พล.อ.ประยุทธ์ เผยที่ประชุม กก.พิจารณาการจัดทำงบประมาณในลักษณะบูรณาการเชิงยุทธศาสตร์แผนงานบูรณาการเสริมสร้างความเข้มแข็งและยั่งยืนให้กับเศรษฐกิจภายในประเทศ เห็นชอบในหลักการของงบประมาณประจำปี 2561 เพิ่มเติม ในวงเงิน 190,000 ล้านบาท
ที่มาภาพ เว็บไซต์ทำเนียบรัฐบาล
8 พ.ค. 2560 รายงานข่าวระบุว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) กล่าวภายหลังเป็นประธานการประชุมคณะกรรมการพิจารณาการจัดทำงบประมาณในลักษณะบูรณาการเชิงยุทธศาสตร์แผนงานบูรณาการเสริมสร้างความเข้มแข็งและยั่งยืนให้กับเศรษฐกิจภายในประเทศ ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2561 ครั้งที่ 1/2560 ว่า ที่ประชุมได้เห็นชอบในหลักการของงบประมาณประจำปี 2561 เพิ่มเติม ในวงเงิน 190,000 ล้านบาท ซึ่งถือเป็นการจัดงบประมาณในลักษณะดังกล่าวของรัฐบาลเป็นครั้งแรกที่มาจากการรับฟังความเห็น ทั้งในส่วนของคณะกรรมการ ส่วนราชการ และประชาชน ซึ่งหลังจากนี้คณะกรรมการทั้ง 6 ภาคจะหารือกับสำนักงบประมาณ และสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ เพื่อให้การดำเนินโครงการต่าง ๆ เป็นไปตามไปแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติฉบับที่ 12 และยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี โดยการจัดลำดับความสำคัญของแต่ละโครงการ จะแบ่งเป็น 3 ระยะ คือ ระยะสั้นต้องเห็นผลสัมฤทธิ์ภายใน 1 ปี ส่วนระยะกลางต้องเห็นผลภายใน 2 ปี และระยะยาว ต้องเห็นผลภายในคือ 3 ปีขึ้นไป
ทั้งนี้ทั้งนั้นต้องจัดทำให้เร็วที่สุด ซึ่งขึ้นอยู่กับการบริหารจัดการของทุกส่วนราชการที่เกี่ยวข้องด้วย สิ่งสำคัญคือ งบประมาณค่อนข้างมากอาจมีความกังวลเรื่องมีการทุจริตเกิดขึ้น ซึ่งรัฐบาลมีแนวทางป้องกันโดยมีคณะกรรมการ เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องคอยติดตามการทำงานในทุกภาคส่วนอย่างใกล้ชิด และสิ่งที่รัฐบาลใช้จ่ายไปแล้วนั้นต้องก่อให้เกิดผลประโยชน์สูงสุด จึงขอให้ทุกภาคส่วนได้ร่วมมือกันเพื่อให้เกิดผลสัมฤทธิ์ต่อประชาชน ทั้งนี้แผนงานบูรณาการเสริมสร้างความเข้มแข็งและยั่งยืนให้กับเศรษฐกิจภายในประเทศ แบ่งเป็น 6 ภาคด้วยกัน ภาคกลาง ภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคตะวันออก ภาคใต้ ภาคใต้ชายแดน โดยกระทรวงมหาดไทยเป็นผู้รับผิดชอบร่วมกับกระทรวงต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องในรูปแบบคณะทำงานครอบคลุมทั้ง 6 ภาค
“จะมีคณะกรรมการติดตามการดำเนินโครงการในทุกพื้นที่ เพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุด และตรวจสอบเรื่องการทุจริต พร้อมกันนี้ในงบประมาณปี 61 จะมีการปรับลดงานฟังค์ชั่น และจะไปให้ความสำคัญกับงบฯ บูรณาการ ทั้งในระดับกระทรวง กลุ่มจังหวัด และระดับภูมิภาคทั้ง 6 ภูมิภาค ส่วนงบฯ ที่ยังไม่สามารถเบิกจ่ายได้ในหลายกระทรวง หรืองบฯ ค้างท่อ จะนำมารวบรวมและปรับใช้ในงบฯ เพิ่มเติมปี 61 และอีกส่วนไว้สำหรับการบรรเทาความเดือดร้อนของประชาชน หากเกิดความเดือดร้อนที่ไม่สามารถคาดการณ์ได้” พล.อ.ประยุทธ์ กล่าว
พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวอีกว่า ตนยังมีความกังวลที่ฤดูฝนในปีนี้ ค่อนข้างมาเร็วกว่าปกติ จึงได้กำชับให้การบริหารจัดการน้ำ ทั้งในส่วนของน้ำประปา น้ำบาดาล ที่กักเก็บน้ำ พร้อมประสานองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นให้ดูแล และเตรียมความพร้อมเพื่อรับมือสถานการณ์น้ำ
“ขอให้ทุกคนร่วมเป็นกำลังใจ และร่วมกันขับเคลื่อนให้งานต่าง ๆ สำเร็จลุล่วง ตามเป้าหมายที่วางไว้ ขอให้มีความเชื่อมั่นซึ่งกันและกัน เพราะทุกโครงการ แม้รัฐบาลจะเป็นผู้ริเริ่ม และมีหน่วยงานราชการเป็นผู้ปฏิบัติ แต่จำเป็นที่ประชาชนจะต้องมีส่วนร่วม” พล.อ.ประยุทธ์ กล่าว