Skip to main content
sharethis

22 ก.ย. 2559 เมื่อวันที่ 20 ก.ย.ที่ผ่านมา สุภาพ คำแหล้ ชาวบ้านชุมชนโคกยาว ต.ทุ่งลุยลาย อ.คอนสาร จ.ชัยถูมิ พร้อมด้วยทนายความจากศูนย์ศึกษาและพัฒนานักกฎหมายเพื่อสิทธิมนุษยชน เดินทางมายังศาลจังหวัดภูเขียว อ.ภูเขียว จ.ชัยภูมิ เพื่อมาฟังคำพิพากษาของศาลฎีกา ในคดีที่พนักงานอัยการจังหวัดภูเขียวโจทก์ ยื่นฟ้องนายเด่น คำแหล้ กับพวกรวม 5 คน กระทำความผิดตาม พ.ร.บ.ป่าไม้ และ พ.ร.บ.ป่าสงวนแห่งชาติ

ทั้งนี้ ทนายความจำเลยที่ 1 (นายเด่น คำแหล้) และจำเลยที่ 4 (นางสุภาพ คำแหล้) ได้ยื่นคำร้องความว่า จำเลยที่ 4 อยู่ระหว่างการเข้ารักษาตัวจากอาการป่วยด้วยโรคเนื้องอกในมดลูก ที่โรงพยาบาลศรีนครินทร์จังหวัดขอนแก่น โดยแพทย์นัดตรวจรักษาโรคอีกครั้งในวันที่ 26 กันยายน 2559 จึงขอเลื่อนการอ่านคำพิพากษาศาลฎีกาออกไปสักนัดหนึ่ง

ในขณะเดียวกัน ผู้รับมอบอำนาจจากนายประกัน (กองทุนยุติธรรม) ของจำเลยที่ 1 และที่ 4 ยื่นคำร้องความว่า จำเลยที่ 1 ไม่ได้มาศาล เนื่องจากหายตัวไปตั้งแต่วันที่ 16 เมษายน 2559  ซึ่งมีการแจ้งความต่อเจ้าพนักงานตำรวจเพื่อติดตามตัวจำเลยที่ 1 แล้ว แต่ยังไม่พบตัว โดยเจ้าพนักงานตำรวจได้แจ้งผลการสืบสวนและสอบสวนการติดตามตัวของจำเลยที่ 1 ได้ใจความว่ายังไม่พบตัวจำเลยที่ 1

ศาลพิเคราะห์แล้วเห็นว่า ให้เลื่อนการอ่านคำพิพากษาออกไป ส่วนจำเลยที่ 1 ให้นัดไต่สวนการหายตัวไป ในวันเวลาเดียวกันพร้อมกับจำเลยที่ 4  ในวันที่ 4 พฤศจิกายน 2559 เวลา 9.00 น.

คดีนี้สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 1 กรกฎาคม 2554 เจ้าหน้าที่ป่าไม้ ตำรวจ และฝ่ายปกครอง สนธิกำลังกันบุกเข้าควบคุมตัวชาวบ้านรวม 10 คน และแจ้งข้อหาบุกรุกป่าสงวนแห่งชาติภูซำผักหนาม มีการแยกสำนวนฟ้อง ออกเป็น 4 คดี 10 ราย ดังนี้ คดีที่ 1 นายคำบาง กองทุย และนางสำเนียง กองทุย คดีที่ 2 นายทอง กุลหงส์ และนายสมปอง กุลหงส์  คดีที่ 3 นายสนาม จุลละนันท์ และคดีที่ 4 นายเด่น คำแหล้ นางสุภาพ คำแหล้ นายบุญมี วิยาโรจน์  นางหนูพิศ วิยาโรจน์ และนางเตี้ย ย่ำสันเทียะ

ในส่วนคดีที่ 4 คือนายเด่น คำแหล้ และพวกรวม 5 คน  ศาลจังหวัดภูเขียวนัดอ่านฟังคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ภาค 3  เมื่อวันที่ 25 เมษายน 2556  โดยยืนตามศาลชั้นต้น ให้จำเลยที่ 1 และจำเลยที่ 4 คือนายเด่น และนางสุภาพ จำคุกเป็นเวลา 6 เดือน โดยไม่รอลงอาญา และไม่ให้ประกันตัว เพราะเกรงว่าจะหลบหนี ส่วนอีก 3 ราย ศาลยกฟ้อง โดยจำเลยที่ 1 และที่ 4 ศาลอุทธรณ์ได้พิพากษายืนตามศาลชั้นต้น จำคุก 6 เดือน และศาลไม่อนุญาตฎีกา จำเลยทั้งสองต้องถูกคุมขัง

ต่อมาในวันที่ 9 พฤษภาคม 2556 ทางสมาชิก คปอ. และพีมูฟ ได้ชุมนุมที่กรุงเทพมหานคร เพื่อติดตามการแก้ไขปัญหาจากหน่วยงานภาครัฐ และได้ร่วมกันเดินรณรงค์ไปยังศาลฎีกา พร้อมกับยื่นหนังสือขอให้ศาลฎีกาปล่อยตัวจำเลยชั่วคราว ประกอบกับช่วงดังกล่าวทนายความได้ยื่นอุทธรณ์คำสั่งศาล ซึ่งศาลอนุญาตในเวลาต่อมา และสามารถประกันตัวผู้ต้องหาได้ในที่สุด ผลการยื่นประกันขอให้ปล่อยตัวจำเลยที่ 1 และที่ 4 ชั่วคราวในระหว่างฎีกา ปรากฏว่าศาลอนุมัติให้ประกันตัวจำเลยทั้ง 2 โดยได้เพิ่มหลักทรัพย์จากรายละ 200,0000 บาท เป็นรายละ 300,000 บาท

ทั้งนี้ นายเด่น คำแหล้ เป็นประธานโฉนดชุมชนโคกยาว ต.ทุ่งลุยลาย อ.คอนสาร จ.ชัยภูมิ และเป็นแกนนำนักต่อสู้สิทธิที่ดินทำกิน ได้หายตัวไปในวันที่ 16 เมษายน 2559 ภายหลังจากเข้าไปหาหน่อไม้ในบริเวณสวนป่าโคกยาว รอยต่อระหว่างเขตป่าสงวนแห่งชาติภูซำผักหนามและเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าภูเขียว หายไปนับจากวันดังกล่าวถึงวันนี้ เป็นเวลากว่า 5 เดือนแล้ว

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net