“ผู้ว่าฯ ร้อยเอ็ดโรดโชว์ข้าวแดนมังกร พ่อค้าเมืองหางโจวตอบรับ จัดทริปเยือนเมืองหลวงข้าวหอมมะลิ แนะปรับปรุงเทคโนโลยีการผลิต ตอบโจทย์ความต้องการคนจีน”
“ข้าว” เป็นสินค้าส่งออกที่สำคัญของประเทศไทยและประชากรส่วนใหญ่ของภาคอีสานประกอบอาชีพเกษตรกรปลูกข้าวขายสร้างรายได้ สร้างอาชีพ หล่อเลี้ยงคนอีสานมาอย่างยาวนาน สภาพเศรษฐกิจโดยรวมของอีสานจะตกต่ำหรือดี ขึ้นอยู่กับราคาข้าวแต่ละฤดูกาล
การเดินทางของพ่อค้าข้าวเมืองหางโจว มลฑลเจ้อเจียง สป.จีน มายังจังหวัดร้อยเอ็ดที่มีผืนดินปลูกข้าวหอมมะลินาม “ทุ่งกุลาร้องไห้” เมืองหลวงของข้าวหอมมะลิ ขึ้นชื่อเรื่องความหอมที่สุดในโลกนั้นเป็นความเคลื่อนไหวที่น่าติดตาม
เมื่อวันที่ 9-14 พ.ค. 60 นายสฤษดิ์ วิฑูรย์ ผู้ว่าราชการจังหวัดร้อยเอ็ด หัวหน้าส่วนราชการจากผู้แทนภาครัฐ ภาคเอกชนของจังหวัดร้อยเอ็ด และคณะได้เดินทางไปเจรจาการค้าข้าวกับผู้ประกอบการค้าข้าว ณ เมืองฝางเฉิงก่างกับเมืองหางโจว สป.จีน
ทำให้ผู้ประกอบการค้าข้าวเมืองหางโจว มีความสนใจข้าวหอมมะลิร้อยเอ็ด และได้ติดต่อกลับมาเพื่อที่จะเข้าพื้นที่เยี่ยมชมสถานประกอบการของกลุ่มสหกรณ์การเกษตรจังหวัดร้อยเอ็ด ในวันที่ 31 พ.ค. 60 โดยผู้ประกอบการค้าข้าวจากเมืองหางโจว สป.จีน พร้อมด้วยตัวแทนบริษัท ไร้ส์แลนด์ฟูดส์ จำกัด ได้มาเยี่ยมชมสถานประกอบการของกลุ่มสหกรณ์การเกษตรจังหวัดร้อยเอ็ด จำนวน 4 แห่ง ประกอบด้วย
1.สถานประกอบการและผลิตภัณฑ์สินค้าของสหกรณ์เกษตรอินทรีย์ร้อยเอ็ด ต.หนองพอก อ.ธวัชบุรี 2.สถานประกอบการและผลิตภัณฑ์สินค้าของสหกรณ์การเกษตร อ.เกษตรวิสัย 3.สถานประกอบการและผลิตภัณฑ์สินค้า ที่โรงสีสหกรณ์การเกษตรเพื่อการตลาดลูกค้า ธ.ก.ส.ร้อยเอ็ด จำกัด ต.เหล่าหลวง อ.เกษตรวิสัย และ 4.สถานประกอบการและผลิตภัณฑ์สินค้าที่สหกรณ์การเกษตร อ.เมือง
ทั้งนี้ผู้ประกอบการค้าข้าวเมืองหางโจว สป.จีน ได้กล่าวชื่นชมเรื่องการผลิตของสถานประกอบการทั้ง 4 แห่ง และให้ข้อแนะนำที่ควรปรับปรุงด้านเครื่องมือเครื่องจักรเทคโนโลยี การบรรจุภัณฑ์ที่ทันสมัยตรงต่อความต้องการของประเทศจีน พร้อมกันนี้จะได้มีการหารือถึงการเพิ่มรายละเอียดในด้านการเจรจาซื้อข้าวหอมมะลิกันต่อไปกับจังหวัดร้อยเอ็ด ซึ่งตั้งเป้าไว้การจำหน่ายข้าวหอมมะลิปี 60 อยู่ที่ 10 ล้านบาท
ความน่าสนใจอย่าที่ว่า หากพ่อค้าชาวจีนกลุ่มนี้มาประสานการค้าในท่วงทำนองอย่างกัลยาณมิตร แบ่งปันผลประโยชน์อย่างเป็นธรรม นับเป็นเรื่องดีและเป็นก้าวสำคัญที่ข้าวหอมมะลิได้มีโอกาสไปเปิดตลาดแดนมังกรที่มีประชาชนอาศัยอยู่กว่า 1.3 พันล้าน สร้างรายได้ให้คนร้อยเอ็ดและคนอีสาน
ทว่าเป็นไปในท่วงทำนองตามแบบทฤษฎีกินรวบดังที่พ่อค้าชาวจีนดำเนินธุรกิจในหลายพื้นที่ การเข้ามาลุงทุนตั้งโรงงานผลิต โรงสีข้าวในจังหวัดร้อยเอ็ดของพ่อค้าชาวจีนซึ่งเป็นกลุ่มทุนใหญ่นั้นคงจะเป็นสิ่งที่เลี่ยงได้ยาก ชาวร้อยเอ็ดและชาวอีสานต้องพึงระวังเรื่องการผูกขาดการค้าข้าวและไร้ซึ่งอำนาจต่อรอง