กมธ.กฎหมายพรรคการเมืองมีมติแก้ร่าง 3 ประเด็น ‘เงินประเดิมฯ ค่าสมาชิกรายปี การสรรหาผู้สมัคร ส.ส.’

กมธ.ร่างกม.พรรคการเมือง มีมติปรับแก้ 3 ประเด็น เรื่องเงินประเดิมพรรคยังไม่ต้องจ่ายทันทีที่ตั้งพรรค ระบุให้เป็นไปตามที่ กกต. กำหนด เรื่องการคัดเลือกผู้สมัคร ส.ส. ระบุให้มีการคัดเลือกจากสมาชิกพรรค ส่วนค่าสมาชิกรายปีกำหนดปีแรก 50 บาท ปีถัดไปไม่น้อยกว่า 100 บาท

1 มิ.ย. 2560 สำนักข่าวไทย วัลลภ ตังคณานุรักษ์ สมาชิกสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) พร้อมด้วยแสวง บุญมี รองเลขาธิการคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ในฐานะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาศึกษาร่างพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยพรรคการเมือง เปิดเผยภายหลังการประชุมคณะกรรมาธิการฯ นัดสุดท้ายว่า ที่ประชุมมีมติปรับแก้ร่างพระราชบัญญัติดังกล่าว 3 ประเด็น ได้แก่ ประเด็นเงินทุนประเดิมการจัดตั้งพรรคการเมือง จากเดิมต้องจ่ายเงินพร้อมการจัดตั้งพรรคไม่น้อยกว่า 1 ล้านบาท กรรมาธิการฯ ปรับแก้เป็นการจ่ายเงินทุนประเดิมให้เป็นไปตามที่ กกต.กำหนด ภายใต้การใช้จ่ายงบประมาณการเลือกตั้งครั้งที่ผ่านมา ซึ่งหากประเมินแล้ว เงินทุนประเดิมปัจจุบันจะอยู่ที่ 1.5 ล้านบาท สามารถจัดตั้งพรรคได้โดยยังไม่ต้องจ่ายทุนประเดิมในทันที แต่จะต้องจ่ายเมื่อพรรคส่งผู้สมัครรับเลือกตั้ง เพื่อไม่ให้เงินเป็นเงื่อนไขการจัดตั้งพรรค 

“ส่วนวิธีการคัดเลือกผู้สมัครสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (ส.ส.) แบบแบ่งเขต ปรับแก้โดยยึดหลักว่าสมาชิกพรรคจะมีส่วนร่วมในการเสนอชื่อผู้สมัคร โดยจะกำหนดให้ประกาศรับสมัคร ผู้มีคุณสมบัติ แล้วส่งรายชื่อไปยังสาขาพรรคหรือตัวแทนจังหวัด เพื่อให้สมาชิกคัดเลือกจนได้ชื่อ 2 ลำดับแรกในแต่ละเขต ก่อนส่งให้คณะกรรมการสรรหา จากนั้นคณะกรรมการสรรหาจะส่งให้คณะกรรมการบริหารพรรคพิจารณา ซึ่งหากคณะกรรมการบริหารพรรคไม่เลือกชื่อลำดับแรก ต้องชี้แจงเหตุผล แต่หากคณะกรรมการบริหารพรรคไม่เลือกทั้ง 2 ลำดับจะต้องกลับไปเริ่มกระบวนการใหม่ตั้งแต่ต้น” วัลลภ กล่าว

สำหรับการเลือกส.ส. แบบบัญชีรายชื่อ นายวัลลภ กล่าวว่า พรรคจะประกาศรับสมัครสมาชิกที่มีคุณสมบัติ จากนั้นคณะกรรมการสรรหาจะต้องจัดทำรายชื่อ 150 คน โดยชื่อแรกจะต้องเป็นหัวหน้าพรรคเท่านั้น และต้องส่งชื่อทั้ง 150 คนให้สาขาพรรคและตัวแทนจังหวัดคัดเลือกด้วยวิธีลงคะแนน โดยสมาชิก 1 คนสามารถลงคะแนนได้ 15 รายชื่อ เมื่อสมาชิกลงคะแนนแล้ว จะส่งกลับมาให้คณะกรรมการสรรหาจัดลำดับชื่อตามคะแนนที่ได้รับจากสมาชิก กรณีที่ผู้สมัครคนใดได้รับคะแนนเท่ากัน ให้เป็นอำนาจของคณะกรรมการบริหารพรรคพิจารณา ซึ่งวิธีนี้จะแก้ปัญหาเรื่องนายทุนส่งคนลงสมัครรับเลือกตั้งเป็น.ส. ได้ นอกจากนี้ กรรมาธิการฯยังปรับสัดส่วนของกรรมการบริหารพรรค โดยเพิ่มให้มีเลขาธิการพรรคเป็นกรรมการบริหารพรรคด้วย 

วัลลภ กล่าวว่า สำหรับประเด็นค่าสมัครสมาชิกพรรค ที่ประชุมมีมติให้ยืนตามร่างของกรรมการร่างรัฐธรรมนูญ (กรธ.) โดยกำหนดให้ผู้สมัครเป็นสมาชิกพรรคต้องเสียค่าสมัครในปีแรกไม่น้อยกว่า 50 บาท และปีถัดไปไม่น้อยกว่า 100 บาท อย่างไรก็ตาม ประเด็นที่คณะกรรมาธิการเสนอปรับแก้ครั้งนี้ คณะกรรมาธิการฯ ฝั่งกรธ.สงวนคำแปรญัตติทั้งหมด จึงต้องตั้งคณะกรรมาธิการร่วม 11 คน ประกอบด้วยสนช. 5 คน กรธ. 5 คน และผู้แทนจากศาลรัฐธรรมนูญ 1 คน เพื่อพิจารณาหาทางออกอีกครั้ง

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไทอัพเดท ได้ที่:
Facebook : https://www.facebook.com/prachatai
Twitter : https://twitter.com/prachatai
YouTube : https://www.youtube.com/prachatai
Prachatai Store Shop : https://prachataistore.net
เรื่องที่เกี่ยวข้อง
ข่าวรอบวัน
สนับสนุนประชาไท 1,000 บาท รับร่มตาใส + เสื้อโปโล

ประชาไท