ประวิตรมั่นใจไม่มีทางเกิดรัฐประหาร ชี้ทหารอยู่ใต้การดูแลของรัฐบาล ด้าน 'วัชระ ปชป.' ชี้โอกาสได้ตลอดเวลา มองไทยน่าจะมีโอกาสที่จะเกิดการรัฐประหารได้เป็นอันดับหนึ่ง
2 ก.พ. 2560 จากกรณีเมื่อวันที่ 31 ม.ค.ที่ผ่านมา เว็บไซต์วอชิงตันโพสต์ รายงานบทวิเคราะห์เรื่อง “ประเทศใดที่จะมีความเป็นไปได้ที่จะเกิดการรัฐประหารขึ้นในปี 2560” ซึ่งปรากฏว่า ประเทศไทยติดอยู่อันดับ 2 ของการวิเคราะห์ในครั้งนี้ รองจากประเทศบุรุนดีที่มีความเสี่ยงที่จะเกิดการรัฐประหารมากที่สุดในโลก ขณะที่ อันดับ 3 คือสาธารณรัฐแอฟริกากลาง อันดับ 4 คือสาธารณรัฐชาด และอันดับ 5 คือตุรกี ส่วนประเทศที่มีความเสี่ยงที่เกิดจะเกิดความพยายามก่อรัฐประหารน้อยที่สุด คือนอร์เวย์ ตามด้วยฟินแลนด์ ญี่ปุ่น และสโลเวเนีย นั้น
แฟ้มภาพ ศูนย์ประชาสัมพันธ์กองทัพบก กองบัญชาการกองทัพบก
ล่าสุดวันนี้ พล.อ.เฉลิมชัย สิทธิสาท ผู้บัญชาการทหารบก (ผบ.ทบ.) และ เลขาคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) กล่าวถึงกรณีนี้ว่า แล้วสื่อเชื่อหรือไม่ ฝรั่งก็พูดไป คนไทยมีสมองรู้จักคิดเราอยู่ในพื้นที่เอง รู้ว่าอะไรเป็นอะไรและเรื่องดังกล่าวตนพูดไปแล้วเมื่อวันที่ 3 ต.ค. 2559 ในวันที่ มอบนโยบายให้กับกองทัพบกในช่วงที่รับตำแหน่งผู้บัญชาการทหารบกว่าไม่มี
พล.อ.เฉลิมชัย ยังกล่าวถึงคำสั่ง คสช. ที่ 1/2560 เรื่อง มอบอำนาจการอนุมัติให้เคลื่อนย้ายกำลังอาวุธ กระสุน วัตถุระเบิด และยุทธภัณฑ์ควบคุม มอบอำนาจให้เลขาธิการ คสช. มีอำนาจหน้าที่พิจารณาสั่งการโดยรับคำสั่ง หรือลงนามทำการแทน ว่า ในอดีตการเคลื่อนย้ายอาวุธ กระสุน หรือยุทธภัณฑ์ต่างๆ ต้องให้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้า คสช.เป็นผู้อนุมัติ คำสั่งที่ออกมาเป็นการลดขั้นตอนการทำงาน ลดเวลา และแบ่งเบาภาระของหัวหน้า คสช.
“เชื่อว่าหัวหน้า คสช.ไว้ใจผู้บัญชาการเหล่าทัพทุกคน แต่ในฐานะที่ผมมีหน้าที่รับผิดชอบโดยตรง ในฐานะเลขาธิการคสช.จึงได้รับมอบหมายให้ทำหน้าที่นี้” พล.อ.เฉลิมชัย กล่าว
ประวิตรมั่นใจไม่มีทางเกิด ชี้ทหารอยู่ใต้การดูแลของ รบ.
ขณะที่ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม กล่าวถึงกรณีนี้เช่นกันว่า เรื่องนี้ตนยืนยันและให้ความมั่นใจได้ว่าทหารไม่มีใครอยากทำการปฏิวัติรัฐประหาร นอกจากประเทศเดินหน้าต่อไปไม่ได้ แต่ถ้าเราปรองดองกันและทุกฝ่ายให้ความร่วมมือกันแล้ว การทำปฏิวัติรัฐประหารไม่มีทางเกิดขึ้นได้ อีกทั้งทหารก็อยู่ภายใต้การดูแลของรัฐบาล
ต่อกรณีคำถามว่าถ้าเราทำเรื่องปรองดองสำเร็จแล้วโอกาสในการเกิดปฏิวัติรัฐประหารก็จะไม่เกิดขึ้นใช่หรือไม่ นั้น พล.อ.ประวิตร กล่าวว่า โอกาสไม่เกิดการปฏิวัติรัฐประหารก็มีสูงมาก ถ้านักการเมืองทั้งหมดสามารถคุยกันได้ และสามารถดูแลประชาชนได้ ฝ่ายทหารก็อยู่ภายใต้นักการเมือง หากตกลงกันได้หมดแล้วไม่มีความขัดแย้งก็จะหาทางว่าจะอยู่ร่วมกันอย่างสันติอย่างไรต่อไป
สำหรับคำถามที่ว่าน รายงานบทวิเคราะห์เขียนเหมือนว่ารัฐบาลชุดนี้จะถูกล้มโดยการปฏิวัติรัฐประหารซ้อน นั้น พล.อ.ประวิตร กล่าวว่า ไม่มีเพราะทหารเป็นหนึ่งเดียว ยืนยันว่าไม่มีปฏิวัติรัฐประหารซ้อน รวมถึงรัฐบาลและ คสช. ก็เป็นหนึ่งเดียว เพราะพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคสช. ทำทุกอย่างเพื่อประเทศ ก็มีเพียงแต่สื่อมวลชนคิดเรื่องการปฏิวัติฯ อีกทั้งรายงานบทวิเคราะห์ของเว็บไซต์วอชิงตันโพสต์ก็เขียนไปแบบนั้นและทีมีคนเขียนหรือโพสต์ว่าจะฆ่าตน ทำไมสื่อมวลชนไม่มาสอบถามกันบ้าง
วัชระ ปชป. ชี้โอกาส รปห.ได้ตลอดเวลา
วัชระ เพชรทอง อดีต ส.ส. พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณีนี้เช่นกันว่า สำนักข่าววอชิงตันโพสต์น่าจะวิเคราะห์ผิด เพราะตนคิดว่าประเทศไทยน่าจะมีโอกาสที่จะเกิดการรัฐประหารได้เป็นอันดับหนึ่ง เพราะสามารถเกิดการรัฐประหารได้ตลอดเวลา ไปเรื่อยๆ จนกว่าจะมีคณะรัฐประหารชุดใหม่เข้ามาแทนที่คณะรัฐประหารชุดเดิม เพราะวัฏจักรในการรัฐประหารของประเทศไทยเป็นประเพณีที่สืบเนื่องกันมานับตั้งแต่มีการเปลี่ยนแปลงการปกครอง
วัชระ กล่าวอีกว่า เมื่ออยู่ในประเทศไทยก็ต้องทำใจว่าการรัฐประหารจะสลับกับการเลือกตั้งโดยระยะๆ เฉลี่ยแล้วจะเกิดการรัฐประหารขึ้นในระยะเวลาไม่เกิน 10 ปี โดยทหารแต่ละยุคนั้นจะมีพัฒนาการของการรัฐประหาร ถ้ารัฐบาลจากการเลือกตั้งเป็นภัยกับความมั่นคง มีการทุจริตอย่างใหญ่โต หรือเมื่อบ้านเมืองเดินมาถึงทางตัน ทหารก็จะออกมาทำรัฐประหาร ซึ่งตนเชื่อว่าการรัฐประหารของ พล.อ.ประยุทธ์ นายกฯและ หัวหน้า คสช. เมื่อวันที่ 22 พ.ค. 57 นั้นจะไม่ใช่ครั้งสุดท้ายของประเทศไทย
ที่มา : สำนักข่าวไทย กรุงเทพธุรกิจออนไลน์ 1 และ 2 ไทยโพสต์