พรุ่งนี้ จับตาศาลขอนแก่นมีคำสั่งให้เบิกตัว 'ไผ่' จตุภัทร์ บุญภัทรรักษา จากเรือนจำมาสอบตามคำร้องขอฝากขัง ด้านทนายยื่นค้านฝากขังและขอให้ไต่สวนโดยเปิดเผย อ้างสิทธิผู้ต้องหาค้านในประเด็นความจำเป็นในการควบคุมตัวเท่านั้น ปัจจุบัน ไผ่ ถูกขังอยู่ในเรือนจำแล้วเป็นเวลา 41 วัน โดยไม่ได้ออกไปเรียนและสอบเพื่อขอจบการศึกษา ป.ตรี

วันนี้ (31 มกราคม 2560)  แฟนเพจศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชนรายงานว่า พ.ต.ท.จิรัฐเกียรติ สอนวิเศษ สารวัตร (สอบสวน) สถานีตำรวจภูธรเมืองขอนแก่น เข้ายื่นคำร้องขอฝากขังนายจตุภัทร์ บุญภัทรรักษา หรือ ไผ่ ดาวดิน ไว้ในระหว่างสอบสวนต่อไปอีก 12 วัน ตั้งแต่วันที่ 2 - 13 ก.พ.60 ซึ่งนับเป็นการขอฝากขังครั้งที่ 6 หลังจตุภัทร์ถูกจับกุม เนื่องจากถูกกล่าวหาว่ากระทำความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112 และ พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ฯ จากการแชร์ข่าวพระราชประวัติรัชกาลที่ 10 จากสำนักข่าวบีบีซีไทย ในเฟซบุ๊กของตนเอง โดยในวันพรุ่งนี้ (1 กุมภาพันธ์ 2560) ศาลจังหวัดขอนแก่นได้มีคำสั่งให้เบิกตัว 'ไผ่' จากทัณฑสถานบำบัดพิเศษขอนแก่นมาสอบถามว่าจะคัดค้านการฝากขังหรือไม่

สำหรับเหตุผลในการขอฝากขังผัดที่ 6  ระบุว่าการสอบสวนยังไม่เสร็จสิ้น เนื่องจากได้หลักฐานสำคัญใหม่ เป็นแผ่นซีดีภาพเคลื่อนไหว จึงได้ส่งวัตถุพยานดังกล่าวตรวจพิสูจน์ยังกองพิสูจน์หลักฐานกลาง ุและอยู่ระหว่างการเสนอสำนวนการสอบสวนไปยังสำนักงานผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เพื่อพิจารณาและมีความเห็นทางคดี ตามมติที่ประชุมคณะกรรมการพิจารณากลั่นกรองคดีหมิ่นฯ ของตำรวจภูธรภาค 4 เมื่อวันที่ 20 มกราคม 2560 นอกจากนี้ พนักงานสอบสวนยังได้คัดค้านการประกันตัว เนื่องจากเป็นคดีที่มีอัตราโทษสูง และเกี่ยวกับความมั่นคง

และในเดียวกันทนายความของจตุภัทร์ ได้ยื่นคำร้องคัดค้านการฝากขัง โดยให้เหตุผลว่า ไม่มีเหตุจำเป็นจะต้องควบคุมตัวผู้ต้องหาไว้ระหว่างการสอบสวน และขอให้ศาลไต่สวนคำร้องขอฝากขังต่อหน้าผู้ต้องหา อีกทั้งยังได้คัดค้าน หากศาลสั่งให้ไต่สวนคำร้องฝากขังเป็นการลับ เนื่องจากการไต่สวนคำร้องขอฝากขัง เป็นเพียงขั้นตอนก่อนการพิจารณาคดี ที่ผู้ต้องหาใช้สิทธิคัดค้านเรื่องความจำเป็นในการควบคุมตัวผู้ต้องหา จึงไม่มีเหตุตามกฎหมายที่ศาลจะสั่งให้พิจารณาลับได้

ก่อนหน้านี้ หลังศาลจังหวัดขอนแก่นมีคำสั่งถอนประกันจตุภัทร์เมื่อวันที่ 22 ธ.ค.59 พนักงานสอบสวนได้ขอฝากขังมาแล้ว 3 ครั้ง ศาลทำการไต่สวนเพื่อสอบถามพนักงานสอบสวนถึงความจำเป็นในการฝากขัง 2 ครั้ง โดยสั่งให้พิจารณาลับทั้ง 2 ครั้ง แม้จตุภัทร์และทนายความจะได้คัดค้านการฝากขัง และค้านการพิจารณาลับทุกครั้ง แต่ไม่เป็นผล ทำให้ในการฝากขังครั้งที่ 5 จตุภัทร์ไม่ขอใช้สิทธิที่จะมีทนายความเข้าร่วมการไต่สวน เพราะไม่ต้องการให้มารองรับกระบวนการที่ไม่เป็นธรรม ทั้งนี้ ศาลยังคงอนุญาตให้ฝากขังเรื่อยมา โดยให้เหตุผลว่า การสอบสวนยังไม่เสร็จ ทำให้จตุภัทร์ถูกขังในทัณฑสถานบำบัดพิเศษขอนแก่นมาแล้วเป็นเวลา 41 วัน โดยที่ไม่ได้ออกไปสอบตามกำหนดในวิชาสุดท้ายเพื่อจบปริญญาตรี