สื่อ Politico และคอมมอนดรีมส์รายงานว่าโดนัลด์ ทรัมป์ ว่าที่ประธานาธิบดีคนใหม่ของสหรัฐฯ 'ก่อสงครามกับสหภาพแรงงาน' จากการที่เขาแต่งตั้งให้ แอนดรูว์ พุซเดอร์ ประธานบริหารของบริษัทซีเคอีเรสทัวรองต์สที่มีร้านอาหารฟาสต์ฟู้ดในเครืออย่างคาร์ลส์เจอาร์ และฮาร์ดีส์ เป็นรัฐมนตรีกระทรวงแรงงาน พุซเดอร์เป็นผู้ที่วิพากษ์วิจารณ์สหภาพแรงงานและเคยเสนอการใช้เครื่องมืออัตโนมัติมาใช้แทนแรงงานคนเพื่อลดต้นทุน ทำให้ตัวแทนสหภาพแรงงานมองว่าทรัมป์กำลังพยายามทำลายการเคลื่อนไหวของสหภาพ

นอกจากนี้ทรัมป์ยังกล่าวโจมตีประธานสหภาพแรงงานจากรัฐอินดิแอนา ชัค โจนส์ ผ่านทางทวิตเตอร์ หลังจากที่โจนส์วิพากษ์วิจารณ์เรื่องที่ทรัมป์โกหกว่าจะช่วยคนงานโรงงานเครื่องใช้ไฟฟ้าแคร์เรียร์จากการสูญเสียงาน 1,100 ตำแหน่งจากการย้ายฐานไปเม็กซิโกทั้งที่ทำไม่ได้ดังที่อ้าง โดยสามารถรักษางานไว้ได้เพียง 800 ตำแหน่งเท่านั้น ทำให้ผู้นำแรงงานอื่นๆ แสดงความเป็นหนึ่งเดียวกับโจนส์และร่วมประณามทรัมป์ด้วยแฮชแท็ก #ImWithChuck ที่แปลว่า "ฉันอยู่ข้างชัค"

ริชาร์ค ทรัมกา ประธานสหพันธ์แรงงานที่ใหญ่ที่สุดในสหรัฐฯ เอเอฟแอล-ซีไอโอ (AFL-CIO) ประกาศว่าการโจมตีโจนส์ถือเป็นการโจมตีผู้ใช้แรงงานทั้งหมด ขณะที่นักการเมืองสายก้าวหน้าอย่างอลิซาเบธ วอร์เรน และเบอร์นี แซนเดอร์ส ชื่นชมโจนส์ที่ "ช่วยตรวจสอบประธานาธิบดีที่มาจากการเลือกตั้ง"

สื่อ Politico ตั้งข้อสังเกตว่าจนถึงตอนนี้การตัดสินใจของทรัมป์ดูเหมือนจะเป็นการเน้นรวมกลุ่มของผู้หนุนหลังธุรกิจขนาดใหญ่ที่มีความเป็นไปได้ว่าจะปะทะกับสหภาพแรงงานรวมถึงการที่ทรัมป์แต่งตั้งพุซเดอร์ที่แม้จะมีจุดยืนไม่ได้ต่อต้านการขึ้นค่าแรงขั้นต่ำแต่ก็สนับสนุนการใช้เครื่องจักรและลดคนงานลง 

แรนดี เวียนการ์เทน ประธานสหพันธ์ครูอเมริกันกล่าวถึงการที่ทรัมป์เสนอแต่งตั้งพุซเดอร์เป็นรัฐมนตรีกระทรวงแรงงานว่าจะกลายเป็นการเย้ยหยันในสิ่งที่กระทรวงแรงงานควรจะเป็น แมรี่ เคย์ เฮนรี ประธานสหภาพแรงงานภาคบริการนานาชาติ (SEIU) ก็กล่าวในทำนองเดียวกันว่าทรัมป์กำลังทำให้กระทรวงแรงงานกลายเป็น "กระทรวงต่อต้านแรงงาน" จากการที่พุซเดอร์เป็นตัวแทนของความไม่เท่าเทียมทางเศรษฐกิจที่กระทรวงแรงงานต้องคอยต่อสู้ด้วย

โรสแอนน์ เดอโมโร ผู้อำนวยการบริหารของสหภาพพยาบาลแห่งชาติสหรัฐฯ (NNU) ก็แสดงความกังวลเช่นกันว่าท่าทีของทรัมป์อาจจะเป็นการทำลายการเคลื่อนไหวของสหภาพแรงงาน

ทางด้านเดฟ จอห์นสัน จากองค์กรแคมเปญฟอร์อเมริกาส์ฟิวเจอร์วิเคราะห์การใช้โวหารโจมตีสหภาพแรงงานของทรัมป์ว่าเป็นข้ออ้างชวนเชื่อต่อต้านสหภาพแรงงานแบบเดิมอย่างการอ้างว่าสหภาพฯ ทำให้บรรษัทข้ามชาติไปลงทุนที่อื่น ซึ่งเป็นการเปิดเผยให้เห็นว่าทรัมป์มีความเชื่อต่อแรงงานแบบใด ทั้งๆ ที่สหภาพฯ เป็นสิ่งที่พยายามช่วยเหลือสมาชิกแรงงานแต่ทรัมป์ก็มีท่าทีโจมตีผู้นำแรงงาน

โจนส์ ผู้นำสหภาพแรงงานเหล็กกล้า United Steelworkers Local 1999 ที่ถูกทรัมป์กล่าวโจมตีเปิดเผยว่าเขาจะยังยืนหยัดต่อสู้ต่อไปแม้ว่าจะถูกเย้ยหยันและถูกโทรศัพท์ข่มขู่คุกคามจากผู้สนับสนุนทรัมป์ก็ตาม เขาบอกว่าเขาทำงานนี้มากว่า 30 ปีแล้ว และที่ผ่านมาเขาก็เคยถูกข่มขู่ว่าจะโดนยิงหรือถูกเผาบ้านมาก่อนจนชินแล้ว

คอมมอนดรีมส์ระบุว่าการที่ทรัมป์ทำตัวเป็นศัตรูกับผู้นำสหภาพแรงงานและส่งเสริมให้บรรษัทใหญ่เป็นรัฐมนตรีเช่นนี้ถือเป็นการส่งสัญญาณว่าเขาไม่ได้ทำตามโวหารที่เคยกล่าวอ้างไว้ในช่วงที่หาเสียงเลือกตั้ง

แลร์รี โคเฮน อดีตประธานสหภาพสื่อมวลชนแห่งอเมริกาและประธานขบวนการ Our Revolution ระบุว่าทรัมป์ไม่เพียงแค่ข่มเหงรังแกผู้นำแรงงานเท่านั้น ในภาคส่วนอื่นๆ อย่างชาวมุสลิม ผู้อพยพ นักสิ่งแวดล้อม กลุ่มศาสนาอื่นๆ หรือคนที่ต้องการความเป็นธรรม ก็มีโอกาสที่จะร่วมมือกันเพื่อต่อสู้กับการข่มเหงรังแกเช่นนี้

เรียบเรียงจาก

Faux-Populist Trump Wages All-Out War on American Workers, Common Dreams, 09-12-2016

http://www.commondreams.org/news/2016/12/09/faux-populist-trump-wages-all-out-war-american-workers

Trump launches war on unions, Politico, 08-12-2016

http://www.politico.com/story/2016/12/trump-unions-war-232382