กสท.มีมติพักงาน 'ปลื้ม-ใบตองแห้ง' เหตุจัดรายการขัดประกาศ คสช.

กสท.มีมติให้พักการดำเนินรายการของ 2 พิธีกรช่องวอยซ์ทีวี คือ ม.ล.ณัฏฐกรณ์ เทวกุล และนายอธึกกิต แสวงสุข ตั้งแต่วันที่ 15 – 24 ส.ค. 2559 ตามที่วอยซ์ทีวีเสนอแทนการสั่งปรับ 5 หมื่น พักทั้งรายการ 7 วัน

15 ส.ค. 2559 ภักดี มะนะเวศ รองเลขาธิการ กสทช. สายงานกิจการกระจายเสียงและโทรทัศน์ กล่าวว่า ที่ประชุมคณะกรรมการกิจการกระจายเสียงและกิจการโทรทัศน์ (กสท.) วันที่ 15 ส.ค. 2559 มีมติให้พักการดำเนินรายการของ 2 พิธีกรช่องวอยซ์ ทีวี คือ ม.ล.ณัฏฐกรณ์ เทวกุล และนายอธึกกิต แสวงสุข ตั้งแต่วันที่ 15 – 24 ส.ค. 2559 ตามที่วอยซ์ ทีวี เสนอแนวทางการแก้ไขการออกอากาศรายการ Wake up News ต่อสำนักงาน กสทช. เนื่องจาก ม.ล.ณัฏฐกรณ์ ผู้ดำเนินรายการ Wake up News และรายการ Tonight Thailand รวมทั้งนายอธึกกิต ผู้ดำเนินรายการ Wake up News และคอลัมน์ Overview ในรายการ Voice News  ดำเนินรายการในลักษณะเป็นการต้องห้ามมิให้ออกอากาศ ตามประกาศ คสช. ฉบับที่ 97/2557 ประกอบกับประกาศ คสช. ฉบับที่ 103/2557 ลงวันที่ 21 ก.ค. 2557 และมาตรา 37 แห่ง พ.ร.บ.การประกอบกิจการกระจายเสียงและกิจการโทรทัศน์ พ.ศ. 2551

นอกจากนี้ที่ประชุม กสท. มีมติมอบหมายให้ สำนักงาน กสทช. ทำหนังสือขอความร่วมมือไปยังวอยซ์ ทีวี ให้ใช้ความระมัดระวัง และความละเอียดรอบคอบในการออกอากาศรายการในลักษณะที่เป็นการต้องห้ามตามกฎหมายอีกด้วย

สุภิญญา กลางณรงค์ กรรมการ กสทช. และ กรรมการ กสท. ทวีตว่า การประชุม กสท. วันนี้ (15 สิงหาคม 2559) องค์ประชุมเหลือ 4 คน เพราะ กสท. รายหนึ่งครบวาระการดำรงตำแหน่งตามอายุแล้ว โดยกรณีวอยซ์ทีวี วันนี้ทางอนุกรรมการด้านเนื้อหาฯ เสนอเรื่อง กสท.พิจารณา 2 วาระ ได้แก่ วาระแรกขอความร่วมมือ  วาระสองเสนอปรับ 5 หมื่นและพักรายการ WakeUp 7 วัน ทว่าเมื่อเช้านี้ตัวแทนช่องวอยซ์ทีวี ยื่นจดหมายถึง กสท.เสนอว่าจะขอพักจอผู้ดำเนินรายการ Wake up News 2 คน 10 วันแทนการถูกพักรายการ 7 วัน กสท.เสียงข้างมาก 3 คน จึงมีมติตามข้อเสนอช่องวอยซ์ทีวี ที่ให้พักผู้ดำเนินรายการ 2 คนแทนการปรับและพักรายการ 7 วัน ส่วนตนเองซึ่งเป็นเสียงข้างน้อยเห็นว่าไม่ผิดแต่แรก

"ส่วนดิฉันที่เป็นหนึ่งเสียงข้างน้อย ก็ยืนตามหลักการเดิม คือถ้าเนื้อหาผิดกฎหมายก็ว่าไปตามกระบวนการปกครองปรกติ แต่ถ้าไม่ผิดกฎหมายก็คือไม่ผิด ดิฉันจึงเห็นต่างจากอนุเนื้อหาที่ชงมาให้ลงโทษและเห็นต่างจากช่อง @Voice_TV ที่ยอมรับการลงโทษเอง แต่ก็เข้าใจทั้งสองฝ่ายในสถานการณ์ปัจจุบัน" สุภิญญา ระบุและว่า จริงๆ ว่าด้วยเรื่องรัฐธรรมนูญกับการลงประชามติ คนที่อำนาจตามกฎหมายคือ กกต. ซึ่งก็ยังไม่ได้ร้องเรียนเนื้อหาสื่อดังกล่าวมาที่ กสทช.

สุภิญญา ระบุด้วยว่า จากนี้ไปเสียงใน กสท.จะยิ่งอ่อนไหวมากขึ้น เพราะเหลือแค่ 4 คือต้องเอกฉันท์ หรือ 3:1 ถ้ามติ 2:2 จะเกิดปัญหาคือประธานจะตัดสินเป็นเสียงที่สาม

"วันนี้ กสท. ยังไม่ได้เปิดเทปดูร่วมกันเพื่อถกว่าผิด กม.ไหม (แต่อ่านจากวาระ) แต่ทางช่องวอยซ์ทีวี เสนอทางออกมาเอง กสท.ข้างมากจึงว่าไปตามนั้น" สุภิญญา กล่าวพร้อมชี้ว่า ถ้าเนื้อหาใดผิดกฎหมายคือ ขัดความมั่นคงของชาติ ปลุกระดม ขัดศีลธรรมอันดี ฯลฯ แต่ถ้าสื่อไม่เป็นกลางเป็นปัญหาจรรยาบรรณ สองเรื่องนี้แยกกันอยู่ อนุกรรมการด้านเนื้อหาฯ เสนอมาว่าให้ลงโทษเพราะผิดกฎหมาย (ไม่ใช่เรื่องจรรยาบรรณ) แต่วันนี้ กสท.กลับไม่ได้ปรับหรือพักช่อง แต่เห็นชอบให้พักคนแทน

"จริงๆ ดิฉันคิดว่าแนวทางของ กสท.วันนี้ ดูจะขัดกับมาตรฐานที่เคยทำไว้กับช่อง PeaceTV แต่ก็เข้าใจข้อจำกัดทุกฝ่าย ตั้งไว้เป็นประเด็นให้คิดแล้วกัน ฝากไว้ให้คิดว่า ถ้าแนวทางการกำกับ ลงโทษ ไม่มีมาตรฐานเดียวกันกับทุกราย หรือ ผสมปนเป ระหว่างผิดกฎหมาย และ ผิดจรรยาบรรณ จะยุ่งเหยิงยิ่งขึ้น" สุภิญญา ระบุ

วานนี้ ศิโรตม์ คล้ามไพบูลย์ หนึ่งในผู้ดำเนินรายการ Wake Up News เขียนเล่าถึงรายละเอียดรายการดังกล่าวผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัว ดังนี้

Wake Up News ไม่ได้ขัดความสงบหรือขัดขวางการทำงาน คสช. รอบนี้สองเรื่องที่เราโดนคือพูดเรื่องรัฐบาลในอนาคตจะถูกกรรมการยุทธศาสตร์คุมเข้ม และ กกต.ไม่ส่งรัฐธรรมนูญให้ประชาชนอย่างครบถ้วนครับ

พรุ่งนี้รายการ Wake Up News จะถูก กสท.พิจารณาว่าต้องพักออกอากาศ 1 สัปดาห์หรือไม่ เพื่อให้ทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องได้รับความเป็นธรรม รวมทั้งเพื่อให้รายการและช่องไม่ถูกมองในแง่เสียหายว่าไปทำอะไรละเมิดกฎหมาย ขอให้ข้อมูลดังนี้ครับ

คณะอนุกรรมการกำกับเนื้อหาของ กสทช.เชิญผู้แทน Voice TV ไปคุยในวันจันทร์ที่ 8 สิงหาคม ผมเป็น 1 ใน 5 ของผู้ไปชี้แจง หัวข้อที่คุยคือเนื้อหาในรายการวันที่ 21, 22 และ 29 กรกฎาคม และ 8 สิงหาคม โดยคณะอนุกรรมการวิจารณ์เนื้อหาแต่ละวันแตกต่างกัน และผมขอเล่าเฉพาะส่วนที่เกี่ยวข้องด้วยโดยตรงดังนี้ครับ

1. คณะอนุวิจารณ์ว่ารายการทำผิดที่พูดว่าคณะกรรมการยุทธศาสตร์ชาติจะมีอำนาจเหนือรัฐบาลเป็นเวลา 20 ปี รวมทั้งที่บอกว่ารัฐบาลจากการเลือกตั้งกำหนดนโยบายเองไม่ได้ ถ้าไม่ผ่านการพิจารณาของคณะกรรมการยุทธศาสตร์

ในส่วนนี้ ผมได้ตอบไปว่า ณ ปัจจุบันนี้ ข้อมูลที่เป็นลายลักษณ์อักษรเกี่ยวกับกรรมการยุทธศาสตร์มีสองส่วน ส่วนแรกคือร่่างรัฐธรรมนูญมาตรา 142 ที่กำหนดว่ารัฐบาลต้องเสนองบประมาณโดยสอดคล้องกับแผนยุทธศาสตร์ชาติ และมาตรา 162 รัฐบาลต้องเสนอนโยบายให้สอดคล้องกับแผนยุทธศาสตร์ชาติ และส่วนที่สองคือร่าง พ.ร.บ.ยุทธศาสตร์ชาติของสภาปฏิรูป ซึ่งบัญญัติให้คณะกรรมการยุทธศาสตร์มาจากข้าราชการแทบทั้งหมด มีตัวแทนประชาชนจากสภาชุมชนเพียง 2 คน โดยข้าราชการที่ว่านั้นให้น้ำหนักไปที่ทหาร เลขาสภาความมั่นคง เลขากฤษฎีกา ฯลฯ
ในเมื่อรัฐธรรมนูญและกฎหมายที่ยกร่างระบุว่ารัฐบาลต้องเสนอนโยบายและงบประมาณภายใต้แผนที่กำหนดโดยคณะกรรมการดังกล่าว จะบอกว่ารัฐบาลเสนอนโยบายเองได้ก็คงผิดจากที่เขียนไว้ในรัฐธรรมนูญครับ

2. คณะอนุกรรมการท่านหนึ่งแย้งว่าคำสัมภาษณ์ของคุณมีชัยในไทยรัฐทีวีวันประกาศผลประชามติบอกว่าไม่มีแนวคิดแบบนี้ รายการจึงมีความผิด พูดแบบนี้ไม่ได้ เพราะพูดไม่ตรงกับสิ่งที่คุณมีชัยให้สัมภาษณ์ทางทีวี

ในประเด็นนี้ ผมได้ตอบไปว่าไม่มีใครรู้ว่าถึงตอนร่างกฎหมายนี้จริงๆ คุณมีชัยจะพูดและเขียนอย่างไร รวมทั้งกรรมการคนอื่นอาจเสนอไม่เหมือนกับที่คุณมีชัยพูดก็ได้ แต่ถ้ายึดเอกสารที่ปรากฏเป็นลายลักษณ์อักษร ร่างของสภาขับเคลื่อนเขียนไว้แบบนั้นจริงครับ ดังปรากฏใน https://ilaw.or.th/sites/default/files/d021659-01.pdf

3.คณะอนุกรรมการวิจารณ์ว่ารายการทำไม่ถูกที่ระบุว่าการที่ประชาชนไม่ได้รับร่างรัฐธรรมนูญอย่างครบถ้วนนั้นเป็นความจงใจ
ในส่วนนี้ ผมได้ชี้แจงคณะอนุกรรมการไปว่าการที่ กกต.ไม่ส่งร่างรัฐธรรมนูญให้ประชาชนครบถ้วนเป็นการแก้มาตรา 9 ในร่างกฎหมายประชามติส่วนที่ระบุว่าให้จัดพิมพ์ร่างรัฐธรรมนูญและเผยแพร่กระบวนการออกเสียงให้ประชาชนรับทราบอย่างทั่วถึง โดยฝ่ายที่เสนอให้ตัดข้อความนี้ระบุเหตุผลไว้ชัดเจนว่าป้องกันการฟ้องร้องกรณีส่งรัฐธรรมนูญให้ประชาชนทั่วถึงไม่ได้ครับ

อนึ่ง คณะอนุกรรมการได้พาดพิงถึงการแสดงความเห็นต่อการใช้มาตรา 44 แก้ปัญหารถไฟฟ้าสายสีม่วงและคำสัมภาษณ์ของ อ.สุขุม นวลสกุลด้วย รวมทั้งท่าทีหลังผลประชามติด้วย แต่เนื่องจากเป็นเรื่องต้องพาดพิงถึงบุคคลอื่น จึงขอไม่กล่าวถึงในที่นี้ครับ

พรุ่งนี้ กสท.จะพิจารณาลงโทษ Wake Up News บนฐานความผิดซึ่งฟังคล้ายรายการก่อความไม่สงบหรือเป็นภัยต่อการทำงานของคสช. และเพื่อไม่ให้รายการถูกผู้เกี่ยวข้องประเมินอย่างผิดๆ จึงขอให้ข้อมูลอย่างย่อๆ ตามที่ปรากฎข้างต้นครับ เดี๋ยวจะเข้าใจผิดว่ารายการมีเนื้อหาปลุกระดมหรือทำลายความสงบในสังคม
http://news.voicetv.co.th/business/400386.html

 

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไทอัพเดท ได้ที่:
Facebook : https://www.facebook.com/prachatai
Twitter : https://twitter.com/prachatai
YouTube : https://www.youtube.com/prachatai
Prachatai Store Shop : https://prachataistore.net
ข่าวรอบวัน
สนับสนุนประชาไท 1,000 บาท รับร่มตาใส + เสื้อโปโล

ประชาไท