Skip to main content
sharethis

เช้าตรู่วันที่ 25 สิงหาคม ริมฟุตบาทไล่ตั้งแต่หน้ากรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ถึงทางเข้าศูนย์ราชการ ผู้คนมานั่งรอเต็มทั้งสองฝั่งและทยอยมาหนาแน่นขึ้นเรื่อยๆ ประชาไทสุ่มสำรวจความคิดเห็นของผู้มาให้กำลังใจอดีตนายกฯ ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ที่มีกำหนดต้องมาฟังคำพิพากษาของศาลฎีกาแผนกคดีอาญาผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองในคดีจำนำข้าวช่วงสายวันนี้ ก่อนที่สุดท้าย มวลชนจะสลายตัวพร้อมข่าวว่าศาลออกหมายจับยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ที่ไม่มาฟังคำสั่งโดยระบุว่ามีอาการน้ำในหนูไม่เท่ากัน ตามด้วยคำพิพากษาคดีบุญทรง เตริยาภิรมย์ อดีต รมว.พาณิชย์และพวกเป็นที่เรียบร้อย

ป้าๆ จากร้อยเอ็ดและสุรินทร์

พวกเธอบอกว่า มารถส่วนตัว และต้องการมาให้กำลังใจนายกฯ  “รักเพราะว่าท่านทำให้ชาวนามีเงินใช้ ข้าวมีราคา” ทั้งหมดมีอาชีพทำนา โดยปลูกพืชอย่างอื่นเสริม เธอเล่าว่าราคาข้างตกต่ำมากตั้งแต่ปีที่แล้ว ส่วนพืชที่บอกให้ปลูกเสริม เช่น มะนาว ก็ปรากฏว่าราคาตกเช่นกันจนต้องปล่อยให้ร่วงทิ้ง และยืนยันว่าเศรษฐกิจในต่างจังหวัดนั้นซบเซามาก ทำให้หากินลำบาก ดีที่ว่าพวกเธอยังมีข้าวที่ปลูกไว้กินเอง แต่ปีนี้ก็ประสบกับน้ำท่วมทำให้ไม่มีข้าวเข้ายุ้ง

อีกคนหนึ่งตั้งคำถามว่า การบอกว่าขาดทุนมหาศาลนั้นแน่ชัดแค่ไหน เพราะยังมีสต๊อกข้าวอีกจำนวนมากและรัฐบาลควรนำไปขายให้หมดเสียก่อน

ถามแนวโน้มที่จะเปลี่ยนอาชีพ เธอตอบว่า “เราก็ไม่รู้จะทำอะไรเราชาวนาเราทำอย่างอื่นไม่ได้ ถึงหน้านาก็ต้องทำ อาชีพอื่นก็ทำเสริม ปลูกผักปลูกหญ้ากิน ก็พอได้กิน”

คนชั้นกลางจากหนอกจอก "ผมมาเพราะไม่ชอบรัฐประหาร"

กระจ่าง เป็นคนชั้นกลางจากหนองจอก ทำธุรกิจส่วนตัว เขามาร่วมให้กำลังใจยิ่งลักษณ์ด้วย น่าสนใจว่าเขาออกตัวว่าไม่ได้ชอบทั้งทักษิณและยิ่งลักษณ์เป็นพิเศษ แต่เริ่มต้นร่วมเคลื่อนไหวทางการเมืองด้วยการต่อต้านรัฐประหาร อาจเพราะเป็นคนร่วมสมัยเหตุการณ์ พฤษภาคม 2535 จึงยังคงยึดหลักว่า “ทหารต้องอยู่ใต้ประชาชน” เช่นเดิม นอกจากนี้เขายังอธิบายว่า แม้ตนเองเป็นคนชั้นกลางแต่ก็สนับสนุนนโยบายรับจำนำข้าวเพราะทำให้ชาวบ้านจำนวนมากลืมตาอ้าปากได้ ซึ่งเป็นหน้าที่รัฐบาล เขาไม่กังวลกับหนี้สาธารณะจำนวนมหาศาล โดยให้เหตุผลว่าไม่ว่ารัฐบาลไหนก็สร้างหนี้สาธารณะเช่นกัน แต่คำถามคือ มันไปตกอยู่กับใคร รัฐบาล(ยิ่งลักษณ์) มีกรอบอยู่แล้วว่าจะเป็นหนี้แค่ไหน และการที่ชาวบ้านจำนวนมากมีการเงินดีขึ้น มันทำให้เศรษฐกิจดีขึ้นและรัฐย่อมได้รายได้ดีขึ้นจากการเก็บภาษี

“ยิ่งลักษณ์ ถามว่าชอบไหม ก็ธรรมดานะ เพียงแต่ผมไม่ชอบที่ว่าเขาไม่ได้รับความยุติธรรม เพราะว่าที่ผ่านมาทุกรัฐบาลสร้างหนี้สาธารณะทั้งนั้น เพียงแต่ว่ามันสะสมความขัดแย้งซึ่งมันทำให้เราต้องมีจุดยืน เราถึงต้องมา ผมก็เชื่อได้ว่ายังมีคนอีกเยอะแยะที่เป็นแบบผม”

“ผมผ่านพฤษภาทมิฬ ทำให้ผมรู้ไงว่า ถึงที่สุดแล้ว เลือกตั้ง ถึงแม้มันจะไม่แก้ปัญหาได้ร้อยเปอร์เซ็นต์ แต่ประชาชนสามารถพูดได้เต็มคำ ไม่ต้องไปเอาใจใคร  อะไรที่สะท้อนความจริงได้ทุกคนจะกล้าพูด แต่ถ้าระบบทหาร ระบบเผด็จการเข้ามา คุณพูดไปมันก็มีคนที่จะมาคอยรังแกเรา เพราะเราพูดความจริง แล้วสังคมไทย ถ้าลึกๆ แล้วเค้าไม่ชอบความจริง เค้ามีสุภาษิตว่า ความจริงเป็นสิ่งไม่ตาย ใช่ ความจริงมันไม่ตาย แต่คนพูดความจริงแหละจะตาย” กระจ่างกล่าว

ระยองไม่กลัวมือที่สาม เพราะคนมีแค่สองมือ !

คู่หูหนุ่มใหญ่อารมณ์ดีจากระยองมาร่วมให้กำลังใจด้วยโดยไม่เชื่อข่าวที่พูดเรื่องมือที่สามจะมาสร้างสถานการณ์รุนแรงก่อนหน้านี้ เพราะตำรวจทหารเต็มไปหมด และยังพูดติดตลกว่า “คนมีแค่สองมือ มือที่สามจะมาจากไหน”

เขายังเห็นว่าสิ่งที่ฟ้องๆ กันนั้น อดีตนายกฯ ยิ่งลักษณ์ในฐานะหัวหน้ารัฐบาล ไม่จำเป็นต้องรับผิดชอบทางอาญาไปด้วย และแม้จะอยู่ระยองที่เป็นเมืองอุตสาหกรรม ก็ยังเห็นด้วยกับโครงการนี้เพราะชาวนาจะได้รับการช่วยเหลือ สิ่งที่ไม่ได้ปรากฏในคลิปคือ เขาอธิบายว่าพื้นที่ระยองนั้นเป็นฐานเสียงของประชาธิปัตย์ และคนส่วนใหญ่เข้าร่วม พธม.และ กปปส. อย่างไรก็ตาม พวกเขาคิดต่างจากคนอื่น และระหว่างชาวบ้านด้วยกันนั้นไม่มีการตีกัน จุดยืนใครจุดยืนมัน

“พอจะลืมตาอ้าปากได้นิดหนึ่ง ก็เอา(รัฐบาล)กันลงแล้ว”

ป้าจากกาฬสินธุ์เว่าอีสาน เล่าให้ฟังถึงต้นทุนการทำนาที่แพงลิบลิ่ว และเธอเป็นหนี้ ธกส.เยอะมาก แต่ในช่วงรัฐบาลยิ่งลักษณ์ที่ข้าวราคาดีนั้น สามารถทำให้เธอปลดหนี้ได้มาก

เธอยังโต้แย้งเรื่องการโกงด้วยการยืนยันว่า ชาวนาได้เงินจากโครงการนี้ถูกต้องตรงกับความจริงทั้งนั้น ใครไม่ได้รับเงิน เป็นเรื่องให้ผู้ใหญ่บ้านเดือดร้อนแน่นอน

“เราเป็นคนทำนาปีใช่มั้ย มันก็ปีละครั้งเอง เราไม่ได้ทำสองครั้งสามครั้งเหมือนภาคกลางนะ ภาคอีสานน่ะทำปีละครั้ง ใช้น้ำฝน ที่บ้านป้านี้ไม่มีน้ำส่งมา พอเราจะลืมตาอ้าปากได้นิดหนึ่ง ก็เอากันลงแล้ว เราถึงไม่มีความหวังไง”

เธออยากให้อดีตนายกฯ รอดพ้นจากการถูกลงโทษ แต่ถ้าสุดท้ายต้องโดนลงโทษจริงๆ เธอก็ไม่รู้จะทำอย่างไรเช่นกัน

ป้าจากชัยภูมิ เก็บผักได้เงินแล้วซื้อตั๋วรถทัวร์

ป้าปราณี ปาเป้า “นั่งรถแอร์” มาจากจังหวัดชัยภูมิ เพื่อมาให้กำลังใจนายกฯ สุดที่รัก อารมณ์แบบ “ร้ากกกกกกกรัก”  ขายผักได้เงินก็เอามาซื้อตั๋วเลย เธอเห็นด้วยกับนโยบายนี้เพราะมีรายได้สูงขึ้น “(ยิ่งลักษณ์) มีน้ำใจเนาะ เราก็มีน้ำใจต่อท่าน เพราะว่าสงสาย เป็นลูกผู้หญิงเหมือนกันด้วย”

 

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net