ณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ แกนนำ นปช. ชี้ไทยกำลังสร้างโมเดลใหม่ที่ไม่เหมือนกระบวนการปรองดองที่ไหนในโลก นอกจากนี้ยังมีมาตรา 44 ที่สามารถล้มวงปรองดองได้ตลอดเวลา ระบุขณะนี้ยังไม่มีการติดต่อ นปช.ให้เข้าร่วมหารือ แต่พร้อมให้ความร่วมมือเมื่อได้รับการประสานงาน

 

เว็บไซต์แนวหน้า รายงานเมื่อวันที่ 10 ก.พ. 2560 ที่ผ่านมาว่านายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ แกนนำ นปช. กล่าวว่า เมื่อเห็นโครงสร้างคณะกรรมการและลำดับขั้นตอนการทำงานเรื่องการปรองดองแล้วได้ข้อสรุปว่า ประเทศไทยกำลังสร้างโมเดลใหม่ที่ไม่เหมือนกระบวนการปรองดองที่ไหนในโลก คือคณะรัฐประหารที่ถูกมองเป็นหนึ่งในคู่ขัดแย้งเป็นผู้ดำเนินการทั้งหมด ตั้งกรอบให้หารือกัน 10 ข้อ และตั้งแม่ทัพนายกองเป็นกรรมการทุกชุด ซึ่งเลี่ยงไม่ได้ที่จะเกิดข้อสังเกตว่าเพื่อกำกับทิศทางให้ได้ข้อสรุปตามที่ต้องการหรือไม่ นอกจากนี้ ยังมีมาตรา 44 ที่สามารถล้มวงปรองดองได้ตลอดเวลา ทั้งที่หลักสำคัญคือต้องเปิดกว้างและเป็นกลางให้ทุกฝ่ายยอมรับ อย่างไรก็ตาม นปช.พร้อมมองข้ามข้อจำกัดดังกล่าว แต่กำลังมองหาความจริงใจของแต่ละฝ่ายโดยเฉพาะจากผู้มีอำนาจว่า จะแสดงออกเป็นรูปธรรมอย่างไร เพราะแม้ว่าตัวแบบจะดูแปลกตาแต่ถ้ามีความจริงใจเป็นพื้นฐานก็เดินไปข้างหน้าได้ แต่ถ้าไม่ตั้งใจจริงอาจนำไปสู่บรรยากาศความขัดแย้งครั้งใหม่ เพราะกระบวนการที่วางไว้สะท้อนลักษณะทางอำนาจที่วางกรอบครอบทุกฝ่ายซึ่งจะมีปัญหาเรื่องการยอมรับ

 

นายณัฐวุฒิ กล่าวอีกว่า ขณะนี้ยังไม่มีการติดต่อ นปช.ให้เข้าร่วมหารือ แต่เราพร้อมให้ความร่วมมือเมื่อได้รับการประสานงาน สิ่งที่อยากฝากถึงรัฐบาลก่อนจะได้คุยกันก็คือ การตั้งโจทย์ภารกิจต้องสอดคล้องกับความเป็นจริง ถ้าคิดว่าจะทำทั้ง 10 ข้อให้สำเร็จก็ต้องยกเลิกโรดแมปแล้วอยู่ต่อไปเรื่อยๆ เพราะแต่ละเรื่องไม่ใช่จะหาข้อยุติโดยง่าย แต่ถ้าคิดจะสร้างบรรยากาศให้พร้อมสำหรับการคืนอำนาจ เฉพาะหน้าควรมุ่งเน้นการสร้างความปรองดองในมิติทางการเมือง ส่วนเรื่องอื่นๆ เป็นสัญญาประชาคมให้รัฐบาลชุดใหม่เดินหน้าต่อไป ทั้งนี้ ส่วนตัวไม่แน่ใจว่าปรองดองเที่ยวนี้จะเดินไปได้หรือไม่ แต่ถ้าจะล้มเพราะเดินไปข้างหน้า ก็ยังดีกว่าย่ำปัญหาอยู่กับที่ และถ้าล้มคราวนี้น่าจะเห็นกันชัด ๆ ว่าเพราะอะไร