เปิด 'อบรมข้าราชการที่ดี' สาธารณสุขเขต 5 หมอใหม่โวย ถูกดูหมิ่นศักดิ์ศรี-เหมือนฝึกทหาร

แพทย์ ทันตแพทย์ และเภสัชกรจบใหม่ สาธารณสุขเขต 5 เข้ารับการอบรมการเป็นข้าราชการที่ดี ที่โรงเรียน จปร เผยฝึกเหมือนทหาร พร้อมคุยกับผู้เข้าอบรม ชี้แม้ครูฝึกไม่ได้รุนแรงทางกาย แต่คำพูดและทัศนคติของเขาแย่มาก โวยดูถูกตั้งแต่นาทีแรก

 

เมื่อวันที่ 25 พ.ค. ที่ผ่านมา ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เฟซบุ๊กแฟนเพจ ‘Drama-addict’ เผยแพร่ข้อมูล ค่ายอบรมกลุ่มวิชาชีพสาธารณสุขใหม่ให้เป็นข้าราชการที่ดี โดยเป็นการร้องเรียนมายังเพจดังกล่าวว่า กลุ่มวิชาชีพสาธารณสุขถูกจับไปฝึกที่ ค่าย จปร. แบบบังคับ พร้อมยึดมือถือ บังคับให้ยืนกลางแดด ตากฝน กระโดดข้ามกองไฟ ปาประทัดใส่ และบอกด้วยว่า ถ้าไม่ทำจะไม่ได้ใบเพิ่มพูนทักษะ โดยมีรายละเอียดดังนี้

 

ที่มา : เฟซบุ๊กแฟนเพจ ‘Drama-addict

ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า เป็นปัญหาเขต 5 ของการแบ่งเขตตามกระทรวงสาธารณสุข ประกอบด้วยจังหวัด สุพรรณบุรี กาญจนบุรี สมุทรสาคร สมุทรสงคราม ประจวบคีรีขันธ์ เพชรบุรี ราชบุรี และนครปฐม และมีการเปิดเผยด้วยว่าในการฝึกอบรมการเป็นข้าราชการที่ดีดังกล่าว มีการพูดจาของทหารที่ดูถูกเหยียดหยาม นอกจากนี้ยังมีเรื่องของการบังคับ ตีกรอบที่มากเกินไป อาทิ การห้ามใช้โทรศัพท์มือถือ ขณะทำกิจกรรมเข้าป่า ฯลฯ

ด้านเพจ Infectious ง่ายนิดเดียว โพสต์ข้อมูลเพิ่มเติมด้วยว่า มีการดูถูกวิชาชีพสาธารณสุขจากการฝึกทหาร และ ปัญหาความล่าช้าของการจัดการ และความปลอดภัยมีน้อย เนื่องจาก การนำแพทย์เข้าป่า โดยไม่มีทีมแพทย์คอยรักษา เมื่อมีอุบัติเหตุเกิดขึ้น อาจไม่สามารถแก้ไขสถานการณ์ได้ 

ที่มา : เพจ Infectious ง่ายนิดเดียว 

กระแสดังกล่าวได้รับความสนใจในโซเชียลเน็ตเวิร์กจำนวนมา นอกจากในเฟซบุ๊กแล้ว ผู้สื่อข่าวสืบค้นแฮชแท็ก #อบรมข้าราชการที่ดี ติดเทรนด์อันดับหนึ่งในทวิตเตอร์ ช่วงเวลาประมาณ 19.00 น. วานนี้(25 พ.ค.60)ด้วย โดยมีผู้ใช้ทวิตเตอร์แสดงความคิดวิพากษ์วิจารณ์เหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เช่น ระบุว่า มีการใช้ลายพรางเสมือนการฝึกทหาร และ เดินป่าตั้งแต่เวลา 16.30 จนถึง 22.00 และไม่มีความปลอดภัย โดยเกิดสถานการณ์ว่า มีการใช้น้ำมันราดบนเส้นเล็กๆ บนถนนดิน แล้วจุดไฟ จากนั้นผู้เข้าอบรมวิ่งผ่านพร้อมจุดประทัด บางส่วนแสดงความคิดเห็นว่า “นี่ไม่ใช่การฝึก แต่เป็นการทารุณกรรม”  หรือการโพสต์ลงทวิตเตอร์แสดงความคิดเห็นการอบรมว่า “ไทยแลนด์ 4.0 แต่อบรมข้าราชการแบบ 0.1” 

 

ผู้สื่อข่าวได้สืบค้นข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับวัตถุประสงค์ของการอบรมข้าราชการที่ดี ใน เว็บไซต์ระบบลงทะเบียนกลาง สำนักงาน ก.พ. ระบุ ว่าเพื่อปลูกฝังปรัชญาการเป็นข้าราชการที่ดี เสริมสร้างสมรรถนะและทักษะที่จำเป็นสำหรับการปฏิบัติงานราชการ ส่งเสริมคุณธรรมและจริยธรรม การทำงานเป็นทีม และพัฒนาเครือข่ายในการทำงาน รวมถึงเป็นการสร้างสายสัมพันธ์ที่ดีแลกเปลี่ยนความคิดเห็นซึ่งกันและกัน โดยเน้นการเรียนรู้จากประสบการณ์และการลงมือปฏิบัติจริง

ชี้ครูฝึกไม่ได้รุนแรงทางกาย แต่คำพูดและทัศนคติของเขาแย่มาก เผยดูถูกตั้งแต่นาทีแรก

แพทย์อินเทิร์น ผู้เข้าร่วมการอบรม แพทย์เพิ่มพุนทักษะ รายหนึ่ง เปิดเผยประสบการณ์ดังกล่าวกับประชาไทว่า อบรมข้าราชการที่ดีมีทั้งหมด 7 วัน โดยในสองวันแรกเป็นการฝึกในโรงเรียนนายร้อย จปร. และอีก 5 วันให้หลังเป็นการฟังบรรยายที่โรงแรมศรีอู่ทองแกรนด์ จังหวัดสุพรรณบุรี 

แพทย์อินเทิร์นกล่าวว่า กำหนดการอบรมข้าราชการที่ดี จะเห็นได้ว่า กำหนดการค่อนข้างกว้างมาก ไม่ได้ระบุกิจกรรมที่แน่ชัด ว่าต้องทำอะไรอย่างไรบ้าง

แพทย์อินเทิร์น กล่าวเพิ่มเติมอีกว่า ครูฝึกพาพวกเราไปลานโล่งๆ ให้ป่าก่อน ให้พวกเราวิ่งโดดข้ามไฟพร้อมปาประทัดใส่ไปด้วยแบบในคลิปที่จ่าพิชิต (เพจ Drama-addict ) แชร์ก่อน พอถึงลานให้สอนสัญญาณมือของทหารว่าอะไรให้หยุดให้เดิน สอนเราหมอบคลาน และนอนหงายคลาน ซึ่งเพื่อนหลายคนถลอกปอกเปิกมาก เนื่องจากใส่เสื้อแขนสั้น ไม่มีปลอกแขนเพราะ ไม่มีใครเตือนว่าต้องมาทำอะไรแบบนี้ เมื่อฝึกเสร็จ เขาก็จับคู่ 12 กลุ่ม เหลือ 6 กลุ่ม แล้วก็ปล่อยเดินป่าทีละกลุ่ม เว้นช่วงห่างกันกลุ่มละ 30 นาที เราเป็นกลุ่มที่ 5 กว่าจะได้ออกก็ 18.30 น.  ฟ้าเริ่มมืด โดยแต่ละกลุ่ม ที่กลายเป็นกลุ่มละ 50 คน มีไฟฉายเพียง 2 กระบอกเท่านั้น

แพทย์ผู้เข้าอบรม กล่าวอีกว่า หลังจากเข้าไปในป่า ระยะทาง 8 กิโลเมตร มีฐานให้เล่นอยู่แปดฐาน จำพวกมุดท่อ หมอบคลานต่ำ ปีนกำแพงเชือก ข้ามลำธาร โดย  8 กิโลเมตร ฟังเหมือนไม่ไกล แต่ระยะทางมีทั้งขึ้นเขา ลงเนิน มืดมาก ไฟฉาย 2 กระบอกส่องนำทางและส่องท้ายอย่างละกระบอก ให้แน่ใจว่าไม่มีคนหลง และเวลานั้นไม่มีครูฝึกเดินอยู่ขบวนพวกเราเลย เขาประจำอยู่แค่ตามฐานและปล่อยพวกเราไปเอง ซึ่งกลุ่มสุดท้ายได้ออกจากป่าตอน 23.30 น. ระหว่างเดินป่าฝนตกอยู่เกือบชั่วโมง โดยฝนตกแรงสลับเบา

นอกจากนี้บางฐานกิจกรรมเขาไม่ให้เล่นเพราะอันตราย แต่ยังให้พวกเราเดินป่ากันต่อ ซึ่งครูฝึกไม่มีชุดปฐมพยาบาลติดตัวเลย ทางที่เดินพวกรถหรือฮอเข้าไม่ได้ ถ้าเป็นไรขึ้นมาคงไม่มีใครช่วยได้เลยจริงๆ

แพทย์อินเทิร์นได้เล่าต่อว่า พวกครูฝึกไม่ได้ใช้ความรุนแรงทางร่างกาย แต่คำพูดและทัศนคติของเขาแย่มาก เขาดูถูกพวกเราตั้งแต่นาทีแรกที่ก้าวเข้ามา พวกเราเดินลงจากรถกันช้า หัวหน้าครูฝึกเลยเป่านกหวีดเรียกไปยืนกลางแดด แล้วบอกว่า “พวกเราไม่มีความรับผิดชอบ เรียกแค่นี้ยังไม่มา ถ้าในชีวิตจริงป่านนี้คนไข้ตายไปแล้ว” ตรรกะที่ไม่สมเหตุสมผลมาก แล้วยังพูดต่อว่าพวกเราเป็นหมอเห็นแก่เงิน จ้องแต่จะเอาเวลาราชการไปเปิดคลินิกยังมีตามมาหลังจากนั้นอีกมาก เช่น “เป็นหมองานสบายเงินดีเป็นแสน ทำงานวันๆอยู่แต่ในห้องแอร์ เป็นลูกคุณหนูทนลำบากไม่เป็น”

แพทย์ผู้เข้าอบรม กล่าวว่า คุณรู้มั้ย เงินเดือนหมอจริงๆ แล้วแค่ 18,750 บาท เท่านั้น เราได้ค่าไม่ทำเอกชนเพิ่มอีกเดือนละหมื่น ค่าเวรโดยอัตราแล้วแต่โรงพยาบาลอีกนิดหน่อย ซึ่งรวมๆแล้ว เงินเดือนเราแค่ 30000-40,000 บาท เท่านั้น และโรงพยาบาลรัฐไม่ติดแอร์ แต่เราก็เดินราวน์ดูแลคนไข้กันทั้งร้อนๆ ที่มีแอร์ คือโรงพยาบาลเอกชนกับการแสดงในฉากละครเท่านั้นซึ่งพออธิบายไปครูฝึกก็ไม่ฟังอยู่ดี

ทั้งนี้ผู้เข้าร่วมอบรมบอกต่อว่า กิจกรรมในวันที่สองค่อนข้างดี สมเหตุสมผลมากขึ้น โดยใช้สมองและกำลังคู่กัน แต่ครูฝึกยังมีทัศนคติที่แย่และดูถูกเป็นระยะอยู่ดี  

แพทย์อินเทิร์นกล่าวถึงการเข้าค่ายนี้ว่า เขาบังคับเราว่า บอกว่าต้องอบรมภายในหกเดือนหลังรับราชการไม่งั้นไม่ได้บรรจุ ไม่มารอบนี้ก็มีรอบซ้อมอยู่ดี ในค่ายนอกจากหมอยังมีเภสัชและทันตแพทย์ ส่วนค่ายพยาบาลจะตามมาหลังจากนี้

แพทย์ผู้เข้าอบรม กล่าวเพิ่มเติมว่า เราไม่ได้เกลียดทหารหรือครูฝึกที่จับเราไปฝึกหนัก เพราะมันเป็นหน้าที่เขา แต่เราและเพื่อนๆ ไม่พอใจ คือ การที่เขาดูถูกเหยียดหยามอาชีพเรากับสายงานข้างเคียงบ่อยเหลือเกิน

แพทย์ผู้เข้าอบรมแสดงความคิดเห็นถึงการอบรมว่า ทหารจะเป็นประเภทได้ยินทำตามคำสั่งทันทีแต่แพทย์ไม่ใช่แบบนั้น เราได้ยินแล้วเราคิด พิจารณาว่าอะไรคือทางเลือกที่ดีที่สุด ณ ขณะนั้นแล้วค่อยลงมือรักษา ดังนั้นการที่เราตามสั่งทันทีไม่ได้ ไม่ใช่เราไม่มีวินัย แต่เพราะธรรมชาติของอาชีพเราไม่เหมือนกับทหาร สุดท้ายคือเราว่าการอบรมครั้งนี้ไม่ช่วยอะไรกับการเป็นข้าราชการที่ดีได้เลย

แพทย์เพิ่มพูนทักษะ ผู้เข้าอบรมเล่าทิ้งท้ายว่า จากสถานการณ์ดังกล่าวทำให้ เขตสี่ ซึ่งเข้าค่ายต่อจากเขตห้า ยกเลิกการเดินป่าไปแล้ว  โดยจ่าบ่นเรื่องเขตให้ฟังแทน แล้วบอกให้เพื่อนๆเขตสี่พูดว่ายอมรับการฝึกนี้ได้โดยอัดเสียงไว้ ซึ่งทหารได้สั่งให้เป็นคำสัญญาในการยินยอมการฝึกแบบดังกล่าว  แต่เห็นเพื่อนเล่าว่าทั้งสธ. เขตห้าและครูฝึกโดนสอบสวนอยู่ จึงไม่มีการเดินป่า เพราะ มีอันตราย เลยคิดว่าอย่างน้อยก็สามารถช่วยเพื่อนเขต 4 ที่จะโดนฝึกต่อมาได้

 

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไทอัพเดท ได้ที่:
Facebook : https://www.facebook.com/prachatai
Twitter : https://twitter.com/prachatai
YouTube : https://www.youtube.com/prachatai
Prachatai Store Shop : https://prachataistore.net
ข่าวรอบวัน
สนับสนุนประชาไท 1,000 บาท รับร่มตาใส + เสื้อโปโล

ประชาไท