Skip to main content
sharethis

15 ธ.ค. 2559 จากกรณี เทอดศักดิ์ เจียมกิจวัฒนา อดีตแนวร่วมพันธมิตรฯ เชียงใหม่ และแกนนำสมาพันธ์วิทยุชุมชนภาคเหนือตอนบน วิหคเรดิโอ ซึ่งปัจจุบันจัดรายการวิทยุผ่านทางยูทูบช่อง 'Vihok News' วิพากษ์วิจารณ์สถานการณ์ทางการเมืองที่มีผู้ติดตามจำนวนมาก อย่างไรก็ตามขณะนี้มีกระแสวิพากษ์วิจารณ์กลับถึงความถูกต้องของข้อมูลที่เทอดศักดิ์นำเสนอ

ล่าสุด วันนี้ (15 ธ.ค.59) ข่าวสดออนไลน์และกรุงเทพธุรกิจออนไลน์ รายงานตรงกันว่า เมื่อเวลา 09.00 น. วัฒนะ สินทร พนักงานปฏิบัติการระดับสูง กสทช. สำนักงานใหญ่ สนธิกำลังร่วมกับตำรวจสภ.เมืองเชียงใหม่ และทหารจาก ร้อยพัฒนาที่ 1 มณฑลทหารบกที่ 33 เข้าตรวจสอบภายในสถานีวิทยุชุมชนวิหคเรดิโอ 89.15 MHz. ซึ่งเป็นของ เทอดศักดิ์ เจียมกิจวัฒนา หรือโต้ง ที่ตั้งอยู่ที่บ้านเลขที่ 72/65 หมู่บ้านระมิงค์นิเวศน์ ต.หายยา อ.เมือง จ.เชียงใหม่ แต่ขณะเข้าตรวจค้น เทอดศักดิ์ ไม่ได้อยู่ที่สถานี มีเพียง เอกชัย วิไลวรรณ อายุ 40 ปี คนสนิทของเทอดศักดิ์ แสดงตัวเป็นผู้ดูแล เจ้าหน้าที่จึงแสดงตัวและขอตรวจค้น พบเครื่องส่งสัญญาณวิทยุ พร้อมอุปกรณ์ในการออกอากาศ สายส่งสัญญาณ และการติดตั้งเสาส่งสัญญาณที่สูงกว่า 50 เมตร ขณะที่การตรวจสอบเอกสารพบว่า สถานีวิทยุดังกล่าวไม่มีใบอนุญาตในการตั้งสถานีวิทยุคมนาคม เจ้าหน้าที่จึงดำเนินการตรวจยึดเครื่องส่งสัญญาณ สายสัญญาณ เสาเทาเวอร์สูง 50 เมตร สายอากาศ เครื่องคอมพิวเตอร์ อุปกรณ์การออกอากาศและอุปกรณ์อื่นๆ รวมกว่า 10 รายการ พร้อมให้เจ้าหน้าที่เข้ารื้อถอนสายส่งสัญญาณและเสาอากาศ

พล.ต.ต.พงษ์เดช พรหมมิจิตร รรท.รองผบช.ภาค 5 ได้เดินทางมาตรวจสอบสถานีวิทยุชุมชนวิหคเรดิโอ พร้อมสอบถามเจ้าหน้าที่ กสทช. และกำชับให้เจ้าหน้าที่เร่งดำเนินการ เนื่องจากมีการร้องเรียนเข้ามาอย่างต่อเนื่อง และก่อนหน้านี้ เจ้าหน้าที่ของกสทช.เคยเข้าตรวจสอบสถานีวิทยุชุมชนวิหคเรดิโอมาแล้วครั้งหนึ่ง เนื่องจากพบว่ามีการออกอากาศเข้าข่ายปลุกระดม เผยแพร่ข้อมูลข่าวสารกระทบต่อความมั่นคงของรัฐ หรือความสงบเรียบร้อยของประชาชน

นอกจากนี้ผู้อยู่อาศัยในหมู่บ้านระมิงค์นิเวศน์เคยร้องเรียนให้เจ้าหน้าที่เข้าตรวจสอบการติดตั้งเสาส่งสัญญาณกลางหมู่บ้าน เนื่องจากเกรงเรื่องของความปลอดภัย เพราะที่ผ่านมาช่วงเกิดลมพายุพัด เสาส่งสัญญาณเคยหักมาแล้ว

วัฒนะ สินทร พนักงานปฏิบัติการระดับสูง กสทช. สำนักงานใหญ่ กล่าวว่า จากการตรวจสอบจากข้อมูลของกสทช.พบว่าสถานีวิทยุชุมชนวิหคเรดิโอไม่ได้ขออนุญาต เจ้าหน้าที่จึงตรวจค้นและยึดอุปกรณ์ทั้งหมด เพื่อส่งพนักงานสอบสวนสถานีตำรวจภูธรเมืองเชียงใหม่ดำเนินคดีในข้อหา มีซึ่งเครื่องวิทยุโทรคมนาคมและใช้เครื่องวิทยุโทรคมนาคมโดยไม่ได้รับอนุญาต รวมทั้งตั้งสถานีวิทยุคมนาคมโดยไม่ได้รับอนุญาต

สำหรับกรณีของ เทอดศักดิ์ นั้น ก่อนหน้านี้ เมื่อวันที่ 22 พ.ย. ที่ผ่านมา พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯ และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม กล่าวถึงกรณีดังกล่าวด้วยว่า เขาต้องดูแล ดูแลหมดแล้ว ต้องเข้าไปดูแล แต่ว่าเดี๋ยวดูให้เกิดความชัดเจนก่อน มีหน่วยงานที่เขาดูอยู่ ซึ่งเขาก็คงมาให้รายละเอียด และจะให้โฆษกแจ้งให้ทราบ

"ถ้าบิดเบือนก็ต้องผิด ถ้าไม่ใช่เรื่องจริงนะ ถ้าไม่ใช่เรื่องจริงก็ต้องดำเนินคดีนะ" พล.อ.ประวิตร กล่าว พร้อมระบุด้วยว่ามีเรื่องของ พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์
 
และ เมื่อเดือนที่ผ่านมา ที่กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (ปอท.) พล.ต.ท.ชัจจ์ กุลดิลก อดีตรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย และอดีตรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม ในรัฐบาล ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร มอบอำนาจให้ ภาณุวัฒน์ บุญญะกิตติ เดินทางมาพบ พล.ต.ต.ศุภเศรษฐ์ โชคชัย ผบก.ปอท.เพื่อแจ้งความดำเนินคดีกับ เทอดศักดิ์ เจียมกิจวัฒนา อดีตแกนนำพันธมิตรฯ เชียงใหม่ และ กัลยภรณ์ เจียมกิจวัฒนา ภรรยา โดยกล่าวหาว่าผู้ถูกกล่าวหาทั้ง 2 คนกับพวกร่วมกันสร้างและบันทึกวิดีโอเทปกล่าวหาด้วยข้อความอันเป็นเท็จ ก่อนจะนำคลิปวีดิโอมาอัพโหลดไปยังเว็บไซต์ยูทูบให้สมาชิกฯดูในชื่อ 'เปิดเบื้องลึก !! ใครฆ่า “เสธแดง” “ในเรามีเขา ในเขาก็มีเรา” และนำเอาคลิป โพสต์ในหน้าเฟซบุ๊กส่วนตัว เป็นเหตุให้ผู้แจ้งได้รับความเสียหาย คนเข้าใจผิด เสื่อมเสียชื่อเสียง จึงได้มอบหมายให้ทนายมาแจ้งความประสงค์เพื่อดำเนินคดีกับบุคคลทั้งสองและคนอื่นที่เกี่ยวข้องให้ถึงที่สุด
 
เบื้องต้นพล.ต.ต.ศุภเศรษฐ์ มอบหมายให้เจ้าหน้าที่ตำรวจฝ่ายสืบสวน ปอท. สืบสวนติดตามหาตัวผู้กระทำผิดมาดำเนินคดีโดยเร็ว

 

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net