Skip to main content
sharethis
สหภาพแรงงานธนาคารกรุงเทพเจรจานัด 2 ระบุจากการแข่งขันในธุรกิจการเงินการธนาคารสูงขึ้นเรื่อย ๆ เพื่อช่วงชิงความเป็นหนึ่งธนาคารจึงมีความจำเป็นต้องเพิ่มปริมาณงานทั้งความเสี่ยงจากงานประจำและงานขายผลิตภัณฑ์ต่าง ๆ อีกมากมาย สหภาพฯ จึงขอให้ทางธนาคารพิจารณาช่วยเหลือและแบ่งเบาภาระความเสี่ยงต่าง ๆ รวมผลประโยชน์อื่น ๆ ที่พนักงานควรจะได้รับบ้าง
 
6 ก.ย. 2559 สหภาพแรงงานธนาคารกรุงเทพ ได้แจ้งผลการเจรจาข้อเรียกร้องเปลี่ยนแปลงสภาพการจ้างประจำปี 2559 ครั้งที่ 2 โดยได้ทำการเจรจากับตัวแทนของธนาคารกรุงเทพไปเมื่อวันที่ 31 ส.ค. 2559 โดยระบุว่าหัวหน้าผู้แทนฝ่ายเจรจาธนาคารได้ถามถึงข้อเรียกร้องต่าง ๆ ที่สหภาพแรงงานได้ยื่นมาทั้งหมด 12 ข้อ โดยขอให้ทางคณะกรรมการสหภาพฯ อธิบายถึงเจตนารมย์ของการยื่นข้อเรียกร้องในแต่ละข้อเพื่อให้ทางคณะผู้แทนของธนาคารได้ทราบถึงจุดมุ่งหมายที่แท้จริง เพื่อให้การเจรจาในครั้งต่อ ๆ ไป ได้เจรจาพูดคุยกระชับตรงประเด็นขึ้น
 
หัวหน้าคณะกรรมการสหภาพฯ ได้ชี้แจงเพิ่มเติมว่าข้อเรียกร้องในปีนี้ทางสหภาพฯ ได้พิจารณาถึงเหตุผลและความจำเป็นที่มีผลกระทบโดยตรงกับพนักงานที่เดือดร้อนจริง ซึ่งข้อเรียกร้องแต่ละข้อที่นำเสนอแก่ธนาคารในปีนี้ก็ไม่เกินกว่าที่ธนาคารจะสามารถแบ่งปันให้กับทางพนักงานได้ เพราะเงินช่วยเหลือในบางข้อธนาคารได้จ่ายให้กับพนักงานมาเป็นเวลาเนิ่นนานแล้ว แต่ยังไม่ได้มีการปรับเปลี่ยนเพิ่มขึ้นให้สอดคล้องกับสภาวะเป็นจริงในปัจจุบัน
 
สหภาพแรงงานธนาคารกรุงเทพระบุต่อไปว่าปัจจุบันธนาคารได้มีระบบงานบริการแบบใหม่ที่มีความเสี่ยงเพิ่มขึ้น เนื่องจากการแข่งขันระบบการเงินการธนาคารมีปริมาณสูงขึ้นเรื่อย ๆ เพื่อช่วงชิงความเป็นหนึ่ง ดังนั้นธนาคารจึงมีความจำเป็นต้องเพิ่มปริมาณงานทั้งความเสี่ยงจากงานประจำและงานขายผลิตภัณฑ์ต่าง ๆ อีกมากมาย สหภาพฯ จึงขอให้ทางธนาคารพิจารณาช่วยเหลือและแบ่งเบาภาระความเสี่ยงต่าง ๆ รวมผลประโยชน์อื่น ๆ ที่พนักงานควรจะได้รับบ้าง เพื่อให้เกิดความเหมาะสมอย่างเป็นธรรมให้สมกับการเป็นธนาคารพาณิชย์ที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทยและเป็นผู้นำในตลาดลูกค้าธุรกิจขนาดใหญ่และเอสเอ็มอี อีกทั้งมีฐานลูกค้าที่กว้างขวางที่สุดในตลาดลูกค้าบุคคล
 
นอกจากนี้หัวหน้าคณะกรรมการสหภาพฯ ได้สอบถามผลคืบหน้าที่ทางหัวหน้าคณะผู้แทนธนาคารฯ ได้รับไว้เมื่อครั้งที่มีการเจรจาครั้งแรก เช่น เรื่องเงินกู้ฉุกเฉิน 50,000 บาท ในกรณีที่พนักงานประสงค์จะกู้เพื่อใช้เงินอย่างเร่งด่วนในการนำไปใช้กับเรื่องเดือดร้อนต่าง ๆ แม้จะจ่ายดอกเบี้ยสูงกว่าเงินกู้ประเภทอื่น ๆ ซึ่งทางหัวหน้าคณะผู้แทนธนาคารให้ความเห็นว่าน่าจะต้องทำความเข้าใจกับเจ้าหน้าที่ฝ่ายปฏิบัติอีกครั้ง พร้อมทั้งขอกรณีตัวอย่างของพนักงานที่มีการส่งเรื่องการกู้เงินฉุกเฉิน เพื่อนำไปพิจารณาหาสาเหตุของปัญหาเพื่อการแก้ไขในทางปฏิบัติต่อไป
 
เรื่องการกู้บ้านหลังที่ 2 ยังมีพนักงานบางส่วนที่ได้รับเงินกู้บ้านหลังที่ 2 ก่อนที่จะมีข้อตกลงร่วม ทำให้พนักงานกลุ่มนี้สูญเสียโอกาสในการได้รับอัตราดอกเบี้ยสวัสดิการที่ลดลง ซึ่งเรื่องนี้หัวหน้าคณะผู้แทนธนาคารรับที่ช่วยเหลือเพื่อจะนำมาพิจารณาเป็นราย ๆ ไป
 
อีกประเด็นหนึ่งที่หัวหน้าคณะกรรมการสหภาพฯ ได้ท้วงติงเรื่องที่ธนาคารได้ออกคำสั่งเรื่องวงเงินความรับผิดชอบของเจ้าหน้าที่อำนวยบริการ โดยปรับเพิ่มวงเงินอนุมัติการทำรายการถอนเงินในบัญชีเงินฝากของเจ้าหน้าที่อำนวยบริการ (CSO) ระดับ 7-10 มีผลตั้งแต่วันที่ 12 ม.ค. 2559 นั้น เป็นการออกคำสั่งที่ทำให้พนักงานต้องมีความเสี่ยงเพิ่มขึ้น แต่ทำไมธนาคารไม่มีผลตอบแทนให้แก่พนักงานเพิ่มขึ้นบ้าง ซึ่งทางสหภาพฯ เข้าใจดีว่าธนาคารได้มีการปรับเปลี่ยนเพื่อให้การทำงานบริการลูกค้าได้รวดเร็วขึ้นให้สอดคล้องกับสถานการณ์ปัจจุบัน โดยหัวหน้าคณะผู้แทนธนาคารรับที่จะนำไปร่วมหารือกับผู้บริหารระดับสูงของะนาคารต่อไป

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net