'เพจต้าน Single Gateway' ผุดปฏิบัติการ 'เยี่ยมบ้านบิ๊กตู่' จ่อเปิดงบกองทัพบก

เพจพลเมืองต่อต้าน Single Gatewayฯ เดินหน้าต้าน พ.ร.บ.คอมฯ ผุดปฏิบัติการ 'เยี่ยมบ้านบิ๊กตู่' จ่อเปิดงบกองทัพบกบางหน่วย ตร.แจง แฮ็กได้เพียงส่วนที่ ปชช.สามารถเข้ามาดูได้เท่านั้น ยันมีวิธีแกะรอย ผิด ม.116-พ.ร.บ.คอมฯ 'วิษณุ' ยันจัดซื้อจัดจ้างไม่กระทบ
 
23 ธ.ค. 2559 ภายหลังจากสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) ผ่าน ร่าง พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ ไปแล้ว ยังคงมีกระแสต่อต้านกฎหมายดังกล่าวอย่างต่อเนื่อง โดยหนึ่งในนั้นคือเพจ 'พลเมืองต่อต้าน Single Gateway : Thailand Internet Firewall #opsinglegateway' ที่มีปฏิบัติการต่อต้านผ่านโลกอินเตอร์เน็ต เช่นนัดชุมนุมออนไลน์หรือเข้าไปกด F5 ทางเว็บไซต์ราชการต่างๆ โดยวานนี้ เพจดังกล่าวเผยแพร่ข้อมูลฐานบัญชีเงินเดือน ค่าเล่าเรียน ค่ารักษาพยาบาล ฯลฯ ของเจ้าหน้าที่ตำรวจบางส่วน พร้อมระบุว่า นี่คือการเตือนแรงๆ อีกครั้ง (อ่านรายละเอียดเพิ่มเติม)
 
ล่าสุดเวลา 0.02 น.ของวันที่ 23 ธ.ค. เพจดังกล่าวโพสต์ประกาศยกระดับความเข้มข้นขึ้นอีก โดยประกาศ 'เยี่ยมบ้านบิ๊กตู่' ด้วยการจะเปิดเผยข้อมูลการใช้งบประมาณบางหน่วยงานในกองทัพบก ซึ่งเปรียบเสมือนเป็นการไปเยี่ยมบ้าน “บิ๊กตู่” พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ในเวลา 20.00 น. ของวันที่ 23, 26 และ 27 ธ.ค.นี้
 
ต่อมา เพจ พลเมืองต่อต้าน Single Gateway ได้ออกแถลงการณ์กลุ่มพลเมืองต่อต้าน Single Gateway เรื่อง หลักการและจุดยืนทางการเมือง ของพื้นที่นี้ โดยระบุว่า หลายคนอาจเป็นแฟนคลับที่เพิ่งเข้ามาใหม่ อาจไม่ทราบและไม่เข้าใจในจุดยืนนและหลักการของ "กลุ่มพลเมืองต่อต้าน Single Gateway" ที่ได้ยึดถือและดำเนินมาตลอดกว่า 1 ปี ซึ่งมีดังต่อไปนี้
 
1. ) พวกเราขอปฏิเสธที่จะลงไปสนับสนุนหรือขัดแย้งทางการเมืองเรื่องสีเสื้อ กับทุกๆ สี เรื่องการเมืองของสีเสื้อ พวกเราไม่เกี่ยว พวกเราทีมาร่วมกันในพื้นที่นี้มีทุกสี ขอได้โปรดอย่าใช้พื้นที่นี้เพื่อการนี้โดยเด็ดขาด
 
2. ) พวกเรามีจุดยืนในการดำเนินกิจกรรมบนโลกออนไลน์เท่านั้น เรื่องราวของกิจกรรมนอกโลกออนไลน์ พวกเราขอสนับสนุนและเผยแพร่ข่าวสารให้เท่านั้น กิจกรรมนอกโลกออนไลน์ หากจะมีขึ้น ก็จะมีเพื่อสังสรรค์ สนุกสนาน เท่านั้น จะไม่มีวัตถุประสงค์ ที่จะไปเคลื่อนไหวนอกออนไลน์ เพื่อไปกดดันในประเด็นต่างๆ
 
3. ) พวกเรามีวัตถุประสงค์และเป้าหมาย ในการดำเนินกิจกรรมบนโลกออนไลน์ เพื่อเสรีภาพและความยุติธรรม เพื่อให้เกิดเสรีภาพในการสื่อสารอย่างแท้จริง เท่านั้้น
 
4, ) พวกเราขอต่อต้าน การคอรัปชั่นในทุกรูปแบบ และจากทุกแหล่ง ไม่ว่าจะเป็น ข้าราชการ นักการเมือง ทหาร ตำรวจ และนักธุรกิจฉ้อฉล โดยถือว่า มีเลวร้ายไม่ต่างกัน
 
5.) การกระทำใดๆ ที่เป็นความผิดของผู้กุมอำนาจรัฐ(ไม่ว่าสมัยใดก็ตาม)ในทุกกรณี ที่มีผลต่อชีวิตของประชาชน ย่อมไม่สามารถที่จะได้รับการให้อภัยโดยเด็ดขาด
 
6.) ในการปฏิบัติการทุกกรณีของเรา ต้องพยายามจำกัดความเสียหายให้น้อยทีสุดและ หลีกเลี่ยงได้ ให้พิจารณาเป็นลำดับแรก
 
7.) พวกเราคือผู้ไร้ตัวตน(Anonymous) ไร้ร่องรอยอย่างแท้จริง ห้ามเปิดเผยตัวตนโดยเด็ดขาดว่า ท่านเป็น นักรบไซเบอร์ ของกลุ่มพลเมืองต่อต้าน Single Gateway นักรบไซเบอร์ ชองพวกเราล้วนไร้ตัวตน และไม่มีใครทราบว่า พวกเราคือใคร เหมือนอากาศ มองไม่เห็น แต่สัมผัสได้ว่ามีตัวตน
 
"การเคลื่อนไหวต่อต้าน (แนวคิด) Single Gateway ซึ่งหมายถึง การต่อต้านแนวคิดการจำกัดเสรีภาพของประชาชน ในทุกๆ วิธีการ ไม่ว่าจะเป็น การใช้เครื่องมือ การใช้กฎหมาย การใช้อำนาจเข้าข่มขุ่ คุกคาม ล้วนอยุ่ใน คำจำกัดนี้ของพวกเรา ทั้งสิ้น" แถลงการณ์กลุ่มพลเมืองต่อต้าน Single Gateway ระบุ
 

ตร.แจง แฮ็กได้เพียงส่วนที่ ปชช.สามารถเข้ามาดูได้เท่านั้น

ไทยโพสต์รายงานด้วยว่า พล.ต.ต.ปิยะพันธ์ ปิงเมือง รองโฆษก ตร.เปิดเผยว่า จากการตรวจสอบเบื้องต้นระบบของทำงานอินเทอร์เน็ตของสำนักงานตำรวจแห่งชาติยังใช้ได้ปกติ การประชุมวิดีโอคอนเฟอเรนซ์ไม่มีปัญหา ที่กลุ่มพลเมืองต่อต้านซิงเกิลเกตเวย์อ้างสามารถแฮ็กเข้ามาได้ เป็นเพียงส่วนที่ประชาชนสามารถเข้ามาดูได้เท่านั้น ส่วนข้อมูลความมั่นคงไม่สามารถเข้ามาได้แต่อย่างไร

ยันมีวิธีแกะรอย ผิด ม.116-พ.ร.บ.คอมฯ

พ.ต.อ.กฤษณะ พัฒนเจริญ รองโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ระบุว่า ตำรวจได้เฝ้าระวังหลังพบว่า มีการเชิญชวนให้ร่วมกันเจาะข้อมูลเพื่อทำลายระบบเว็บไซต์ศูนย์ปฏิบัติการสำนักงานตำรวจแห่งชาติ หรือ ศปก.ตร. โดยยืนยันว่าตำรวจมีวิธีการสืบสวนแกะรอยจากไอพีแอดเดรสหาตัวผู้กระทำผิด และหากพบว่าผู้ใดเป็นผู้เชิญชวนให้กลุ่มบุคคลเข้าเจาะข้อมูลเว็บไซต์ของทางราชการ จะมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 116 ฐานยุยงปลุกปั่น ชักชวนให้บุคคลร่วมกระทำผิด ส่วนผู้ที่หลงเชื่อกระทำผิด จะมีความผิดตามพระราชบัญญัติคอมพิวเตอร์ฯ

แนะฟ้องแพ่ง

รองโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติยังยืนยันด้วยว่า ตำรวจพร้อมรับแจ้งความร้องทุกข์ โดยมอบหมายให้กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยี หรือ ปอท. กรณีที่มีหน่วยงานใดได้รับความเสียหายจากการถูกเจาะข้อมูล ซึ่งในกรณีนี้ ต้องดูพฤติกรรมว่าการกระทำผิดเป็นลักษณะของการเข้าถึงข้อมูลของเว็บไซต์หรือเป็นการเจาะเข้าไปทำลายข้อมูลสำคัญของเว็บไซต์ ซึ่งถือเป็นความผิดทางอาญา โดยหน่วยงานที่เป็นผู้เสียหายสามารถฟ้องเอาผิดทางแพ่ง ฐานละเมิดทำให้เสียหาย กับผู้ที่กระทำผิดได้อีกทางหนึ่ง

นอกจากนี้ จากข้อมูลที่ได้รับรายงาน รองโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติยอมรับว่า เว็บไซต์ของกองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 1 มีกลุ่มบุคคลพยายามที่จะเจาะข้อมูล แต่ทางตำรวจสามารถดำเนินการแก้ไขได้ทันท่วงที จึงทำให้ไม่ได้รับความเสียหาย

ยันจัดซื้อจัดจ้างไม่กระทบ

ไทยโพสต์รายงานด้วยว่า กรณีโจมตีเว็บไซต์จัดซื้อจัดจ้างนั้น วิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี เผยว่า ขณะนี้ร่าง พ.ร.บ.จัดซื้อจัดจ้างและการบริหารพัสดุภาครัฐยังไม่ได้ประกาศใช้ รัฐบาลยังใช้ระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรีว่าด้วยการพัสดุอยู่ ซึ่งเจ้าหน้าที่ยืนยันว่าไม่กระทบแต่อย่างใด เพราะมีวิธีการทำงานอยู่
 
สมชัย สัจจพงษ์ ปลัดกระทรวงการคลัง เปิดเผยถึงการโจมตีเว็บไซต์ของหน่วยงานในกระทรวงการคลัง ทั้งกรมบัญชีกลาง กรมศุลกากร ถูกโจมตี ว่า สถานการณ์ในขณะนี้กลับสู่ภาวะปกติแล้ว โดยทั้งนายอภิศักดิ์ ตันติวรวงศ์ รมว.การคลัง และนายวิสุทธิ์ ศรีสุพรรณ รมช.การคลัง กำชับให้ดูแลเรื่องนี้อย่างใกล้ชิด ซึ่งไม่ต้องกังวลว่าเงินเดือนข้าราชการจะไม่จ่าย เพราะไม่มีปัญหา ไม่กระทบกับระบบ และจะจ่ายเงินเดือนให้ข้าราชการได้อย่าง 100%
 
“ได้รับรายงานว่ามีสองจุดที่ถูกโจมตี จุดแรกคือหน้าเว็บไซต์กระทรวงการคลัง แต่ไม่ได้เข้ามาแฮ็กข้อมูล เป็นเพียงการเข้ามาก่อกวน ซึ่งได้ดำเนินการแก้ไขให้เป็นปกติแล้ว” สมชัย กล่าว
 
สมชัยกล่าวว่า ส่วนที่สอง ที่ถูกโจมตีคือเว็บไซต์การจัดซื้อจัดจ้างกรมบัญชีกลาง โดยกระทรวงการคลังได้ประสานงานหน่วยงานความมั่นคงด้านการก่ออาชญากรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ ซึ่งการก่อกวนในครั้งนี้ยังไม่มีความเสียหายเกิดขึ้น และไม่ได้มีการถูกล้วงข้อมูลต่างๆ ออกไป ส่วนระบบ GFMIS ของกระทรวงการคลังเป็นระบบปิด ไม่มีใครสามารถเข้ามาได้ จึงไม่มีผลกระทบแต่อย่างใด อย่างไรก็ตาม ในเบื้องต้นได้ติดต่อไปยังบริษัทดูแลระบบไอทีของกระทรวงการคลังให้มาติดตั้งเครื่องมือเพื่อมาดูแลในระยะสั้นไม่ให้เข้ามาก่อกวนอีก ส่วนในระยะยาว จะมีการวางระบบความปลอดภัยเพิ่ม เพื่อรักษาความมั่นคงในระบบไอที
 
"เรื่องการโจมตีระบบไอทีนั้น รัฐบาลไม่ได้นิ่งนอนใจ มีการประชุมหารือมาโดยตลอด มีหน่วยงานที่ทำเรื่องนี้โดยเฉพาะ และให้ความช่วยเหลือกระทรวงต่าง ๆ มาตลอด ซึ่งเท่าที่ได้ทราบข่าวจากหน่วยงานความรับผิดชอบในเรื่องนี้ มีการพบต้นตอผู้ที่เข้ามาก่อกวนแล้ว และจะสามารถจับกุมได้ในไม่ช้า" สมชัย กล่าว

 

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไทอัพเดท ได้ที่:
Facebook : https://www.facebook.com/prachatai
Twitter : https://twitter.com/prachatai
YouTube : https://www.youtube.com/prachatai
Prachatai Store Shop : https://prachataistore.net
สนับสนุนประชาไท 1,000 บาท รับร่มตาใส + เสื้อโปโล

ประชาไท