Skip to main content
sharethis

เครือข่ายสลัม 4 ภาคขอให้ กทม. ปฏิบัติตามข้อตกลงคือรื้อถอนบ้านเพียง 12 หลัง เน้นย้ำ "เมืองจะเจริญไม่ได้ ถ้าปราศจากคนจน" ภาคีเครือข่ายเชียงใหม่ร้องให้ กทม.หยุดไล่รื้อชุมชน ซึ่งเป็นชนวนเหตุแห่งความขัดแย้ง และควรรีบแต่งตั้งคณกรรมการพหุภาคีขึ้นมาจัดการปัญหา

8 ส.ค.2559 เครือข่ายสลัม 4 ภาค และภาคีเครือข่ายเชียงใหม่ ออกแถลงการณ์เรื่องการไล่รื้อชุมชนป้อมมหากาฬ โดยเรียกร้องให้ กรุงเทพมหานครควรปฏิบัติตามข้อตกลงที่ได้มีการเจรจาเมื่อ 3 ก.ย.ที่ผ่านมา และขอให้หยุดรื้อทำลายทรัพย์สินของชุมชนป้อมมหากาฬ พร้อมทั้งเร่งตั้งคณะกรรมการพหุภาคีเพื่อพัฒนาชุมชนป้อมมหากาฬเป็นสวนสาธารณะที่ดูแลรักษาร่วมกันระหว่างรัฐและประชาชน

ในเนื้อหาแถลงการณ์เครือข่ายสลัม 4 ภาค สรุปดังนี้ แถลงการณ์ “หยุด !! ไล่รื้อ ชุมชนป้อมมหากาฬ เมืองจะเจริญไม่ได้ ถ้าปราศจากคนจน” ผลักดันกรุงเทพมหานครปฏิบัติตามข้อสรุปที่ได้มีการเจรจาเมื่อวันที่ 3 ก.ย. 2559 คือ 1.การเข้ารื้อบ้านเรือนจะกระทำเพียง 12 หลัง ที่ผู้อยู่อาศัยยินเยอมให้รื้อเท่านั้น 2.จะตั้งคณะกรรมการพหุภาคี เพื่อหาทางออกระยะยาวร่วมกัน 3.บ้านโบราณกลางชุมชนทางกรุงเทพหมานครจะไม่ทำการรื้อทำลาย และจะให้ทางชุมชนเป็นผู้ดูแลรักษาต่อไปในอนาคต 4.หากการรื้อทำลายบ้านเรือนทั้งหมดตามที่ตกลงกันแล้วจะไม่มีการรื้อทำลาย บ้านเรือนชุมชนอีกต่อไป  และจะวางแนวการพัฒนาพื้นที่ร่วมกันในคณะกรรมการพหุภาคี

อีกทั้งเรียกร้องให้ หยุดการรื้อทำลายทรัพย์สินของชุมชนป้อมมหากาฬ พร้อมทั้งเร่งตั้งคณะกรรมการพหุภาคีขึ้นมา  เพื่อพัฒนาชุมชนป้อมมหากาฬเป็นสวนสาธารณะที่ดูแลรักษาร่วมกันระหว่างรัฐและ ประชาชน

ภาพ ป้ายเรียกจากเครือข่ายต่างๆที่ร้องขอให้นายกรัฐมนตรีสนับสนุนให้ชาวชุมชนป้อมมหากาฬอยู่ต่อได้

ส่วนแถลงการณ์ของภาคีเครือข่ายเชียงใหม่  มีเนื้อหาสรุปว่า ขอให้กรุงเทพมหานคร หยุดการกระทำคุกคาม ไล่รื้อชุมชน ซึ่งเป็นชนวนเหตุแห่งความขัดแย้ง และให้เข้าสู่กระบวนการมีส่วนร่วมในการพัฒนา ปรับปรุงชุมชนทุกขั้นตอน โดยยึดแนวทางนักวิชาการที่มีแนวทางการสร้างพิพิธภัณฑ์มีชีวิต เป็นสถานทีพักผ่อน เรียนรู้ประวัติศาสตร์และวัฒนธรรม ทำให้เป็นแหล่งท่องเที่ยวชุมชนอย่างยั่งยืน โดยเสนอให้ กทม. จัดการดังนี้
 1. ยุติการไล่รื้อชุมชนป้อมมหากาฬ เนื่องจากกระบวนการไล่รื้อดังกล่าว ขัดต่อหลักการสิทธิชุมชนและสิทธิมนุษยชนอย่างร้ายแรง และกระบวนการพัฒนาที่ขาดการมีส่วนร่วม ไม่ฟังเสียงของประชาชนจะนำมาซึ่งปัญหา และสร้างผลกระทบต่อชีวิต วัฒนธรรมของชุมชน
 2. เสนอให้กรุงเทพมหานครรับฟัง และนำข้อเสนอ ของชุมชน นักวิชาการ และประชาสังคม ที่เสนอการอนุรักษ์ฟื้นฟูเมือง โดยมีกิจกรรม รูปแบบสวนสาธารณะ และโบราณสถาน โดยมีองค์ประกอบของบ้านไม้โบราณมีชีวิต ให้เป็นสถานที่พักผ่อน และเปลี่ยนเรียนรู้ประวัติศาสตร์รอบเกาะรัตนโกสินทร์ โดยให้ชุมชนทำหน้าที่ดูแลรักษาพื้นที่ มาปฏิบัติเพื่อก่อให้เกิดการพัฒนาที่ยั่งยืน ซึ่งจะเป็นประโยชน์มากกว่าการไล่รื้อชุมชนออกไปเพื่อสร้างสวนสาธารณะที่ขาด ชีวิตและจิตวิญญาณ

รายชื่อภาคีเครือข่ายเชียงใหม่จัดการตนเอง
  1. คณะกรรมการประสานงานองค์กรพัฒนาเอกชน ภาคเหนือ (กป.อพช. ภน)
  2. มูลนิธิพัฒนาภาคเหนือ
  3. มูลนิธิพัฒนาเครือข่ายเอดส์ สำนักงานภาคเหนือ
  4. สถาบันการจัดการทางสังคม
  5. เครือข่ายเชียงใหม่ เขียว สวย หอม
  6. เครือข่ายองค์กรชุมชนเมืองเชียงใหม่
  7. สถาบันส่งเสริมการเรียนรู้เพื่อการพัฒนาที่ยั่งยืน
  8. เครือข่ายบ้านชุ่มเมืองเย็น
  9. เครือข่ายเมืองเจริญใจ
 10. เครือข่ายสุขภาพผู้หญิง
 11. เครือข่ายชุมชนรักษ์เมืองเชียงใหม่

 

หยุด !! ไล่รื้อ ชุมชนป้อมมหากาฬ
เมืองจะเจริญไม่ได้  ถ้าปราศจากคนจน

จากสถานการณ์ที่กรุงเทพมหานครจะดำเนิน การรื้อทำลายบ้านเรือนชุมชนป้อมมหากาฬ เขตพระนคร เมื่อวันที่ 3 กันยายน 2559 ที่ผ่านมา และได้มีการเจรจาหารือกันหลังจากที่มีการรื้อทำลายทรัพย์สินชุมชนบางส่วน โดยมีรองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร คณะกรรมการสิทธิมนุษยชน และผู้แทนชุมชน เข้าร่วมพูดคุยเพื่อหาทางออกร่วมกัน ซึ่งได้ข้อสรุปดังนี้

1. การเข้ารื้อบ้านเรือนจะกระทำเพียง 12 หลัง ที่ผู้อยู่อาศัยยินเยอมให้รื้อเท่านั้น
2. จะตั้งคณะกรรมการพหุภาคี เพื่อหาทางออกระยะยาวร่วมกัน
3. บ้านโบราณกลางชุมชนทางกรุงเทพหมานครจะไม่ทำการรื้อทำลาย และจะให้ทางชุมชนเป็นผู้ดูแลรักษาต่อไปในอนาคต
4. หากการรื้อทำลายบ้านเรือนทั้งหมดตามที่ตกลงกันแล้วจะไม่มีการรื้อทำลายบ้าน เรือนชุมชนอีกต่อไป  และจะวางแนวการพัฒนาพื้นที่ร่วมกันในคณะกรรมการพหุภาคี

หลังจากการเจรจาชาวชุมชนป้อมมหากาฬ ได้อำนวยความสะดวกในการเข้ารื้อถอนบ้านทั้งหมดที่มีการตกลงร่วมกัน แต่ภาพข่าว และกระแสข่าว ที่ออกมาจากทางกรุงเทพมหานคร  ไม่ได้เป็นดั่งที่ได้มีการพูดคุยเจรจา ไม่มีความชัดเจนว่าจะหยุดการดำเนินการเพียง 12 หลังที่ยินยอม กลับวางเป้าหมายที่จะรื้อทำลายทั้งชุมชนให้แล้วเสร็จภายในปีนี้ ซึ่งถือเป็นการผิดคำพูดที่ได้ให้ไว้ต่อสาธารณะ และชาวชุมชน เป็นการหลอกประชาชนเพื่อรุกคืบการทำลายชุมชน

เครือข่ายสลัม 4 ภาค ซึ่งเป็นองค์กรภาคประชาชนที่เคลื่อนไหวด้านสิทธิที่อยู่อาศัยเห็นว่าการ พัฒนาเมืองโดนการทำลายชุมชนโบราณ แล้วนำมาทำเป็นสวนหย่อมเป็นการกระทำที่ไม่สอดคล้องกับการพัฒนาในสังคมโลก ปัจจุบัน    ทั้งที่ทางชุมชนก็สามารถพัฒนาทำให้เป็นอย่างที่กรุงเทพมหานครต้องการทำได้ โดยไม่ต้องรื้อทำลายชุมชนโบราณเก่าแก่  ซึ่งจะขัดต่อนโยบายรัฐบาล ในการแก้ปัญหาคนจน และลดความขัดแย้ง  , ขัดต่อข้อเสนอของนักวิชาการและสังคมที่เสนอแนวทางการแก้ปัญหาคนจนอย่างมี ส่วนร่วมด้วยการพัฒนาที่ยั่งยืน  และยังขัดต่อหลักการสิทธิชุมชนและสิทธิมนุษยชนอย่างร้ายแรง

ดังนั้นจากเหตุผลข้างต้น เครือข่ายสลัม 4 ภาค เห็นว่า กรุงเทพมหานครควรจะปฏิบัติตามที่ได้มีการเจรจาไว้เมื่อวันที่ 3 กันยายน 2559 ที่ได้สรุปไว้ข้างต้น และหยุดการรื้อทำลายทรัพย์สินของชุมชนป้อมมหากาฬ พร้อมทั้งเร่งตั้งคณะกรรมการพหุภาคีขึ้นมา เพื่อพัฒนาชุมชนป้อมมหากาฬเป็นสวนสาธารณะที่ดูแลรักษาร่วมกันระหว่างรัฐและ ประชาชน  

ด้วยจิตคารวะ
เครือข่ายสลัม 4 ภาค
7 กันยายน 2559



 

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net