โดนัลด์ ทรัมป์ เป็นผู้นำสหรัฐที่แสดงออกเหยียดเพศและถูกวิจารณ์มาตลอด แต่ล่าสุดรัฐบาลทรัมป์มีท่าทีส่งเสริมบทบาทสตรีมากขึ้น จากการลงนามร่างกฎหมาย 2 ฉบับ มุ่งส่งเสริมให้ผู้หญิงเข้าไปมีส่วนภาคงานวิทยาศาสตร์ งานนวัตกรรรม และส่งเสริมการเป็นผู้ประกอบการมากขึ้น

(แฟ้มภาพ) Mae Jemison นักบินอวกาศหญิง เชื้อสายแอฟริกัน-อเมริกัน คนแรกของสหรัฐอเมริกา ปฏิบัติงานอยู่ในอวกาศ 190 ชั่วโมง 30 นาที 23 วินาที โดยเดินทางไปกับยาน Endeavour ในเดือนกันยายน พ.ศ. 2535 (ที่มา: NASA/Wikipedia)

ร่างกฎหมาย 2 ฉบับดังกล่าวคือ กฎหมาย "สร้างแรงบันดาลใจให้กับผู้หญิงในการทำงานบุกเบิกอวกาศ เป็นนักนวัตกรรม นักวิจัย และนักสำรวจ" (INSPIRE Women Act) และกฎหมาย "ส่งเสริมผู้หญิงในงานเป็นผู้ประกอบการ" ซึ่งกฎหมายเหล่านี้ออกโดยผู้หญิงในรัฐสภาสหรัฐฯ

ซึ่งร่างกฎหมายฉบับแรกนั้นมุ่งส่งเสริมให้ผู้หญิงเข้าสู่วิชาชีพในด้านอวกาศ และพัฒนาวิทยาการอวกาศและการสำรวจอวกาศให้ไปไกลขึ้นผ่านโครงการริเริ่มหลายโครงการ ส่วนร่างกฎหมายฉบับที่ 2 เป็นบทบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมกฎหมายว่าด้วยโอกาสในการเข้าถึงงานวิทยาศาสตร์และวิศวกรรมที่มอบอำนาจให้มูลนิธิวิทยาศาสตร์แห่งชาติในการส่งเสริมโครงการผู้ประกอบการ ให้ผู้หญิงขยายผลจากงานห้องปฏิบัติการออกไปสู่โลกของธุรกิจมากขึ้น

จากการแถลงข่าวของทำเนียบขาวเมื่อวันที่ 28 ก.พ. ที่ผ่านมาระบุว่าจะมีการจัดโครงการริเริ่มเด็กชายและเด็กหญิงนาซา (NASA Boys and NASA Girls) โดยใช้โปรแกรมวิดีโอแช็ทจับคู่สอนระหว่างครูจากองค์การบริหารการบินและอวกาศแห่งชาติ หรือ นาซา กับนักเรียนเยาวชนทั่วประเทศ นอกจากน้ยังมีโครงการที่ชื่อ SISTER ที่อนุญาตให้นักเรียนหยิง 25 คน สำรวจเกี่ยวกับวิชาชีพกับวิศวกรรมหญิงที่ศูนย์การบินอวกาศก็อดเดิร์ดในแมรีแลนด์

ที่ผ่านมาในสหรัฐฯ มีการตั้งข้อสังเกตว่าสัดส่วนผู้หญิงที่มีโอกาสทำงานในสายวิทยาศาสตร์ (STEM) มีน้อยกว่าผู้ชาย โดยข้อมูลจากจากคำแถลงของทำเนียบขาวระบุว่าร่างกฎหมายใหม่ของพวกเขาต้องการส่งเสริมให้มูลนิธิวิทยาศาสตร์แห่งชาติแก้ไขปัญหาการที่มีผู้หญิงเพียงร้อยละ 26 อยู่ในสายงานวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี

สื่อวิทยาศาสตร์ Livescience ระบุว่าสาเหตุที่ทำให้ผู้หญิงไม่ค่อยได้เข้าไปทำงานในสายวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี มาจากทัศนคติเหยียดเพศในสังคม การที่ผู้หญิงถูกคาดหวังให้เรื่องครอบครัวต้องมาก่อน ไปจนถึงเรื่องการขาดผู้หญิงที่เป็นบุคคลตัวอย่าง ถึงแม้ว่าจะมีความก้าวหน้าในเรื่องนี้อยู่บ้าง แต่ข้อมูลการวิจัยเปิดเผยว่าผู้หญิงก็ยังไม่ได้รับการสนับสนุนให้ก้าวหน้าในหน้าที่การงานมากพอในสายงานด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี

บทความจากวารสารวิทยาศาสตร์ Nature เมื่อปี 2556 ระบุว่านักวิทยาศาสตร์หญิงเริ่มมีความก้าวหน้าในหน้าที่การงานมากขึ้นอย่างคงตัวในช่วงหลาสิบปีที่ผ่านมาแต่ก็ยังคงต้องเผชิญปัญหาเกี่ยวกับสายงานที่เธอทำ โดยที่มหาวิทยาลัยและวิทยาลัยของสหรัฐฯ มักจะจ้างนักวิทยาศาสตร์ชายมากกว่าหญิง และนักวิทยาศาสตร์ชายก็ได้รับค่าจ้างสูงกว่าในสายงานวิทยาศาสตร์

เรียบเรียงจาก

Women in STEM Fields Get Boost from President Trump, Livescience, 01-03-2017

Trump signs bills to promote women in scientific fields, CBC, 28-02-2017