Skip to main content
sharethis

ทหาร ตำรวจ และปลัดอำเภอ ขอให้เลื่อนเสวนา 'วิพากษ์การเช่าที่ดิน 99 ปี' ออกไปก่อน จนท.มูลนิธิสืบฯ เผยทหารเข้าใจว่าจะจัดเสวนาหมุด ขณะที่ 'เดชรัต' ยันตนเองยังไม่เลื่อน รบ.แจง กม.เดิมไม่ใช่ร่างใหม่ ขณะที่ รมว.อุตฯ ปัดต่างชาติเช่าพื้นที่อีอีซี 99 ปี สัญญาครั้งแรกไม่เกิน 50 ปี

 

19 เม.ย. 2560 จากกรณีมูลนิธิสืบนาคะเสถียรเตรียมจัดงานเสวนา "วิพากษ์การเช่าที่ดิน 99 ปี ผลประโยชน์ของไทยหรือผลประโยชน์ของใคร?" ในวันที่ 23 เม.ย.นี้ โดยมีผู้เข้าร่วมวิพากษ์ เช่น เดชรัต สุขกำเนิด สมนึก จงมีวศิน เพ็ญโฉม แซ่ตั้ง และพรพนา ก๋วยเจริญ 

ล่าสุดวันนี้ (19 เม.ย.60) เมื่อเวลา 10.58 น. ที่ผ่านมา เดชรัต หนึ่งในรายชื่อผู้ร่วมงานดังกล่าว โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัวแจ้งว่า  ตอนนี้ถูกเลื่อนไปแล้ว

"เช้านี้ ผมได้รับแจ้งจากผู้จัดว่า ฝ่ายความมั่นคง ทั้งทหาร ตำรวจ และปลัดอำเภอ มาคุยที่มูลนิธิสืบ นาคะเสถียร ขอให้เลื่อนไปก่อน เพราะยังไม่ได้ออกมาเป็นกฎหมาย ขอให้ประชาชนใจเย็นๆ อยู่เฉยๆ ไปก่อนครับ"  เดชรัต ระบุ

เดชรัต ยังโพสต์ด้วยว่า ตนยังไม่เลื่อน ใครอยากฟังประเด็นนี้ ช่วยชี้แนะด้วย ว่าอยากฟังทางไหนดี หรือที่ไหนดีครับ วันอาทิตย์เวลาเดิม ตนจะคุยให้ฟัง

ขณะที่ วอยซ์ที่วี รายงานด้วยว่า อรยุพา สังขะมาน หัวหน้าฝ่ายวิชาการมูลนิธิสืบนาคะเสถียร ระบุกับ "วอยซ์ทีวี" ว่า เหตุที่ทหาร ตำรวจ ฝ่ายปกครอง เข้ามาที่มูลนิธิสืบนาคะเสถียรขอให้งดจัดเสวนาวิชาการ "วิพากษ์การเช่าที่ดิน 99 ปี ผลประโยชน์ของไทยหรือผลประโยชน์ของใคร?" เพราะทางทหารได้รับข้อมูลมาที่ส่งต่อผ่านแอพลิเคชั่นไลน์ ซึ่งเขียนแค่ว่า จะจัดเสวนาหมุด ทำให้เข้าใจว่าจะจัดเสวนาเรื่องหมุดคณะราษฎร ทั้งที่มูลนิธิสืบนาคะเสถียรไม่ได้จัดเสวนาในประเด็นหมุดคณะราษฎร แต่ทางทหารก็มองว่าแม้จะพูดเรื่องเช่าที่ดินก็ตาม แต่ยังเป็นประเด็นที่มีความอ่อนไหวอยู่ เพราะเห็นความเคลื่อนไหวในโซเชียลมีเดียวแล้วจะมีคนมาฟังเสวนาจำนวนมาก ซึ่งจะกลายเป็นกลุ่มที่มวลชนรวมตัวกันได้ ซึ่งล่าสุดที่ประชุมคณะกรรมการมูลนิธิสืบนาคะเสถียร มีมติให้เลื่อนการจัดเสวนาวิชาการ เช่าที่ดิน 99 ปีในวันที่ 23 เม.ย. นี้ออกไปก่อน

"เขาตีความข้อความทางไลน์ ว่าจะจัดเสวนาเรื่องหมุดที่มูลนิธิสืบฯ ชื่องานเสวนาก็ยังไม่มี เขาคงเข้าใจผิด" หัวหน้าฝ่ายวิชาการมูลนิธิสืบนาคะเสถียร ระบุ

รบ.ยันต่างชาติเช่าที่ดิน 99 ปี กม.เดิมไม่ใช่ร่างใหม่

ขณะที่วานนี้ (18 เม.ย.60) สำนักข่าวไทย รายงานว่า กอบศักดิ์ ภูตระกูล ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า พ.ร.บ.ระเบียงเศรษฐกิจภาคตะวันออก เป็นร่าง พ.ร.บ.เขตพัฒนาพิเศษระเบียงเศรษฐกิจภาคตะวันออก (อีอีซี) ดึงดูดนักลงทุนต่างชาติเข้ามาลงทุน ด้วยการเช่าที่ดินระยะยาวเป็นเวลา 50 ปี และขยายเวลาอีก 49 ปี รวมเป็นเวลา 99 ปี  ไม่ใช่เป็นการให้สิทธิพิเศษใหม่เพิ่ม แต่เพื่อนำมาเขียนในร่าง พ.ร.บ.อีอีซีให้นักลงทุนทราบอย่างชัดเจน เนื่องจากการเช่าระยะยาวดังกล่าวระบุไว้ในกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ปี 2542 มาตรา 540 กำหนดว่าให้นักลงทุนต่างชาติเช่าที่ดินระยะยาวใช้ประโยชน์เชิงพาณิชย์และอุตสาหกรรมมากกว่า 50 ปีช่วงแรกและขยายเวลาได้อีก 49 ปี โดยจดทะเบียนกับเจ้าหน้าที่อย่างถูกต้อง ทั้งนี้ เพื่อต้องการสร้างความมั่นใจกับภาคเอกชน

รมว.อุตฯ ปัดต่างชาติเช่าพื้นที่อีอีซี 99 ปี สัญญาครั้งแรกไม่เกิน 50 ปี

ขณะที่ อุตตม สาวนายน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม เปิดเผยกรณีมีข่าวว่านักลงทุนต่างชาติสามารถเช่าพื้นที่ในเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (อีอีซี) เป็นเวลา 99 ปี ว่า น่าจะเป็นความเข้าใจที่คลาดเคลื่อน เนื่องจากการให้สิทธิประโยชน์นักลงทุนที่เข้ามาลงทุนในพื้นที่อีอีซีจะเป็นไปตามหลักเกณฑ์ที่คณะกรรมการนโยบายพื้นที่เขตเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออกกำหนด ประกอบด้วย 1.ต้องเป็นพื้นที่ในเขตพัฒนาเศรษฐกิจภาคตะวันออก 3 จังหวัด ได้แก่ ฉะเชิงเทรา ชลบุรี และระยอง  2.ต้องเป็นโครงการที่สนับสนุน 10 กลุ่มอุตสาหกรรมเป้าหมายในพื้นที่ 3.ทุกโครงการต้องมีการศึกษาความเป็นไปได้ เช่น ประโยชน์ที่จะได้รับจากโครงการ ผลกระทบที่เกิดกับชุมชน และการแนวทางการเยียวยา และ 4.ก่อนการอนุมัติโครงการต้องมีการเปิดรับฟังความคิดเห็นของประชาชน รวมถึงมีการเปิดเผยผลการศึกษา และร่างผังของเขตส่งเสริมที่จะขอรับการสนับสนุน

“ขอเรียนชี้แจงถึงกำหนดระยะเวลาในการใช้สิทธิประโยชน์ของการเช่าที่ดินในเขตพื้นที่อีอีซี ไม่ใช่ 99 ปี แต่สัญญาครั้งแรกไม่เกิน 50 ปี และขยายได้ตามความตกลงอีกไม่เกิน 49 ปี เหมือนกับเขตเศรษฐกิจพิเศษชายแดนและเป็นไปตามกฎหมายที่ปฏิบัติปัจจุบัน ซึ่งการให้สิทธิประโยชน์ดังกล่าวเป็นไปตาม พ.ร.บ.การเช่าอสังหาริมทรัพย์และการพาณิชย์ พ.ศ.2542 ซึ่งการให้สิทธิเช่าที่ดินระยะยาวเป็นสิ่งที่หลายประเทศดำเนินการเป็นปกติ 50 ปี สามารถขยายได้ 49 ปี เช่น ประเทศมาเลเซียให้เช่าที่ดินได้ 60 ปี ขยายรวมได้ไม่เกิน 99 ปี แต่การให้ระยะเวลานานเท่าใดขึ้นอยู่แต่ละผลการศึกษาของแต่ละโครงการควรจะได้เท่าใด จึงจะเหมาะสม” อุตตม กล่าว 

 

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net