Skip to main content
sharethis

พล.อ.ชัยชาญ ช้างมงคล ระบุแผนปรองดอง ป.ย.ป. เสร็จตามกรอบเวลา คาดว่าไม่เกินสัปดาห์หน้าสรุปผลให้ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ ฟัง ขณะที่ สปท. เห็นชอบรายงานของคณะกรรมาธิการขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศด้านการเมือง เสนอแก้ รธน.ทุก 10 ปี เพื่อหนุนปรองดอง และสอดคล้องกับสถานการณ์บ้านเมือง

30 พ.ค. 2560 พล.อ.ชัยชาญ ช้างมงคล ปลัดกระทรวงกลาโหม กล่าวถึงความคืบหน้าการพูดคุยปรองดองว่า คณะอนุกรรมการชุดที่ 1 และ 2 มีการหารือในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมาแล้ว และได้ประสานข้อมูลให้กับคณะอนุกรรมการจัดทำข้อเสนอกระบวนการเพื่อสร้างความสามัคคีปรองดอง คณะอนุกรรมการชุดที่ 3 ซึ่งมีผู้บัญชาการทหารบกเป็นประธาน แล้วคาดว่าภายในไม่เกินสัปดาห์หน้า หรือเร็วที่สุดภายในปลายสัปดาห์นี้ จะมีการประชุมคณะกรรมการโดยมี พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมเป็นประธาน เพื่อสรุปให้ที่ประชุมรับทราบถึงข้อมูลจากคณะกรรมการชุดที่ 1 ชุดที่ 2 เพื่อให้คณะอนุกรรมการชุดที่ 3 เสนอแนวทางในการดำเนินการในขั้นต่อไป ว่าจะจัดทำร่างสัญญาประชาคมหรือจะรับฟังความคิดเห็นของประชาชนในพื้นที่ต่อไป ย้ำทุกอย่างยังเป็นไปตามกรอบเวลาเดิม คือต้องเสร็จสิ้นภายในเดือนมิถุนายนนี้

ทั้งนี้ระบุว่า ขั้นตอนการรับฟังข้อคิดเห็นจากประชาชนในพื้นที่ไม่มีปัญหาหรืออุปสรรคใด ประชาชนให้ความร่วมมือในการให้ข้อมูลเป็นอย่างดี เป็นข้อเสนอแนะที่เป็นประโยชน์และเป็นสิ่งที่ประชาชนในพื้นที่ต้องการ และต้องการให้รัฐบาลช่วยแก้ไข ซึ่งส่วนใหญ่รัฐบาลได้ดำเนินการไปแล้วบางส่วน และบางส่วนก็กำลังอยู่ระหว่างการดำเนินการ รวมถึงมีแผนที่จะดำเนินการในอนาคต ซึ่งทั้งหมดนี้ จะทำการส่งรวบรวมข้อมูลไปยังคณะกรรมการเตรียมการเพื่อสร้างความสามัคคีปรองดอง ตามกรอบการปฏิรูปประเทศ ยุทธศาสตร์ชาติและการสร้างความสามัคคีปรองดอง หรือ ป.ย.ป. รับทราบต่อไป

สปท. เห็นชอบรายงานของคณะกรรมาธิการขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศด้านการเมือง เสนอแก้ รธน. ทุก 10 ปี

เมือวันที่ 29 พ.ค.2560 ที่ประชุมสภาขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศ (สปท.) มีมติเสียงข้างมาก 158 ต่อ 2 เห็นชอบกับรายงานของคณะกรรมาธิการขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศด้านการเมือง สปท. เรื่อง "ข้อเสนอการปฏิรูปการเมืองเพื่อเป็นยุทธศาสตร์ชาติ" โดยมีสาระสำคัญดังนี้

การปฏิรูปการเมืองควรจัดทำยุทธศาสตร์ด้านความมั่นคงทางการเมือง เป็นเรื่องสำคัญ ดังนั้น เพื่อบรรลุเป้าหมายที่จะทาให้ประเทศไทยเป็นประเทศที่ปกครองด้วยระบอบประชาธิปไตย มีความมั่นคงทางการเมือง มีสถาบันชาติ ศาสนาพระมหากษัตริย์ ที่เป็นเสาหลักของประเทศที่มีความเข้มแข็ง มีระบบการเมืองที่มั่นคงเป็นกลไกที่นำไปสู่การบริหารประเทศที่มีเสถียรภาพ ต่อเนื่องและโปร่งใสตามหลักธรรมาภิบาล ควรต้องดำเนินการภายใต้แนวทาง 3 ประการ

1.ให้มีการทบทวนปรับแก้รัฐธรรมนูญ เสนอให้ในระยะเวลาเมื่อครบ 10 ปี นับแต่วันที่รัฐธรรมนูญประกาศใช้บังคับ ให้รัฐสภาตั้งคณะกรรมาธิการจากฝ่ายสภาผู้แทนราษฎรและวุฒิสภา เพื่อทำหน้าที่ในการทบทวนการตรวจสอบการใช้รัฐธรรมนูญ รวมทั้งให้มีการปรับปรุงแก้ไขรัฐธรรมนูญให้ทันสมัยและสอดคล้องกับเหตุการณ์และสถานการณ์ของบ้านเมืองตามกระบวนการที่รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย มาตรา 255 และมาตรา 256 บัญญัติไว้ เพื่อความมั่นคงทางการเมือง

2.ระบบคุณธรรม หมายถึง ระบบที่จัดลำดับความสำคัญสูงสุด เพื่อให้ได้มาซึ่งบุคคลที่มีความรู้ความสามารถที่เหมาะสม ไม่ว่าจะเป็นฝ่ายบริหาร ฝ่ายนิติบัญญัติ รวมทั้ง องค์กรอิสระและตุลาการการเข้าสู่ตำแหน่งดังกล่าวควรเป็นไปตามระบบคุณธรรม ซึ่งหมายความรวมถึง คุณธรรมที่เป็นเรื่องความดีด้วยเพื่อให้ประเทศไทยเปลี่ยนผ่านจากลักษณะวัฒนธรรมระบบอุปถัมภ์ (Patronage System) ไปสู่ระบบคุณธรรมเป็นปัจจัยสำคัญในการบรรลุถึงเป้าหมายการสร้างความมั่นคงทางการเมืองตามยุทธศาสตร์ชาติ

3. ระบบความชอบธรรม หมายถึง การยอมรับในการมีอำนาจและการใช้อำนาจในการปกครอง ไม่ใช่การให้ประชาชนยอมรับในอำนาจเพราะความกลัว หรือเพราะได้รับผลประโยชน์ แต่เพราะยอมรับ กติกาของรัฐ ที่ใช้ใน การควบ คุม สังคม ว่ามีอยู่จริงและเป็นสิ่งถูกต้อง ความชอบธรรมจึงเกี่ยวกับการประเมินความดีงามของการใช้อำนาจ ประสิทธิภาพในการใช้อำนาจ และความยุติธรรมของอำนาจทางการเมือง ดังนั้น ความชอบธรรมของรัฐบาลจะเกิดขึ้นได้จากการบริหาร การพัฒนาประเทศการจัดการการแก้ไขปัญหาการบริหารประเทศ

นอกจากนี้ ควรดำเนินการการสร้างความรู้รักสามัคคีของคนในชาติ ให้มีมาตรการการป้องกันความขัดแย้งในอนาคตและแก้ปัญหาโดยสันติวิธี โดยให้มีการทำสัญญาประชาคมร่วมกันของพี่น้องประชาชนทุกหมู่เหล่า เพื่อให้เกิดความปรองดองกับคนในชาติ

สำหรับเนื้อหาสาระที่จะทำเป็นสัญญาประชาคมในสถานการณ์ปัจจุบันนั้นควรคำนึงถึงข้อตกลงที่ประชาชนและรัฐที่มีต่อสาธารณชนทั่วไป ซึ่งต้องประกอบด้วย 1.ประชาชนตกลงร่วมกันดำรงจงรักภักดีและรักษาไว้ซึ่งชาติ ศาสนาพระมหากษัตริย์ 2.ประกอบอาชีพด้วยความสุจริต มีความพอเพียง มีความขยันหมั่นเพียร มีคุณธรรมจริยธรรมและจะปฏิบัติตามกฎหมายโดยเคร่งครัด 3.สนับสนุนและร่วมมือกับรัฐ ในการทาให้สังคมและเศรษฐกิจดีขึ้น

4.จะร่วมมือกันในการทำให้บ้านเมืองสงบเรียบร้อย ไม่สร้างความขัดแย้งหรือสร้างความแตกแยกในมวลหมู่ประชาชน 5.จะสนับสนุนและร่วมมือ ให้เกิดการเลือกตั้งที่สุจริตและเที่ยงธรรมจะยอมรับผลการเลือกตั้ง และตกลงจะมีส่วนร่วมในทางการเมือง ด้วยการสนับสนุนพรรคการเมืองให้เป็นของประชาชน เสนอสนับสนุนหรือสมัครเป็นตัวแทนจากประชาชนเข้าสู่เส้นทางการเมือง รวมทั้งจะไม่กระทำความผิดต่อกฎหมายเลือกตั้ง ไม่ซื้อสิทธิขายเสียง และจะไม่เสนอแนวนโยบายที่สร้างปัญหาและภาระให้กับงบประมาณแผ่นดิน 6. จะให้ความร่วมมือ สนับสนุนรัฐในการปกป้องและรักษาไว้ซึ่งทรัพยากรธรรมชาติ 7.จะไม่กระทำการใดที่สร้างความเดือดร้อนให้กับผู้อื่น    

ทั้งนี้ ภายหลังสปท.ลงมติเห็นชอบแล้วจะดำเนินการส่งให้กับคณะรัฐมนตรีต่อไป

ที่มาจาก: บ้านเมืองออนไลน์ , innnews

 

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net