อภิสิทธิ์ เตือนใช้อำนาจม.44 บ่อยคนเสพติด กลับสู่ภาวะปกติจะติดกับดัก

อภิสิทธิ์ ชี้คดีธัมมชโยเป็นเรื่องทางโลก ส่วนคำสอนเป็นหน้าที่ของทางสงฆ์ เตือนใช้ ม.44 ระวังติดอำนาจพิเศษ กลายเป็นกับดัก เผยประสบการณ์ตอนเป็นนายกฯ ก็เลิกยาก จนท.ไม่เห็นด้วย

ภาพ อภิสิทธิ์ ขณะให้กำลังใจประชาชนที่ประสบอุทกภัย ที่ อ.พะโต๊ะ - อ.หลังสวน -อ.ละแม จ.ชุมพร (10 มกราคม 2560) (ที่มาภาพ เฟซบุ๊กแฟนเพจ Abhisit Vejjajiva)

เมื่อวันที่ 2 มี.ค.ที่ผ่านมา สื่อหลายสำนักรายงานตรงกันว่า อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์และอดีตนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณีที่มีเสียงวิจารณ์ว่า คสช. ใช้มาตรา 44 ควบคุมพื้นที่วัดธรรมกาย แต่ยังทำอะไรไม่ค่อยได้ ว่า จริง ๆ เรื่องนี้ พอใช้อำนาจแบบนี้คนก็มีความคาดหวังสูง หลายๆ คนคิดว่าน่าจะจบ แต่เอาเข้าจริง ๆ ปัญหาอาจจะไม่ได้อยู่ที่ตัวกฎหมาย มันอยู่ที่หลายปัจจัยที่เกี่ยวข้องกับการทำงานของเจ้าหน้าที่ แล้วก็กรณีของธรรมกายก็เป็นกรณีที่ยากอยู่แล้ว สภาพพื้นที่ที่กว้าง การที่เราปล่อยปละละเลยกันมานานจนทำให้คนที่เป็นเป้าของการค้นการจับนั้นก็คงเตรียมการได้อย่างดี ในการที่จะรับมือ อีกทั้งยังมีลักษณะเป็นวัด มีพระ ก็เป็นเรื่องละเอียดอ่อนอีกนะครับ เพราะเห็นเจ้าหน้าที่เข้าแถวกับพระเข้าแถวเผชิญหน้ากันอยู่มันก็มีความอ่อนไหว ก็เห็นใจนะครับในการทำงาน แต่เพราะฉะนั้นก็อย่าได้แปลกใจเลยว่าเป็นอย่างไร 

ชี้คดีธัมมชโยเป็นเรื่องทางโลก ส่วนคำสอนเป็นหน้าที่ของทางสงฆ์

อภิสิทธิ์ กล่าวอีกว่า ที่จริงปฏิเสธไม่ได้ว่า ถ้าทุกคนยอมเข้าสู่กระบวนการยุติธรรม เรื่องก็จบตั้งแต่แรก ไม่มีประเด็นที่ต้องมาคุยกันเลย ทำอย่างไรเราจะเข้าใจตรงนี้เสียก่อน ตนก็เห็นทางเจ้าหน้าที่ผู้นำก็เรียกร้องอยู่ตลอดว่า ก็มอบตัว เรื่องก็จบ แต่ส่วนมวลชนผู้สนับสนุนที่มองว่าพระธัมมชโยไม่ผิดนั้น ต้องเรียนว่า ในส่วนของคนบังคับใช้กฎหมายก็ต้องทำไป แล้วจะใช้วิธีใดอะไรอย่างไรก็อธิบายในเชิงหลักกฎหมายไป แต่คนที่มีหน้าที่อธิบายในเรื่องว่า ความผิดเกิดจากอะไร เอากรณีของคดีเอาทางโลกก่อนนะ เกี่ยวกับทรัพย์สินเงินทองสหกรณ์อะไรต่างๆ ก็ต้องทำให้เกิดความเข้าใจว่าข้อเท็จจริงเป็นอย่างนี้ ซึ่งเป็นที่มาของหมายจับ หมายค้น มันไม่ใช่เรื่องจะมากลั่นแกล้งอะไรกับใคร แล้วก็สามารถที่จะไปต่อสู้คดี เรียกหาความเป็นธรรมกันได้ ส่วนที่จะไปเกี่ยวข้องกับเรื่องว่า มีปัญหาเรื่องพระพุทธศาสนา คำสอนอะไรต่าง ๆ อันนั้นก็ควรจะเป็นหน้าที่ของทางสงฆ์ ซึ่งก็จะต้องปกครองกันเองอะไรก็ว่ากันไป เพราะฉะนั้นถ้าเกิดเราแบ่งหน้าที่ แล้วก็ทำหน้าที่กันแบบนี้มันก็จะง่าย อย่าไปปนกัน 

เตือนใช้ ม.44 ระวังติดอำนาจพิเศษ

อภิสิทธิ์ กล่าวถึงการใช้มาตรา 44 ของ คสช. ว่าเป็นธรรมดาที่มาตรา 44 ดูเหมือนยาวิเศษ เพราะเป็นอำนาจเบ็ดเสร็จ ใช้แล้วก็ไม่สามารถที่จะโต้แย้งได้ แต่ตนไม่ค่อยอยากให้ใช้มากนัก ถึงแม้ว่าเราอาจจะไว้ใจคนที่ใช้อำนาจตัวนี้อยู่ แต่ทุกคนก็มีผิดมีพลาดได้ เพราะการใช้อำนาจแบบนี้ พอโต้แย้งไม่ได้ ก็จะมีประเด็นปัญหาที่ตามมาอีกทั้งตนเห็นว่าเห็นว่า ถ้าเราสามารถที่จะทำให้กฎหมายปกติดีขึ้นได้ เราก็จะได้วางรากฐานสำหรับอนาคตด้วย เพราะวันข้างหน้ายังไงก็ไม่มีมาตรานี้ ขอยกตัวอย่างเช่น การจัดซื้อจัดจ้าง เรื่องรถไฟ เขาก็บอกว่าต้องมาใช้มาตรา 44 ตนก็เสียดายว่า เราอุตส่าห์ทำกฎหมายจัดซื้อจัดจ้างฉบับใหม่ทั้งฉบับ ก็นึกว่าเป็นการปฏิรูป แต่ปรากฎว่าดูเหมือนมันต้องมีปัญหาแล้ว ที่ใช้กฎหมายนั้นไม่ได้ หรือรอใช้กฎหมายนั้นไม่ได้ ถึงต้องใช้วิธีนี้ 

เตือนระวังกับดัก เผยประสบการณ์ตอนเป็นนายกฯ ก็เลิกยาก จนท.ไม่เห็นด้วย

“การใช้อำนาจพิเศษนี้ คือคนจะติด คนที่พอใจก็ติด อยากได้อีก แล้วก็ถ้าใช้อำนาจอย่างนี้อยู่เรื่อยๆ เจ้าหน้าที่ก็มีความรู้สึกว่ามันง่ายดี เพราะว่ามันโต้แย้งไม่ได้ ไปฟ้องศาลปกครองก็ไม่ได้ อะไรก็ไม่ได้ เราเห็น เพราะฉะนั้นก็อยากจะเตือนว่า ถ้าใช้มากๆ บ่อยๆ เข้า ระวังว่าถึงเวลาสุดท้ายบ้านเมืองกลับเข้าสู่ภาวะปกติ เครื่องมือเครื่องไม้และความเข้าใจของสังคมในการแก้ปัญหาก็จะมาติดกับตัวนี้ การอาจกลายเป็นเงื่อนไข อย่างกรณีวัดพระธรรมกาย ที่ต้องอธิบายตลอดว่าทำไมต้องใช้ เนื่องจากเป็นสิ่งที่เขาคัดค้าน และรัฐก็ชูมาตรา 44 มาเป็นหลัก ทั้งที่ความจริงก็แปลกอยู่แล้วเพราะว่าสิ่งที่รัฐบาลพยายามทำไม่ใช่มีอะไรพิเศษ นอกจากบังคับใช้กฎหมาย” อภิสิทธิ์ กล่าว

อดีตนายกฯ กล่าวด้วยว่า สมัยตนเป็นนายกฯนั้นก็เริ่มต้นบอกว่าพยายามจะเลิก แล้วตนรู้เลยว่าเลิกยากเพราะเจ้าหน้าที่แทบจะไม่มีทางเห็นด้วยเลย เพราะว่าถ้ามีอำนาจอยู่มันก็ง่ายกว่าในการทำงานแต่ปัญหาการตรวจสอบ ปัญหาอะไรต่าง ๆ ความไม่ปกติมันก็ตามมา สุดท้ายก็เริ่มต้นเลิกไปได้อำเภอนึง แล้วก็หลังจากนั้นมาก็รู้สึกไม่ได้มีการเลิกอีกเลย แต่ผมก็เข้าใจว่าอำเภอนั้นก็ไม่ได้มีปัญหาอะไรหลังจากเลิกไปแล้ว ถ้าเทียบเคียงกับอำเภออื่นๆ 
 
"ต่อไปนี้แปลว่าเราบังคับใช้กฎหมายโดยใช้กฎหมายที่มีอยู่ไม่ได้ มันก็จะเป็นเรื่องแปลก ก็เห็นใจนะครับคนทำงานอยากได้ความรวดเร็วอะไรก็ว่าไป แต่ขอให้นึกถึงระบบ แล้วก็นึกถึงวันข้างหน้าด้วย จริงๆ รัฐบาลนี้ หรือนายกฯ หรือหัวหน้าคสช.ก็อยู่มาเกือบ 3 ปีเพราะฉะนั้นก็ไม่ใช่ว่ามันไม่มีเวลาในการทำอะไรต่างๆ หลายอย่าง แล้วก็ถ้าบอกว่าเหลือเวลาอีกประมาณสัก ปีกว่าๆ ไม่ลองมาพยายามคิดมาทำตรงนี้กันหรือ จะได้เตรียมสังคมเข้าสู่ความพร้อมที่จะกลับเข้าสู่ภาวะปกติต่อไป" อภิสิทธิ์ กล่าว 

 

ที่มา มติชนออนไลน์ กรุงเทพธุรกิจออนไลน์และไทยรัฐออนไลน์

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไทอัพเดท ได้ที่:
Facebook : https://www.facebook.com/prachatai
Twitter : https://twitter.com/prachatai
YouTube : https://www.youtube.com/prachatai
Prachatai Store Shop : https://prachataistore.net
ข่าวรอบวัน
สนับสนุนประชาไท 1,000 บาท รับร่มตาใส + เสื้อโปโล

ประชาไท