'นปช.' จัดเวทีปรองดอง ระบุพร้อมเซ็น 'เอ็มโอยู-สัจจะวาจา'

'นปช.' จัดเวทีปรองดอง 'จตุพร' พร้อมเซ็นเอ็มโอยู-สัจจะวาจา หวังผลศึกษา ป.ย.ป. ไม่ถูกเก็บในลิ้นชักอีก ด้าน 'โคทม' เสนอ 3 ข้อปรองดอง ชงนำคู่ขัดแย้งร่วมสานเสวนาระดับชาติ 1-2 สัปดาห์ ก่อนทำข้อตกลงร่วมกัน
 
เว็บไซต์เดลินิวส์ รายงานเมื่อวันที่ 21 ม.ค. 2560 ที่ผ่านมาว่าที่สถานีโทรทัศน์พีซทีวี  ชั้น 5 ห้างอิมพีเรียล ลาดพร้าว  พีซทีวีร่วมมือกับ แนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) จัดรายการทางวิชาการ เวทีทัศน์ เรื่อง "ปรองดอง" เป็นครั้งแรก โดยมีนายโคทม อารียา ที่ปรึกษาสถาบันสิทธิมนุษยชนและสันติศึกษาของมหาวิทยาลัยมหิดล เป็นวิทยากรคนแรก ที่มาแสดงความเห็นเกี่ยวกับ การสร้างความปรองดองสมาฉันท์ให้เกิดขึ้นแก่ประเทศไทย 
 
โดยนายจตุพร พรหมพันธุ์ ประธาน นปช. กล่าวว่า พวกตนไม่ต้องการให้ประเทศอยู่ในวังวนความขัดแย้ง แต่ที่ผ่านมาประเทศไทยมีการทำและศึกษาเรื่องการปรองดองกันมานาน แต่สุดท้ายก็เก็บไว้ในลิ้นชัก ดังนั้นการปรองดองในครั้งนี้ไม่ว่าจะเอาบุคคลที่มีภาพลักษณ์ มีภาพพจน์อย่างไรมาทำ ท้ายที่สุดผลการศึกษาก็อยู่ในลิ้นชักเหมือนเดิม จะเอาทหารมาทั้ง 100 เปอร์เซนต์ตนก็ไม่ขัดข้อง จะเอานายพล หรือพลทหารก็ตาม เพราะสุดท้ายก็ขึ้นอยู่กับผู้มีอำนาจเป็นคนตัดสินใจ เพราะผลการศึกษาเรื่องการปรองดองมีมาก แต่เราจะนำผลลัพท์ที่ได้ไปสู่การปฎิบัติอย่างจริงจังได้อย่างไร เพราะตนไม่อยากให้เรื่องปรองดองจบอยู่ในลิ้นชักเหมือนเดิม
 
"วันนี้ คสช.ต้องการเรื่องการปรองดองเราก็พร้อมสนับสนุน ให้ความร่วมมือจะเซ็นเอ็มโอยู หรือให้สัจจะวาจาอะไรเราเอาทั้งนั้น โดยยึดหลักความยุติธรรมและความเสมอภาคเพราะถ้าไม่มีตรงนี้จะให้มีการเลือกตั้ง ต่อไปก็จะมีปัญหา ส่วนที่พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม พูดว่าไม่มีอภัยโทษ ไม่มีนิรโทษกรรมนั้น วันนี้เรายังไม่รู้ว่าจะเกิดอะไรขึ้นบ้างกับการตั้งคำถาม 10 ข้อแล้วประชาชนต้องการอย่างไร เพราะวันนี้ผมมองว่าไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นเราก็ต้องอยู่บนเวทีเดียวกัน และผมอยากให้คุยเรื่องการปรองดรองในครั้งนี้เป็นครั้งสุดท้าย นำมาสู่การปฎิบัติอย่างจริงจัง ถ้านำเงินเหล่านี้ไปสร้างสะพานข้ามแม่น้ำเจ้าพระยาได้หลายเส้นแล้ว" นายจตุพร กล่าว
 
นายโคทม กล่าวว่า เราจะต้องพูดคุยเรื่องการเมือง เพราะเราทะเลาะกันมา 10 ปี เป็นเรื่องการเมือง ดังนั้นจะต้องเปิดพื้นที่ให้ประชาชนทั้งระดับรากหญ้า ระดับชนชั้นกลางที่รวมตัวกันเป็นภาคประชาสังคม ได้แสดงความคิดเห็น มีส่วนร่วมในการตัดสินใจในการขับเคลื่อนการปฎิรูปจึงจะสามารถแก้ปัญหาได้ในระบบปกติ เพราะเมื่อมีปัญหาเรื่องการเมืองเราก็ต้องแก้ด้วยการเมืองไม่ใช่ใช้การยึดอำนาจ ทั้งนี้ในเรื่องของการปรองดองเป็นเรื่องของการยินยอมพร้อมใจและต้องเข้าใจตัวเอง จึงต้องใช้การ "สานเสวนา" เป็นแนวคิดหลักในเรื่องนี้ ด้วยการพูดคุย รับฟัง โดยไม่มีการผูกขาดใด ๆ
 
นายโคทม กล่าวว่า ส่วนตัวมองว่าการปรองดองต้องเริ่มต้นด้วยความอ่อนน้อม ถ่อมตน มีขันติในการรับฟังคนอื่น เพราะต้นเหตุของความขัดแย้ง มี 3 อย่างคือ 1.ทัศนคติ ความเชื่อ ซึ่งเป็นเรื่องของอุดมการณ์และมุมมองของแต่ละคน 2.การกระทำ ก่อนหน้านี้ นปช.ได้สร้างโรงเรียนเสื้อแดง วันนี้ก็ควรเปลี่ยนมาเป็นโรงเรียนปรองดองบนลานเสวนา เป็นต้น 3.ตัวประเด็นเนื้อหาต่างๆ ซึ่งทางการเมืองอย่าไปสร้างกระบวนการ "วาทกรรม" ที่ให้สังคมคล้อยตาม โดยช่วงหนึ่งประเทศไทยใช้วาทกรรมคำว่า "ประชาธิปไตย" มาสร้างความขัดแย้ง อย่างไรก็ตามตนอยากให้มีการนำเรื่องภูมิศาสตร์และประวัติศาสตร์และวัฒนธรรม มาศึกษาด้วย เพราะเป็นเรื่องที่ซับซ้อน เพราะไม่เช่นนั้นทำไม กปปส.ถึงมีคนภาคใต้มาก ขณะที่นปช. เป็นคนอีสาน และเพราะสาเหตุใดความขัดแย้งการเมืองในครั้งนี้ถึงลงไปในระดับครอบครัว มีการแบ่งเหลือง แบ่งแดงที่ชัดเจนมาก
 
นายโคทม กล่าวต่อว่า สำหรับทางออกเรื่องการปรองดองคือ "เหลียวหลัง รั้งสติมาอยู่กับปัจจุบันเพื่อมองไปอนาคตข้างหน้า" ซึ่งการเหลียวหลังคือ การต่อรองด้วยการเล่าเรื่องในอดีตใหม่อย่างไร และการเยียวยา ซึ่งควรจะมีการนิรโทษบ้างในบางเงื่อนไข  ส่วนปัจจุบันที่ควรทำคืออย่าเพิ่มเงื่อนไขความขัดแย้ง ควรเปิดเสรีแสดงความคิดเห็นให้เพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ และในช่วงนี้ใครออกมาแสดงความเห็นก็อย่าไปปิดปาก รวมไปถึงควรมีการวางแผน สร้างกลไกปรองดอง เช่น เปิดเวทีเสวนา เป็นต้น ส่วนมองอนาคต เราควรเดินหน้าสู่ประชาธิปไตยเข้าสู่กระบวนการเลือกตั้งที่เสรี เที่ยงธรรม แล้วนำไปสู่การตั้งรัฐบาลที่สุจริต เที่ยงธรรม
 
นายโคทม กล่าวต่อว่า สำหรับข้อเสนอแนะในการปรองดอง มี 3 ข้อดังนี้ 1. เอาผู้ที่ขัดแย้งมาทำการ"สานเสวนาระดับชาติ" คุยโต๊ะกลม แลกเปลี่ยนความเห็น 1-2 สัปดาห์ เพื่อให้เกิดข้อตกลงที่จะสามารถนำไปสู่การแก้ไขปัญหา 2.สร้างประชาธิปไตยระดับรากหญ้าให้แข็งแรง  3.สร้างสัมพันธ์ข้ามความคิดที่แตกต่างกันทางการเมือง หรือที่เรียกว่า "ฟื้นความเป็นเพื่อน" เพื่อสร้างความปรองดองในชนชั้นกลาง
 
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในช่วงท้ายเป็นการถาม- ตอบ จากผู้ชมทางบ้าน มีคำถามที่น่าสนใจ โดยถามว่าเชื่อว่าการเลือกตั้งจะเกิดตรงตามที่นายกรัฐมนตรีประกาศไว้หรือไม่ นายโคทม กล่าวว่าตรงนี้เหตุปัจจัยมีเยอะพอสมควร ตรงนึ้ คสช. จะเร่งหรือจะชะลอก็ได้ ซึ่งตนเดาว่าถ้าไม่มีอะไรเกิดขึ้น เขาก็ไม่น่าเสี่ยงกับการเสียคำพูด หากจะช้าจากที่เคยพูดไว้ก็คง 2-3 เดือน

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไทอัพเดท ได้ที่:
Facebook : https://www.facebook.com/prachatai
Twitter : https://twitter.com/prachatai
YouTube : https://www.youtube.com/prachatai
Prachatai Store Shop : https://prachataistore.net
ข่าวรอบวัน
สนับสนุนประชาไท 1,000 บาท รับร่มตาใส + เสื้อโปโล

ประชาไท