อธิบดีกรมบัญชี กล่าวว่า วงเงินที่รัฐบาลช่วยเหลือผ่านบัตร สามารถนำไปซื้อสินค้าที่ขายในร้านที่ขึ้นทะเบียนกับกระทรวงพาณิชย์ได้ทุกชนิด ไม่เว้นแม้กระทั่งเหล้า บุหรี่ แต่ไม่รณรงค์ให้ขาย และสำหรับผู้ที่จะสามารถใช้บริการรถเมล์ รถไฟฟ้าฟรี ตามวงเงิน บัตรที่แจกจะเป็นบัตร 2 ชิป หรือบัตรแมงมุมจะแจกคนจนที่ลงทะเบียนไว้ในเขตกรุงเทพฯ และอีก 6 จังหวัด คือ นนทบุรี ปทุมธานี อยุธยา สมุทรปราการ สมุทรสาคร นครปฐม จำนวน 1.3 ล้านคน ของจำนวน 11.67 ล้านคน
“วงเงินที่รัฐบาลให้แต่ละเดือนนี้ จะให้เพียงเดือนละครั้งใช้จนเต็มวงเงินแล้วต้องรอเดือนใหม่ ซึ่งเงินจะเข้ามาทุกวันที่ 1 ของเดือน ถ้าใช้ไม่หมดเงินจะถูกตัด สะสมไม่ได้ เช่น เดินทางโดยรถเมล์ จะใช้ได้ไม่จำกัดครั้ง เดินทางได้จนเงินในบัตรหมด ที่เหลือก็ต้องจ่ายเงินเอง โดยจากการหารือกับกระทรวงคมนาคม ก็ได้รับการยืนยันว่า รถเมล์ทั้งหมดจะติดตั้งเครื่องรับบัตรให้รถเมล์จำนวน 800 คันก่อนในระยะแรก ส่วนร้านค้าก็จะมีเครื่องรับบัตรติดตั้งด้วยเช่นกัน โดยจากนี้ไปแต่ละร้านที่คนมีรายได้น้อยจะเข้าไปใช้บัตรได้ กระทรวงพาณิชย์จะประกาศออกมา หรือมีสติ๊กเกอร์ติดที่หน้าร้าน ซึ่งการติดตั้งเครื่องจะพร้อมใช้งานได้ทันทีตั้งแต่วันที่ 1 ต.ค.นี้” อธิบดีกรมบัญชีกลาง ระบุ
สุทธิรัตน์ กล่าวว่า การช่วยเหลือครั้งนี้ จะไม่รวมถึงการช่วยเหลือเรื่องค่าไฟฟ้า และน้ำประปา เพราะตอนนี้หน่วยงานที่รับผิดชอบก็มีมาตรการช่วยเหลือสำหรับผู้ที่มีรายได้น้อยอยู่แล้ว จึงยังไม่นำมารวมกับบัตรที่จะแจกให้ครั้งนี้ ส่วนกรณีของผู้ที่มีรายได้น้อยจากต่างจังหวัด ใช้บัตรซื้อตั๋วรถบขส.เข้ามาในกรุงเทพฯ จะยังไม่สามารถใช้บัตรนี้กับรถเมล์ในกรุงเทพฯได้ เพราะระบบของบัตรจะไม่รองรับระบบตั๋วร่วมของกรุงเทพฯ ที่รัฐบาลกำลังทำให้ครอบคลุมรถเมล์ รถไฟฟ้า และเรือ อย่างไรก็ตามในกรณีที่เงินในบัตรหมด หากใครต้องการเติมเงินก็สามารถทำได้ ซึ่งตอนนี้กำลังดูรายละเอียดก่อน และหากใครทำบัตรหาย หากมาทำใหม่ต้องเสียเงินค่าธรรมเนียมทำบัตร สำหรับบัตรที่มี 1 ชิป เสียค่าใช้จ่าย 50 บาท และบัตรที่มี 2 ชิป เสียค่าใช้จ่าย 100 บาท
ที่มา : เว็บไซต์ทำเนียบรัฐบาลและข่าวสดออนไลน์
ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)