจะไปศึกษาคำสอนทางด้านรัฐศาสตร์ให้ลึกซึ้งกว่านี้ และจำเป็นอย่างยิ่งที่จะย้อนกลับไปดูตำราที่อาจารย์ด้านรัฐศาสตร์ส่วนใหญ่เขาใช้สอนกัน ก่อนที่จะแสดงวิสัยทัศน์ที่ทำให้ประชาชนนั้นเข้าใจผิดว่ารัฏฐาธิปัตย์นั้นมีจริง ด้วยความเคารพแท้ที่จริงแล้วถ้าจะพยายามแปลคำว่ารัฏฐาธิปัตย์เป็นศัพท์เทคนิคทางด้านรัฐศาสตร์ โดยใช้ภาษาอังกฤษที่สื่อสารกันแล้วโลกเข้าใจ คำที่เหมาะสมที่สุดก็คือคำว่า Sovereign ในที่นี้หมายถึง ‘อำนาจอธิปไตย’ ซึ่งโดยหลักการแล้ว อำนาจอธิปไตยไม่ว่าจะเขียนหรือไม่เขียนไว้ในรัฐธรรมนูญ ต้องมีที่มาซึ่งเชื่อมโยงกับประชาชน แม้กระทั่งในรัฐธรรมนูญชั่วคราวที่ คสช.ได้ร่างมาที่มีปัญหาเยอะแยะมากมายและย้อนแย้งในตัวร่างของมันเอง ก็ยังอุตส่าห์เขียนไว้ในมาตรา 3 ว่า “อำนาจอธิปไตยเป็นของปวงชนชาวไทย” เพราะฉะนั้นในวันนี้ไม่ว่าบิ๊กตู่หรือบิ๊กป้อมจะได้สถาปนาตนเองเป็น Duumvirate หรือรัฏฐาธิปัตย์คู่ไปแล้วหรือไม่ มันเป็นการสำคัญตนเองผิดโดยสิ้นเชิง เพราะว่าหากจะเป็นรัฏฐาธิปัตย์ที่แท้จริง คุณจะต้องมีพละกำลังผ่านกลไกทางด้านการปกครองที่สามารถควบคุมทุกๆ อณูของสังคมได้

สองประเด็นที่ต้องเข้าใจอย่างถ่องแท้ ก็คือ หนึ่ง ต่อให้เป็นรัฐธรรมนูญฉบับเผด็จการที่ประเทศไทยมีมาหลายยุคหลายสมัย ที่ร่างมาใช้กันอย่างชั่วคราวซ้ำแล้วซ้ำเล่าก็ไม่เคยให้ความชอบธรรมทางกฎหมายสำหรับคอนเซ็ปต์รัฏฐาธิปัตย์ ด้วยเหตุที่ในทุกๆร่างจะระบุชัดว่าการบริหารราชการแผ่นดินไม่ว่าจะมีอำนาจล้นฟ้ามากเพียงใดจะต้องคำนึงถึงความที่แผ่นดินนี้เป็นของคนไทยและอำนาจซึ่งคุณถืออยู่ชั่วคราวนั้นมาจากประชาชนคนไทยเท่านั้น

สอง ถ้าลองไปอ่านดูในมาตรา 44 จะเขียนไว้ว่า คำสั่งของหัวหน้า คสช. ที่จะมีอำนาจในการบังคับปฏิบัติเหนือฝ่ายบริหาร ฝ่ายนิติบัญญัติ และฝ่ายตุลาการ สามารถออกได้ก็ต่อเมื่อมีความจำเป็นเพื่อประโยชน์ในการปฏิรูปด้านต่างๆ การส่งเสริมความสามัคคีและความสมานฉันท์ของประชาชนในชาติ หรือเพื่อป้องกัน ระงับ หรือปราบปรามการกระทําอันเป็นการบ่อนทําลายความสงบเรียบร้อยหรือความมั่นคงของชาติ ราชบัลลังก์ เศรษฐกิจของประเทศ หัวหน้า คสช. ไม่มีสิทธิที่จะใช้อำนาจตามอำเภอใจ ดังนั้น พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา ไม่เคยเป็นและก็จะไม่มีวันเป็น รัฏฐาธิปัตย์

ถ้าเราจะย้อนกลับไปสมัยก่อน พ.ศ. 2475 ที่ราชอาณาจักรไทยปกครองโดยระบอบสมบูรณาญาสิทธิราชย์ก็เป็นสิ่งที่อาจจะพูดได้ว่า รัฏฐาธิปัตย์ในยุคนั้นคือพระมหากษัตริย์ จะเห็นได้ว่ามีนักประวัติศาสตร์หลายคนเลือกที่จะอธิบายว่าพระมหากษัตริย์ในระบอบสมบูรณาญาสิทธิราชย์คือองค์อธิปัตย์ อย่างไรก็ดี ต่อให้อยู่ในยุคสมัยนั้น ก็ไม่ใช่ว่าเครื่องมือต่างๆ ที่ใช้ในการบริหารราชการสามารถสั่งการให้ทุกสิ่งทุกอย่างเป็นไปตามพระราชหฤทัยได้

รัฏฐาธิปัตย์หากมีจริงอาจเกิดขึ้นได้หากโลกใบนี้ของเราอยู่ภายใต้ระบอบเผด็จการโดยเทคโนโลยีในรูปฟอร์มของสิ่งที่ George Orwell อาจจะเรียกว่า Big Brother วิวัฒนาการทางเทคโนโลยีในศตวรรษข้างหน้า อาจนำสังคมมนุษย์ไปสู่การผูกขาดการใช้เทคโนโลยีทางด้านการปกครองโดยพันธะคู่สัญญาระหว่างรัฐทหารและทุนเทคโนโลยีใหญ่สามานย์ ทว่า เผด็จการเทคโนโลยีอย่างที่ได้กล่าวถึงนี้ มันยังเป็นสิ่งที่อยู่ไกลเกินกว่าคนส่วนใหญ่จะสามารถจินตนาการถึงได้

กลับมาที่ประเทศไทยยุค Duumvirate–‘สำคัญตนเองผิดว่าเป็นรัฏฐาธิปัตย์’–‘ทหารเป็นใหญ่’นี้ สิ่งที่เราเห็นวันนี้ในบ้านเมืองของเราไม่ใช่ระบอบการเมืองการปกครองที่ฟังแล้วดูสวยหรู ที่มีรัฏฐาธิปัตย์นำพาการปฏิรูปประเทศไปสู่ประชาธิปไตยที่มีคุณภาพมากขึ้นหรอก แท้ที่จริงแล้ว สิ่งที่เห็นอยู่ตรงหน้าคือผู้ที่กุมไว้ซึ่งอำนาจและที่ต้องการรักษาอำนาจของพรรคพวกของตนเองต่อไป ในความพยายามนั้น พร้อมที่จะบิดเบือนคำสอนขั้นพื้นฐานเกี่ยวกับระบอบประชาธิปไตยให้คนที่ไม่รู้เข้าใจผิด

ความชอบธรรมในการเป็น Sovereign ที่ทั่วโลกและคนไทยทุกคนนั้นยอมรับ ยังไงๆก็หนีไม่พ้นที่จะต้องเชื่อมโยงกลับมาสู่ประชาชนโดยที่มีกระบวนการการเลือกตั้งที่โปร่งใส ยุติธรรม ซึ่งนำมาสู่รัฐสภา และที่จะนำไปสู่การคัดเลือกนายกรัฐมนตรีซึ่งต้องมาจากสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร และหากจะสมบูรณ์อย่างแท้จริงต้องรวมไปถึงการสร้างองคาพยพทางตุลาการใหม่ ซึ่งมีความเชื่อมโยงกับประชาชนในรูปแบบใดรูปแบบหนึ่ง แทนที่จะเชื่อมโยงกับองค์อธิปัตย์ทางพิธีการ แต่ทั้งหมดนี้จะเป็นไปได้ก็ต่อเมื่ออำนาจดิบของกองทัพอยู่ภายใต้การบังคับบัญชาของผู้บัญชาการเหล่าทัพที่ผ่านกระบวนการคัดสรรและแต่งตั้งที่เชื่อมโยงกับ ‘รัฏฐาธิปัตย์’ ที่แท้จริงและในที่นี้หมายถึงSovereign ที่แท้จริง ซึ่งนั่นก็คือประชาชน

 

 

เกี่ยวกับผู้เขียน: ปัจจุบัน ม.ล. ณัฏฐกรณ์ เทวกุล เป็นผู้ดำเนินรายการ The Daily Dose และ Wake Up News สถานีโทรทัศน์วอยซ์ทีวี

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net