Skip to main content
sharethis
นางสาวสุภิญญา กลางณรงค์ คณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) เปิดเผยว่า การประชุมคณะกรรมการกิจการกระจายเสียงและกิจการโทรทัศน์ (กสท.) ครั้งที่ 26/2559 วันจันทร์ที่  8 สิงหาคม นี้ มีวาระการประชุมที่เกี่ยวข้องกับ บริษัท ซีทีเอช เคเบิล ทีวี จำกัด แจ้งขอยุติการให้บริการประกอบกิจการโครงข่ายดาวเทียมแก่ลูกค้า ตั้งแต่วันที่ 1 ก.ย. 59 ซึ่งนางสาวสุภิญญา กล่าวว่า สำนักงานได้เสนอให้บริษัทจัดทำแผนมาตรการเยียวยาลูกค้าภายหลังยุติการให้บริการ พร้อมทั้งนำเสนอข้อมูล จำนวนลูกค้าทุกประเภท จำนวนช่องรายการที่ออกอากาศ เพื่อนำเสนอให้กสท. พิจารณาเห็นชอบแผนเยียวยาภายใน 7 วัน รวมทั้งต้องชี้แจงการดำเนินการ หรือแผนรองรับผลกระทบที่จะเกิดขึ้นต่อผู้ประกอบกิจการช่องรายการที่เกี่ยวข้อง และต้องแจ้งการเปลี่ยนแปลงโครงข่ายที่ใช้ในการออกอากาศกรณีที่บริษัทประสงค์จะประกอบกิจการช่องรายการต่อไปให้ กสท. ทราบก่อนที่จะมีการเปลี่ยนแปลง ซึ่งเมื่อ วันที่ 1 ส.ค. ที่ผ่านมา ซีทีเอช ได้ยุติการให้บริการลูกค้าที่รับชมรายการผ่านดาวเทียม Ku-Band ก่อนที่จะได้รับอนุญาตจาก กสท. ที่ยังไม่เห็นชอบมาตรการแผนเยียวยาของบริษัทที่มีต่อลูกค้า Ku-Band ในการประชุม กสท.ครั้งนี้ คณะอนุกรรมการคุ้มครองผู้บริโภคฯและสำนักงาน ได้เสนอมาตรการทางปกครองต่อบริษัทซีทีเอช ให้ระงับการยุติการให้บริการผ่านดาวเทียม Ku-Band ซึ่งเป็นการกระทำที่ฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามเงื่อนไขในการให้บริการที่บริษัทฯ ได้ตกลงไว้กับผู้ใช้บริการโดยปราศจากเหตุผลอันควร ตามประกาศ กสทช. เรื่องการกระทำที่เป็นการเอาเปรียบผู้บริโภคในกิจการกระจายเสียงและโทรทัศน์ พ.ศ. 2555 และให้ปฏิบัติตามเงื่อนไขที่ กสท. กำหนดก่อนเลิกกิจการ โดยบริษัทจะต้องดำเนินการเสนอมาตรการเยียวยาผู้บริโภคเพิ่มเติมให้เป็นธรรมและครอบคลุมการคุ้มครองผู้บริโภคมิให้ถูกเอาเปรียบบตามกฎหมายที่เกี่ยวข้อง ทั้งนี้เห็นสมควรกำหนดค่าปรับทางปกครองในกรณีที่บริษัทฯฝ่าฝืนในอัตราไม่เกินห้าล้านบาท และปรับรายวันอีกวันละไม่เกินหนึ่งแสนบาท ตลอดระยะเวลาที่ยังไม่ปฏิบัติตามคำสั่งนั้น
 
นอกจากนี้ ที่ประชุมจะพิจารณาให้บริษัท จีเอ็มเอ็ม บี จำกัด เสนอมาตรการเยียวยาใหม่แทนแผนการชดเชยเยียวยาเดิมที่ชดเชยเป็นกล่องรับสัญญาณโทรทัศน์ดาวเทียม Ku-Band พร้อมแพคเกจสูงสุดของซีทีเอช เนื่องจาก ซีทีเอชได้ยุติการให้บริการแล้ว เมื่อวันที่ 1 ส.ค. ที่ผ่านมา ทำให้มาตรการเยียวยาดังกล่าวจึงไม่สามารถชดเชยความเสียหายของผู้ใช้บริการได้อีกต่อไป โดยบริษัทจะต้องเสนอมาตรการเยียวยาผู้บริโภคภายใน 14 วันนับแต่ได้รับคำสั่งพร้อมทั้งเร่งรัดให้ดำเนินการเยียวยาให้ครอบคลุมและเป็นธรรมด้วย ส่วนบริษัทจีเอ็มเอ็ม แซท เห็นสมควรมีคำสั่งให้บริษัทระงับการดำเนินการที่มิได้มีมาตรการเยียวยาตามประกาศ กสทช. เรื่อง มาตรฐานของสัญญาการให้บริการที่บริษัทได้ตกลงกับผู้ใช้บริการ ได้เสนอโทษปรับทางปกครองในกรณีที่บริษัทฝ่าฝืนในอัตราไม่เกินห้าล้านบาท และปรับรายวันอีกวันละไม่เกินหนึ่งแสนบาท ตลอดระยะเวลาที่ยังไม่ปฏิบัติตามคำสั่งนั้น พร้อมทั้งเสนอให้สำนักงาน กสทช. พิจารณาจัดทำข้อเสนอต่อ กสท.เกี่ยวกับมาตรการบังคับผู้รับใบอนุญาตที่มีอยู่ในปัจจุบัน เพื่อการคุ้มครองผู้บริโภคใช้บริการอย่างเป็นธรรม หรือจัดทำข้อเสนอต่อการกำหนดมาตรการบังคับใช้ตามเงื่อนไขใบอนุญาต หากไม่มีข้อกำหนดในการคุ้มครองผู้ใช้บริการที่เป็นธรรม
 
“แม้ว่าทางบริษัทซีทีเอช จะอ้างเหตุว่าประสบปัญหาทางธุรกิจ แต่สัญญากับผู้บริโภคก็ต้องเป็นสัญญา ดังนั้นก่อนการยกเลิกต้องปฏิบัติตามเงื่อนไขใบอนุญาต ด้วยการจัดทำแผนเยียวยาครอบคลุมสัญญาที่เคยให้ไว้กับผู้บริโภคตอนที่ขายกล่อง และแพคเกจทีวีบอกรับสมาชิกทั้งระบบจ่ายล่วงหน้าและจ่ายตามหลัง  เหมือนกรณีฟรีทีวีดิจิตอลเช่นไทยทีวี แม้ขาดทุนแต่ก็ยังต้องจ่ายหนี้ให้รัฐและทำแผนเยียวยาก่อนยุติบริการ ดังนั้น กรณีทีวีบอกรับสมาชิก ก็ควรต้องเยียวยาสิ่งที่เคยสัญญาไว้กับผู้บริโภคมากยิ่งกว่าฟรีทีวี ไม่ใช่นึกอยากจะขายสมาชิกก็ขาย อยากจะหยุดก็หยุด หวังว่าที่ประชุม กสท.จะมีมติที่ยืนอยู่ข้างผู้บริโภค คือให้ทาง CTH และ GMM B เสนอแผนเยียวยาใหม่ที่เป็นธรรม เพราะแผนเดิมถือว่าไม่เป็นผลแล้ว ก่อนที่ กสท. จะเห็นชอบให้ CTH ยุติบริการไปตามที่เอกชนสะดวกโดยไม่คุ้มครองผู้บริโภคเลย” สุภิญญากล่าว
 
ด้านอนุกรรมการด้านผังรายการและเนื้อหาได้ส่งเรื่องเข้า กสท. กลับมาพิจารณาอีกครั้งหลัง กสท. ยังไม่ลงมติตัดสินรอบที่แล้ว ทั้งนี้ สำนักงานได้ทำหนังสือสอบถามความเห็นเพิ่มเติมไปยังหัวหน้าคณะทำงานติดตามสื่อฯ ด้วย รอจับตาว่าผลการลงมติจะเป็นอย่างไร กรณีทั้งสองรายการออกอากาศรายการอันอาจมีเนื้อหาต้องห้าม ได้แก่ รายการเผชิญหน้า Face Time ได้มีการสัมภาษณ์นายสุลักษณ์ ศิวรักษ์ หัวข้อ “ดราม่า... “เนติวิทย์ เด็กเกรียนหรือหัวก้าวหน้า ไม่หมอบกราบ พิธีถวายสัตย์” ทางโทรทัศน์ช่องสปริงนิวส์ เมื่อวันพุธที่ 20 ก.ค. 2559 เวลา 20.13 – 20.53 น.  และ รายการ Tonight Thailand ทางช่องวอยซ์ทีวี ออกอากาศ วันที่ 25 พ.ค. 2559 
 
“หวังว่า กสท. จะลงมติอย่างให้ความเป็นธรรมกับทั้งสองช่องข่าวดิจิตอล และหวังว่าหลังจากการลงประชามติเรื่องรัฐธรรมนูญ สถานการณ์เรื่องสิทธิเสรีภาพสื่อในเรื่องข่าวสารการเมืองจะเปิดกว้างมากขึ้น และ กสทช. ควรให้ความสำคัญกับปัญหาการคุ้มครองผู้บริโภคให้มากขึ้น มากกว่าการควบคุมการแสดงออกของสื่อตามแนวทางของผู้มีอำนาจ เพราะการจำกัดเสรีภาพของข้อมูลข่าวสารที่รอบด้านเป็นการจำกัดเสรีภาพการรับรู้ของประชาชน” สุภิญญากล่าว
 
ติดตามความคืบหน้าวาระต่างๆ ในการประชุมวันที่ 8 ส.ค.นี้

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net