กวาดจับนักศึกษารามฯ กว่า 40 คนจาก 3 จังหวัดใต้ หลังมีข่าวจับตาระเบิด กทม. ปล่อยแล้วบางส่วน

กลุ่มนักศึกษาชายแดนใต้ ระบุถูกกวาดจับ 40 กว่าคน เกือบทั้งหมดเป็นนักศึกษาม.รามคำแหง บางส่วนได้รับการปล่อยตัวแล้ว บางส่วนถูกปรับข้อหามียาเสพติดในครอบครอง (กระท่อม) นักศึกษาระบุ เจ้าหน้าที่เป็นร้อยจู่โจม เอาปืนจ่อหัว ขว้างระเบิดควัน ด้าน PerMAS ออกแถลงการณ์เรียกร้องให้ปล่อยผู้ถูกจับกุมและเคารพศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์

13 ต.ค.2559 นายสุลหาน บีดิง กลุ่มนักศึกษาจังหวัดชายแดนภาคใต้ มหาวิทยาลัยรามคำแหง (P.N.Y.S) ให้ข้อมูลว่า ตั้งแต่วันที่ 10-12 ต.ค. 2559 ได้มีการบุกเข้าจับกลุ่มนักศึกษาและนักกิจกรรม ในกลุ่มจังหวัดภาคแดนภาคใต้โดยเจ้าหน้าที่ทหารและตำรวจ ไปแล้วทั้งสิ้น 44 คน เป็นหญิง 8 คน เป็นชาย 36 คน โดยการจับกุมคุมตัวในวันที่ 10 ต.ค. เกิดขึ้นที่ห้องพักในซอยรามคำแหง 53/1 และ ซอย 53 จำนวน 9 คน การจับกุมวันที่ 11 ต.ค. เกิดขึ้นที่ ห้องพักในซอยรามคำแหง 61 จำนวน 25 คน และวันที่ 12 ต.ค. มีการจับกุมที่ห้องพักในซอยรามคำแหง 79 และ 81 จำนวน 10 คน รวมทั้งสิ้น 44 คน โดยเจ้าหน้าที่อ้างว่าเป็นการเข้าจับกุมเนื่องจากมีเหตุต้องสงสัยว่า ผู้ถูกจับกุมอาจมีส่วนเกี่ยวข้องกับการเตรียมการก่อวินาศกรรมคาร์บอมบ์ เนื่องในโอกาสครบรอบ 12 ปี การสลายการชุมนุมตากใบ

ประธาน P.N.Y.S. ระบุด้วยว่า จากจำนวน 44 คน ที่ถูกจับกุมตัว มีผู้ได้รับการปล่อยตัวแล้ว 11 คน ยังคงเหลือนักศึกษาและนักกิจกรรมอีก 33 คนที่ยังคงถูกควบคุมตัว จากการสอบถามผู้ที่ถูกปล่อยพบว่า สาเหตุที่ได้รับการปล่อยเนื่องจากไม่สามารถหาความเชื่อมโยงข่าวการก่อวินาศกรรมกับกลุ่มนักศึกษาจังหวัดชายแดนภาคใต้ได้ การสอบสวนของเจ้าหน้าที่ตำรวจมีลักษณะของการพยายามหาความเชื่อมโยงผู้ถูกจับกุมทั้งหมดว่ามีส่วนเกี่ยวใดๆ กับกลุ่มนักศึกษานักกิจกรรมจังหวัดชายแดนภาคใต้ เช่นการถามว่าเคยร่วมกิจกรรมกับกลุ่มเช่น PerMAS หรือ P.N.Y.S บ้างหรือไม่ และมีการเข้าร่วมในระดับไหน

“รู้สึกว่าการเข้าจับกุมของเจ้าหน้าที่ตำรวจไม่เคารพศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์เลย ทั้งเรื่องของการใช้คำหยาบคาย การข่มขู่โดยการเอาปืนจ่อหัวเพื่อให้หมอบลงกับพื้น รวมทั้งการปาระเบิดควันเข้าไปในห้องก่อนเข้าจับกุม มีหลายคนที่ได้รับบาดแผลจากการจับกุม และทรัพย์สินในห้องเองก็เสียหาย” สุลหานกล่าว

สำหรับการเข้าถึงข้อมูลของผู้ถูกจับกุมทั้งหมด ประธาน P.N.Y.S. ระบุว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจ สน. หัวหมาก ยังไม่เปิดเผยข้อมูลว่ามีใครถูกจับกุมบ้าง และอนุญาตให้เพียงญาติของผู้ถูกจับกุมเข้าเยี่ยมเท่านั้น ขณะเดียวกันทราบว่าวันนี้มีการย้ายตัวผู้ถูกจับกุมบางส่วน แต่เจ้าหน้าที่ตำรวจยังคงยืนยันไม่เปิดเผยว่าจะมีย้ายใคร และย้ายไปสถานที่ใดบ้าง

ผู้สื่อข่าวรายงานจากศาลอาญารัชดาว่า มีการควบคุมตัวนักศึกษามหาวิทยาลัยรามคำแหง 4 รายและประชาชน 1 รายมาจากสน.หัวหมาก ทั้งหมดมาจาก 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ โดยถูกจับกุมตัวตั้งแต่วันที่ 10 ต.ค.จากซอยรามคำแหง 61 ทั้งหมดถูกควบคุมตัวที่สน.หัวหมาก ท้ายที่สุดถูกแจ้งข้อหาครอบครองยาเสพติดประเภท 5 (ใบกระท่อม) เมื่อถูกนำตัวมาศาลมีการจ่ายค่าปรับคนละ 1,000 บาท

นักศึกษากลุ่มดังกล่าวให้สัมภาษณ์ว่า พวกเขาถูกจับกุมในเวลาประมาณ 6.00 น.จากห้องพัก โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจราว 100 นายซึ่งมีทหารร่วมด้วยได้บุกเข้ามาจับกุม มีการเคาะประตู เมื่อมีคนเปิดประตู เจ้าหน้าที่สั่งให้ทุกคนหมอบลงกับพื้นและมีการขว้างระเบิดควันเข้ามาในห้อง มีการนำอาวุธปืนจ่อที่ศีรษะผู้ต้องสงสัยก่อนจะควบคุมตัวไป สน.หัวหมาก นักศึกษาที่ถูกจับกุมทั้ง 4 คนมาจากจังหวัดชายแดนภาคใต้ศึกษาอยู่มหาวิทยาลัยรามคำแหงในคณะมนุษยศาสตร์ ศึกษาศาสตร์ รัฐศาสตร์ และบริหารธุรกิจ ส่วนใหญ่ทำงานและเรียนไปด้วย เช่น เป็นพนักงานบริษัท เป็น รปภ. พวกเขาเป็นสมาชิกในกลุ่ม P.N.Y.S. ด้วยโดยพวกเขาระบุว่า องค์กรนี้เป็นองค์กรนักศึกษาที่จะทำหน้าที่ช่วยเหลือนักศึกษาที่มาจากสามจังหวัด นักศึกษาที่จากบ้านมาเรียนในกรุงเทพฯ มักจะเป็นสมาชิกเพื่อดูแลให้ความช่วยเหลือกัน เช่น หากใครเจ็บป่วยต้องนอนโรงพยาบาลและไม่มีญาติก็สามารถติดต่อเพื่อช่วยเหลือดูแลกันได้

“เราไม่สามารถเปิดเผยชื่อได้ ไม่อย่างนั้นการศึกษาของเราจบเลย ครอบครัวรู้เรื่องคงให้กลับบ้านแน่นอน พวกเขาไม่ค่อยเข้าใจสถานการณ์หากรู้ว่าถูกจับกุมหรือจับจ้องโดยเจ้าหน้าที่คงกลัวมาก เราหนีร้อนมาพึ่งเย็น แต่ก็มาเป็นแบบนี้ กังวลมากว่าจะโดนบุกตรวจค้นอยู่เรื่อยๆ เพราะเจ้าหน้าที่หวาดระแวงกลุ่มที่มาจากสามจังหวัดทั้งหมด” นักศึกษาที่ถูกจับกุมคนหนึ่งกล่าว

นักศึกษากลุ่มดังกล่าว กล่าวว่า พวกเขาถูกสอบสวนโดยตำรวจตั้งแต่เวลาประมาณ 7.00 น. ถึง 12.00 น. ไม่มีการใช้กำลังทำร้ายร่างกายแต่อย่างใด แต่มีการใช้ถ้อยคำไม่สุภาพ คำถามหลักของเจ้าหน้าที่คือ มีการผลิตระเบิดกันหรือไม่ ทำงานที่ไหนอย่างไร และมีความเกี่ยวพันอย่างไรกับปืน 400 กระบอกที่จับได้ที่ปากน้ำ จังหวัดสมุทรปราการเมื่อวันที่ 6 ต.ค.ที่ผ่านมา ซึ่งทั้งหมดให้การปฏิเสธ

สมาชิกกลุ่ม P.N.Y.S. คนหนึ่งกล่าวว่า หลังจากนักศึกษาโดนจับ พวกเขาระดมเพื่อนมาเฝ้าดูแลอยู่ที่สน.หัวหมากราว 15-20 คน เพราะมีความเป็นห่วงนักศึกษากลุ่มนี้ ก่อนหน้าที่จะมาดูแลทั้ง 5 คนที่ถูกแจ้งข้อหายาเสพติด มีนักศึกษา 16 คนที่ถูกจับมาในเวลาไล่เลี่ยกันแต่สอบสวนเสร็จแล้วถูกปล่อยตัวไปก่อน ตำรวจแจ้งว่าทหารเป็นผู้รับตัวไปและไม่สามารถระบุได้ว่าอยู่ที่ใด ต้องรอ 7 วันซึ่งเป็นอำนาจควบคุมตัวของทหาร ในจำนวนนั้นมีบางคนในกลุ่มที่รู้จักกัน เมื่อสอบถามไปยังเพื่อนๆ ที่อยู่ด้วยกันกับนักศึกษาคนนั้น พวกเขาก็ยืนยันว่าผู้ถูกจับกุมไปยังไม่กลับไปที่พัก และเพื่อนๆ ก็ไม่รู้จะไปติดตามที่ใด

ด้านนักศึกษารามคำแหงคนหนึ่งที่ยังอยู่ในความควบคุมตัวในสถานีตำรวจ ให้ข้อมูลว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจได้เข้ามาควบคุมตัวในขณะที่ตนเองอยู่ในภายในห้องพักบริเวณมหาวิทยาลัยในเช้าวันที่ 12 ต.ค.โดยแจ้งว่าตนเองเป็นผู้ต้องสงสัยในคดีความมั่นคง แต่หลังจากควบคุมตัวมายังสถานีตำรวจ แต่เมื่อมีการสอบสวนและตรวจปัสสาวะก็ได้แจ้งข้อหาเสพยาเสพติดแทน อย่างไรก็ตาม ก่อนหน้านี้ประมาณ 1 เดือน ได้มีเจ้าหน้าที่ตำรวจเข้าไปตรวจตราและสอบถามบริเวณห้องพักของตนเองว่า ใครอยู่ห้องพักนั้น โดยน้องที่ตนรู้จักได้รับเรื่องแทน

“เจ้าหน้าที่เขาไม่รู้ชื่อด้วยซ้ำว่ากำลังตามหาใคร เขามีแค่เลขที่อยู่ห้องเท่านั้น แล้วก็บอกว่าเป็นผู้ต้องสงสัยคดีความมั่นคง” ผู้ต้องสงสัยกล่าว

ด้านสำนักข่าวไทย รายงานว่า ผบ.ตร.เผยรู้ตัวกลุ่มผู้ต้องสงสัยจ้องก่อเหตุในพื้นที่กรุงเทพฯ และปริมณฑลแล้ว ส่วนรถยนต์ถูกโจรกรรมในภาคใต้ 32 คัน ยังไม่มีรายงานพบในกรุงเทพฯ

ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติเผยรู้ตัวกลุ่มผู้ต้องสงสัยจ้องก่อเหตุในพื้นที่กรุงเทพฯ และปริมณฑลแล้ว แต่ยังไม่สามารถเปิดเผยรายละเอียดได้ ส่วนมาตรการคุมเข้มสถานที่ต่างๆ รวมถึงจุดเสี่ยง ได้สั่งการให้ตรวจสอบในทุกพื้นที่ และยืนยันว่าตำรวจสามารถดูแลสถานการณ์ได้ ส่วนรถยนต์ที่ถูกโจรกรรมในพื้นที่ภาคใต้จำนวน 32 คัน ขณะนี้ยังไม่มีรายงานว่าพบในพื้นที่กรุงเทพมหานคร

ด้านสหพันธ์นิสิตนักศึกษานักเรียนและเยาวชนปาตานี  หรือ PerMAS ออกแถลงการณ์เรียกร้องให้เจ้าหน้าที่ปฏิบัติต่อประชาชนปาตานีโดยธรรมและเคารพศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์  รายละเอียดมีดังนี้

แถลงการณ์เรื่อง ขอให้ปฏิบัติต่อประชาชนปาตานีโดยธรรมและเคารพในศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์

"ด้วยเหตุปิดล้อม ตรวจค้น จับกุม ควบคุมตัวและกักขังชาวปาตานีมากกว่า 44 ราย เป็นหญิง 8 คน และชาย 36 คน ระหว่างวันที่ 10 - 12 ตุลาคม 2559 ที่กรุงเทพมหานคร โดยฝ่ายความมั่นคงอ้างว่าเพื่อเป็นการทำลายแผนการก่อวินาศกรรมเนื่องในโอกาสครบรอบการสลายการชุมนุมที่ตากใบ ตามนโยบายของรัฐบาลในการเฝ้าระวังภัยด้านความมั่นคง ซึ่งปฏิบัติการดังกล่าวสะท้อนถึงทัศนคติด้านลบของรัฐไทยต่อชาวปาตานีจนนำมาซึ่งการละเมิดสิทธิมนุษยชนขั้นร้ายแรง
สหพันธ์นิสิตนักศึกษา นักเรียนและเยาวชนปาตานี (PerMAS) เป็นองค์กรเคลื่อนไหวทางการเมืองที่ยึดมั่นในหลักประชาธิปไตยและสิทธิมนุษยชนสากล มีความกังวลอย่างยิ่งต่อนโยบายดังกล่าว เนื่องจากมีความสุ่มเสี่ยงที่จะทำให้ชาวปาตานีตกเป็นเป้าของการใช้ความรุนแรงในสถานการณ์ทางการเมืองที่เปราะบางของรัฐไทยและด้วยการใช้อำนาจที่มิได้อยู่ภายใต้หลักนิติรัฐนิติธรรม มีความเป็นไปได้สูงที่จะนำมาซึ่งการละเมิดสิทธิมนุษยชนขั้นร้ายแรงต่อชาวปาตานีอย่างไม่จบสิ้น ดังนั้นเพื่อป้องกันมิให้เกิดการละเมิดสิทธิมนุษยชนขั้นร้ายแรงทาง PerMAS จึงขอเสนอและเรียกร้องดังต่อไปนี้

"1. ขอให้มีการปล่อยตัวชาวปาตานีโดยเร็วและขอให้ปฏิบัติต่อประชาชนด้วยความเป็นธรรม เคารพในสิทธิมนุษยชนและศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์

"2. ขอให้นักสิทธิมนุษยชน นักกิจกรรมนักเคลื่อนไหวทางการเมือง ชุมชนระหว่างประเทศ เฝ้าระวังติดตามการบังคับใช้อำนาจภายใต้รัฐบาลทหารอย่างใกล้ชิด

"ด้วยจิตรักสันติภาพและประชาธิปไตย
สหพันธ์นิสิตนักศึกษานักเรียนและเยาวชนปาตานี
13 ตุลาคม 2559"

 

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไทอัพเดท ได้ที่:
Facebook : https://www.facebook.com/prachatai
Twitter : https://twitter.com/prachatai
YouTube : https://www.youtube.com/prachatai
Prachatai Store Shop : https://prachataistore.net
ข่าวรอบวัน
สนับสนุนประชาไท 1,000 บาท รับร่มตาใส + เสื้อโปโล

ประชาไท