Skip to main content
sharethis

6 มิ.ย. 2560 จากกรณีเจ้าหน้าที่ตำรวจภูธรจังหวัดตราด เข้าจับกุมต่อ พ.อ.อ.ภคิน เดชพงษ์ และพวกรวม 3 ราย ขณะลักลอบขนอาวุธสงครามจากฝั่งประเทศกัมพูชาเข้ามาในประเทศไทย ผ่าน จ.ตราด ไปยังชายแดน อ.แม่สอด จ.ตาก พร้อมดำเนินคดีในข้อหาร่วมกันมีอาวุธสงครามโดยไม่ได้รับอนุญาต 

ล่าสุดวันนี้ (6 มิ.ย.60) พล.อ.ทวีป เนตรนิยม เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ  (สมช.) กล่าวถึงกรณีดังกล่าวว่า ขณะนี้ ประชาคมข่าวกรองกำลังรวบรวมรายละเอียด และเมื่อรวบรวมแล้ว จะแลกเปลี่ยนข้อมูลกันจน สามารถสรุปได้ว่าเป็นอาวุธที่ขนจากไหน ไปไหน หรือ ใครเป็นผู้บงการ ใครเกี่ยวข้อง ตอนนี้ยังไม่มีข้อสรุป

เมื่อถามต่อว่า เตรียมอาวุธเข้ามาก่อเหตุอะไรหรือไม่  พล.อ.ทวีป กล่าวว่า ยังไม่สามารถสรุปได้ และทุกครั้งที่มีการจับกลุ่ม เราต้องตั้งไว้หลายประเด็น  เพื่อให้หน่วยข่าวได้ร่วมกันหาข้อมูล และว่า ขณะนี้ ยังให้ข้อมูลไม่ได้ อย่างไรก็ตาม กรณีที่เกิดเหตุระเบิดหลายจุด  และยังไม่สามารถจับผู้กระทำความผิดได้  ขอยืนยันว่าเจ้าหน้าที่ทำงานหนักกันทุกคน ขอให้ประชาชนเชื่อมั่น

“สมช. เป็นฝ่ายวิเคราะห์ข้อมูลด้านการข่าว เพื่อหาแนวทางที่ชัดเจน แต่ผู้ปฏิบัติทั้งทหารและตำรวจ ข่าวกรอง เจ้าหน้าที่ทุกคน ระดมกำลังทำงานกันหมด คงต้องใช้เวลา และขอเวลาในการทำงาน เพื่อให้ความมั่นใจ และให้เกิดความชัดเจน” พล.อ.ทวีป กล่าว

เมื่อถามถึงพื้นที่เฝ้าระวังเป็นพิเศษ พล.อ.ทวีป กล่าวว่า พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ได้ กำชับให้เน้นดูแลพื้นที่จังหวัดชายแดนใต้ โดยเฉพาะช่วงการถือศีลอดของพี่น้องมุสลิม  ส่วนพี่น้อง กทม. ก็ให้ดูสาธารณูปโภคขั้นพื้นฐาน สิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ เช่น รถไฟ สนามบิน  ซึ่งจะเป็นพื้นที่ที่ต้องให้ความใส่ใจเป็นพิเศษ

พล.ต.อ.ศรีวราห์ ลงพื้นที่เร่งรัดคดี 

ขณะที่วานนี้ พล.ต.อ.ศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ลงพื้นที่ จ.ตราด เรียกประชุมหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อเร่งรัดขยายผลในคดีในกรณีดังกล่าวที่ใช้รถตรากงจักร ขนอาวุธสงครามจำนวนมาก เช่น ปืนอาก้า ปืนกล และเครื่องกระสุน โดยระหว่างขนอาวุธสงครามรถเกิดอุบัติเหตุพลิกคว่ำที่ อ.คลองใหญ่ จ.ตราด โดยที่ประชุมได้มอบนโยบายด้านความมั่นคงเกี่ยวกับมาตรการป้องกันและปราบปรามการลักลอบค้าอาวุธสงครามและอาวุธปืนเถื่อน การดูแลรักษาความสงบเรียบร้อย ความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของประชาชน พร้อมเร่งรัดการดำเนินคดีกับผู้ต้องหาที่ถูกจับกุมในคดีดังกล่าว โดยให้มีการสืบสวนสอบสวนรวบรวมพยานหลักฐานดำเนินคดีกับเครือข่ายผู้ร่วมกระทำความผิด และให้พิจารณามาตรการฟอกเงินมาใช้ด้วย

คุมตัว 17 ทหาร-ตร.-พลเรือน เอี่ยวส่งระเบิดทางไปรษณีย์

เมื่อวันที่ 4 มิ.ย.ที่ผ่านมา พล.ต.อ.ศรีวราห์  ได้สั่งการพนักงานสอบสวนกองบัญชาการตำรวจนครบาลประชุมสืบสวนสอบสวน ขยายผลกรณีพบมีการส่งวัตถุระเบิดผ่านทางพัสดุไปรษณีย์ โดยพบว่านอกจากกล่องบรรจุระเบิด 2 กล่องและกระสุนปืนอีก 1 กล่องที่ส่งผ่านบริษัทเคอรี่เอ็กซ์เพรสในย่านบางเขน มีการส่งไปรษณีย์จากบุคคล ที่ถูกเจ้าหน้าที่ทหารควบคุมตัวไปยังปลายทาง 22 กล่อง ไปยัง 15 จังหวัด โดยส่งทั้งพลเรือน เจ้าหน้าที่ทหารและตำรวจ ซึ่งวันที่ 3 มิ.ย.ที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ทหารได้นำตำรวจเข้าค้นปลายทางของพัสดุทาง 22 กล่อง 15 จังหวัด ดังนี้ 1.กทม. ส่งไปให้ทหารยศ ร.ท. ย่านเตาปูน 2.จ.ลพบุรี ส่งไปให้ทหาร ส.อ. 3.จ.สมุทรปราการ ส่งให้ชายคนหนึ่ง ตรวจยึดอาวุธปืนยาวหลายกระบอกกระสุนจำนวนมาก 4.จ.จันทบุรี พบว่าส่งให้ทหารยศ ร.อ.มีประวัติเคยสั่งซื้อมีดเดินป่า 5.จ.ชลบุรี มีการส่งไป 2 แห่งคือที่ อ.สัตหีบ เจ้าหน้าที่คุมตัวชายหนึ่งคน และ อ.พนัสนิคม ไม่พบตัวบุคคลที่ถูกระบุว่าเป็นคนสั่งของ 6.จ.ปราจีนบุรี ส่งให้ทหารยศ ส.อ. 7.จ.ราชบุรี คุมตัวชายคนหนึ่งได้ที่ อ.สวนผึ้ง 8.จ.พิษณุโลก เจอตัว จ.ส.อ. พร้อมปืนลูกซองและกระสุน 9.จ.ขอนแก่น พบว่าส่งไปที่ อ.ชุมแพและ อ.ชนบท 10.จ.สงขลา ส่งไปสองจุดใน อ.หาดใหญ่ และส่งให้ตำรวจยศ ส.ต.ต.ในอ.สะบ้าย้อย 11. จ.ประจวบคีรีขันธ์ ส่งให้ชายคนหนึ่งที่ อ.กุยบุรี 12. จ.ปัตตานี ส่งให้ทหารยศ ร.ท.ใน ต.บ่อทอง อ.หนองจิก 13.จ.สมุทรสาคร ส่งให้ชายคนหนึ่งเจ้าหน้าที่ตรวจยึดวัตถุระเบิด, อาวุธปืนอาก้า อาวุธปืนพกสั้น เสื้อเกราะกันกระสุน และกระสุนจำนวนมาก 14.จ.นครศรีธรรมราช พบว่ามีการส่งให้ชาย 4 คน พบวัตถุระเบิดอาวุธปืนสั้นปืนยาวจำนวนมาก และ 15.จ.สุราษฎร์ธานี พบว่าส่งให้ชายคนหนึ่งใน อ.นาสาร พบของกลางอาวุธปืนสั้น  ปืนยาว กระสุน และยาเสพติด

รายงานข่าวแจ้งว่า ทหารได้ตัวผู้ที่เกี่ยวข้องไว้ได้ 17 คน และรองผบ.ตร.ได้สั่งการให้ฝ่ายสืบสวนสอบสวนประสานงานไปยังทหารเพื่อขอหลักฐานอาวุธต่างๆที่ตรวจยึดได้นำไปประกอบสำนวนคดีเพื่อเข้าสู่กระบวนการตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา และประสานเพื่อขอตัวผู้ที่เกี่ยวข้องทั้งหมดมาสอบสวน ระหว่างนี้กำลังให้ตำรวจรวบรวมพยานหลักฐานเพื่อขออนุมัติหมายจับผู้ที่เกี่ยวข้องที่มีความผิดทั้งหมด และพร้อมจะจับตัวตามหมายจับทันทีที่ทางทหารส่งมอบตัวให้  ขณะที่มีรายงานว่า พล.ต.อ.ศรีวราห์ ได้สั่งการให้พนักงานสอบสวน สน.บางเขน รวบรวมหลักฐานเพื่อขออนุมัติหมายจับทหารยศ ส.ท.ที่เป็นคนส่งวัตถุระเบิด ผ่านพัสดุ ซึ่งระหว่างนี้ทหารคนดังกล่าวถูกควบคุมตัวไว้ที่มณฑลทหารราบที่ 11 เขตบางเขน อีกทั้งยังมีรายงานว่า ในช่วงบ่ายของวันที่ 5 มิ.ย.พล.ต.อ.ศรีวราห์ จะลงพื้นที่จ.ตราดเพื่อติดตามการสืบสวนสอบสวนกรณีจับกุมเจ้าหน้าที่ทหารยศ พ.อ.อ.พร้อมรถกระบะที่บรรทุกอาวุธสงครามจำนวนมาก โดยแนวทางการสืบสวน สันนิษฐานว่าจะนำส่งให้ลูกค้าภายในประเทศ

 

ที่มา : สำนักข่าวไทยและเดลินิวส์

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net