Skip to main content
sharethis

ประธาน 'รักษ์เชียงของ' ถูกทหารมทบ.37 เชิญตัวเข้าคุยกับกรมเจ้าท่าภูมิภาคเชียงราย ฝ่ายความมั่นคง ระบุเพื่อทำความเข้าใจและแลกเปลี่ยนข้อมูล จากเหตุค้านการสำรวจแม่น้ำโขงของจีน ด้านโฆษกรัฐบาล ยันยังไม่เริ่มแผนพัฒนาเดินเรือในแม่น้ำล้านช้าง-แม่น้ำโขง

ที่มาภาพ เฟซบุ๊ก Niwat Roykaew 

เมื่อวันที่ 25 เม.ย.ที่ผ่านมา ศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชน รายงานว่า พ.อ.จรัส ปัญญาดี รองผู้บัญชาการมณฑลทหารบกที่ 37 จังหวัดเชียงราย ได้ประสานนัดหมายกับ นิวัฒน์ ร้อยแก้ว หรือ “ครูตี๋” ประธานกลุ่มรักษ์เชียงของ เข้าพูดคุย ร่วมกับเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง กรมเจ้าท่าภูมิภาคเชียงราย และฝ่ายความมั่นคง ที่ร้านกาแฟจอมพล อ.เมือง จ.เชียงราย ในเวลาประมาณ 10.00 น. โดยระบุว่าเป็นการพูดคุยเรื่องการคัดค้านของกลุ่มรักษ์เชียงของต่อการสำรวจแม่น้ำโขง เพื่อทำเส้นทางเดินเรือขนส่งสินค้าของประเทศจีน

นิวัฒน์ ประธานกลุ่มรักษ์เชียงของ ได้ชี้แจงกับเจ้าหน้าที่ว่าการเคลื่อนไหวของกลุ่มเป็นการแสดงออกถึงความไม่เห็นด้วยอย่างสงบ เพราะเห็นว่าการสำรวจแม่น้ำโขงเพื่อออกแบบการระเบิดแก่ง-ปรับปรุงร่องน้ำให้เรือใหญ่เดินทางผ่านได้ถึงหลวงพระบาง ในขณะที่คุณค่าทางธรรมชาติของแม่น้ำโขงบริเวณพรมแดนกลับไม่ได้รับการศึกษาถึงคุณค่าทางเศรษฐศาสตร์นิเวศ และผลกระทบจากการระเบิดแก่งตอนบนในจีน ลาว และพม่า เหนือสามเหลี่ยมทองคำ ซึ่งล้วนจำเป็นต้องศึกษาเพื่อทบทวนความเสียหายที่เกิดขึ้นตลอด 15 ปีที่ผ่านมา

นิวัฒน์ ยังระบุว่าการจัดทำโครงการในขณะนี้ ไม่มีขั้นตอนการศึกษาถึงผลกระทบและผลเสียต่อประเทศอย่างรอบด้าน ข้อมูลการสำรวจผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อมยังไม่ชัดเจน และขาดการมีส่วนร่วมจากภาคประชาชน สุดท้ายยืนยันว่าไม่เกี่ยวข้องกับเรื่องการเมืองและไม่มีกลุ่มทุนใดมาหนุนหลัง

ทางฝ่ายความมั่นคงกล่าวถึงการเรียกพูดคุยว่าเนื่องจากเกรงว่าจะมีการคัดค้านโดยก่อเหตุรุนแรงกับเรือจากประเทศจีนที่กำลังทำการสำรวจ จึงอยากพูดคุยเพื่อทำความเข้าใจทุกๆ ฝ่าย รวมทั้งพยายามสอบถามว่าทางกลุ่มรักษ์เชียงของจะมีการเคลื่อนไหวอย่างไรต่อไป การพูดคุยใช้เวลาประมาณ 30 นาที โดยทหารระบุว่าจะมีการรายงานผลต่อแม่ทัพภาคที่ 3 ต่อไป

ทั้งนี้ โครงการสำรวจแก่งน้ำโขงและการเคลื่อนไหวคัดค้านของชาวบ้านในพื้นที่จังหวัดเชียงราย เป็นผลมาจากเมื่อวันที่ 27 ธ.ค. 2559 คณะรัฐมนตรีได้มีมติให้ความเห็นชอบแผนพัฒนาการเดินเรือระหว่างประเทศในแม่น้ำล้านช้าง–แม่น้ำโขง ค.ศ. 2015 – 2025 เพื่อใช้เป็นกรอบแนวทางในการพัฒนาการขนส่งทางน้ำระหว่างประเทศในแม่น้ำล้านช้าง–แม่น้ำโขง และการดำเนินงานเบื้องต้น โดยเรือสำรวจของจีนจะเริ่มเข้าสำรวจภาคสนามบริเวณพรมแดนไทย-ลาว มีกำหนดระยะเวลาดำเนิน 55 วัน

ตั้งแต่ วันที่ 19 เม.ย. 60 เรือสำรวจภาคสนามของจีน จำนวน 6 ลำ เป็นเรือบรรทุกขนาดใหญ่ และเรือเล็ก แบบเรือสำรวจภาคสนามอีก 3 ลำ ได้เริ่มเข้าเทียบท่าเรือเชียงแสน 1 ในเขตเทศบาลตำบลเวียงเชียงแสน อ.เชียงแสน ทำให้ทางเครือข่ายประชาชนไทย 8 จังหวัดลุ่มน้ำโขง ได้ออกแถลงการณ์คัดค้านการสำรวจระเบิดแก่งแม่น้ำโขงของเรือจีน เพราะเห็นว่าไทยไม่ได้ประโยชน์อะไร เป็นการทำลายระบบนิเวศที่สำคัญของโลก และทรัพยากรข้ามพรมแดนที่ใช้ร่วมกันระหว่างประเทศ

ส่วนทางกลุ่มรักษ์เชียงของ ได้ทำหนังสือถึงอธิบดีกรมเจ้าท่า และผู้อำนวยการสำนักงานเจ้าท่าภูมิภาค สาขาเชียงราย เพื่อขอให้ระงับการอนุญาตให้สำรวจพื้นที่เพื่อระเบิดเกาะแก่งแม่น้ำโขง พร้อมให้จัดส่งเอกสารหลักฐานเกี่ยวกับการสำรวจทั้งหมดให้แก่ทางกลุ่มฯ ภายใน 15 วัน

รายงานข่าวยังระบุด้วยว่า เมื่อวันที่ 23 เม.ย. ที่ผ่านมา นิวัฒน์ ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่เรือสำรวจของจีนได้เริ่มต้นทำการสำรวจแม่น้ำโขงตั้งแต่อำเภอเชียงแสนไปถึงอำเภอเวียงแก่น และเป็นจุดเริ่มต้นของโครงการระเบิดเกาะแก่งในแม่น้ำโขง ว่าขณะนี้ชาวบ้านได้ติดตามดูเรื่องนี้อย่างใกล้ชิด แต่ไม่แน่ใจว่าเรือสำรวจจีนจะมาถึงคอนผีหลงในพื้นที่อำเภอเชียงของเมื่อใด แต่ชาวบ้านได้ประชุมร่วมกันแล้วว่าจะมีการทำกิจกรรมเพื่อคัดค้านโครงการที่เกิดขึ้น ทั้งที่จุดคอนผีหลงและแก่งผาได 

โฆษกรัฐบาล ยันยังไม่เริ่มแผนพัฒนาเดินเรือในแม่น้ำล้านช้าง-แม่น้ำโขง

ขณะที่วันเดียวกัน (25 เม.ย.60) สำนักข่าวไทย รายงานคำชี้แจงจากรัฐบาล โดย พล.ท.สรรเสริญ แก้วกำเนิด โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แถลงผลการประชุมคณะรัฐมนตรีว่า โครงการเกี่ยวกับแผนพัฒนาเดินเรือระหว่างประเทศในแม่น้ำล้านช้าง-แม่น้ำโขง ปี 2015-2025 ซึ่ง ครม.มีมติเห็นชอบแผนพัฒนาเดินเรือดังกล่าว ในเดือนธ.ค. 2559 โดยให้กรมเจ้าท่าเป็นผู้ติดต่อประสานงาน ซึ่งภายหลังมีกลุ่มอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติรวมตัวยื่นคัดค้านและให้ยกเลิกการดำเนินการตามแผนดังกล่าว เนื่องจากกลัวว่าจะมีการไประเบิดแก่ง หรือไปปรับปรุงเส้นทางน้ำจนเสียสภาพจากธรรมชาติ และเกิดผลกระทบในทางหนึ่งทางใดกับผู้ที่อยู่อาศัยในบริเวณโดยรอบ โดยเฉพาะในขณะนี้มีเรือขนาดใหญ่จากสาธารณรัฐประชาชนจีน ได้ติดต่อกับกรมเจ้าท่า เพื่อขอเข้ามาสำรวจลำน้ำโขง

"นายกรัฐมนตรีมีความเป็นห่วงว่า กลุ่มที่คัดค้านเรื่องดังกล่าว จะเข้าใจว่ารัฐบาลกำลังดำเนินการ ดังนั้นขอยืนยันว่าขณะนี้อยู่ในขั้นตอนการสำรวจศึกษาความเป็นไปได้ และศึกษาผลดีและผลเสียว่าจะเป็นอย่างไร ซึ่งอยากให้ทุกคนเปิดใจรับฟังผลจากการศึกษา ว่าจะส่งผลกระทบต่อประชาชนอย่างไรหรือไม่ และไม่ได้หมายความว่ารัฐบาลตกลงจะปรับปรุงหรือระเบิดเกาะแก่งใด ซึ่งเมื่อศึกษาแล้วจะต้องดำเนินการตามขั้นตอน แล้วสุดท้ายจะต้องผ่านการรับฟังความคิดเห็นจากประชาชน และออกมาเป็นมติของคณะรัฐมนตรีว่าจะดำเนินการ จึงจะมีผลในทางปฏิบัติ วันนี้จึง เป็นเพียงการเดินเรือของประเทศจีนที่เข้ามาดำเนินการตามแผนที่ตกลงกันไว้" พล.ท.สรรเสริญ กล่าว -

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net