ม.จ.ชาตรีเฉลิม เข้าพบ ประยุทธ์ นำเอ็มวีเพลงสรรเสริญพระบารมี ที่ถ่ายทำเมื่อวันที่ 22 ต.ค. ที่ผ่านมา ที่ท้องสนามหลวง ยาว 10 นาที มาให้รับชม รอหารือวันเผยแพร่พร้อมกันทั่วประเทศ ระบุมีการพูดคุยกับผู้ประกอบการโรงภาพยนตร์ทั้งหมดเรียบร้อยแล้ว

8 พ.ย. 2559 สื่อหลายสำนักรายงานตรงกันว่า เมื่อเวลา 09.00 น. ม.จ.ชาตรีเฉลิม ยุคล หรือ ท่านมุ้ย พร้อมคณะได้เดินทางพบนายกฯ หลังดำเนินการถ่ายทำมิวสิควีดีโอเพลงสรรเสริญพระบารมี ที่ถ่ายทำเมื่อวันที่ 22 ต.ค. ที่ผ่านมา ที่ท้องสนามหลวง มอบให้กับพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เพื่อนำขึ้นทูลเกล้าฯถวายสมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯสยามมกุฎราชกุมาร เพื่อให้ทรงมีพระราชวินิจฉัยกำหนดวันที่นำออกเผยแพร่ ต่อไป

ม.จ.ชาตรีเฉลิม เปิดเผยด้วยว่า นายกรัฐมนตรีชอบ พอใจและไม่มีข้อติติงใดๆ โดยภาพยนตร์เพลงดังกล่าวมีความยาว 10 นาทีรวมพระราชกรณียกิจของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดชด้วย ซึ่งจะฉายในโรงภาพยนตร์ โทรทัศน์ และป้ายโฆษณา

“นายกรัฐมนตรีได้ชมแล้วและชอบมาก ซึ่งเหลือเพียงการนำกราบบังคมทูลสมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมารว่าจะมีพระราชวินิจฉัยออกมาอย่างไร” ม.จ.ชาตรีเฉลิม กล่าว

ม.จ.ชาตรีเฉลิม กล่าวย้ำว่า ผลงานครั้งนี้เป็นของประชาชนทุกคน โดยจะนำฉายผ่านสถานีโทรทัศน์ โรงภาพยนตร์ และป้ายโฆษณาต่างๆ และสถานเอกอัครราชทูตไทยทั่วโลก

ทั้งนี้ ภาพยนตร์เพลงดังกล่าวมีเนื้อหาของเพลงสรรเสริญพระบารมีและพระราชกรณียกิจของพระองค์ท่าน ซึ่งมีเวอร์ชั่นเดียว โดยขณะนี้จะไม่ให้มีการเผยแพร่ก่อนมีกำหนดเผยแพร่พร้อมกันทั่วประเทศ

ม.จ.ชาตรีเฉลิม กล่าวว่า สิ่งที่ตนเองและผู้กำกับ นักแสดงรุ่นน้องทุกคนได้ร่วมกันทำ เพื่อให้คนไทยได้ร่วมกันร้องเพลงสรรเสริญพระบารมี ซึ่งเพียง 3 วันในการแจ้งข่าว และมีคนไทยมาร่วมร้องเพลงถึง 300,000 คน นับเป็นสิ่งที่ยิ่งใหญ่ อีกทั้งยืนยันว่าผู้เกี่ยวข้องกับการจัดทำทุกคน มีความทุ่มเท เพื่อถวายแด่พระองค์ท่านเป็นครั้งสุดท้าย  และหลังต่อจากนี้ตนเองยังไม่มีการวางแผนจะจัดทำภาพยนตร์เฉลิมพระเกียรติอีก เนื่องจากมีอายุมากแล้ว

ม.จ.ชาตรีเฉลิม กล่าวต่อว่า สำหรับมิวสิควีดีโอนี้จะมีการพูดถึงพระราชกรณียกิจของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่ภูมิพลอดุลยเดชในช่วงแรกโดยมีความยาวรวม 10 นาที ทั้งนี้ได้มีการพูดคุยกับผู้ประกอบการโรงภาพยนตร์ทั้งหมดเรียบร้อยแล้วเรื่องการปล่อยมิวสิควีดีโอ อย่างไรก็ตามเรายังไม่มีแผนการทำภาพยนตร์เฉลิมพระเกียรติออกมา

ที่มา : โพสต์ทูเดย์ คมชัดลึกออนไลน์ TNN24 และกรุงเทพธุรกิจออนไลน์