Skip to main content
sharethis

ไม่เช่นนั้นก็ให้ยกดินแดนให้พวก 'เบงกอล(โรฮิงญา)' ไปเลย จวกองค์กรช่วยเหลือต่างชาติเป็นผู้ก่อการร้ายมาทำลายเมือง รักษาการ ผอ.ฮิวแมนไรท์วอทช์ เอเชีย ระบุ รัฐบาลพม่าเดินหมากการเมืองบนความขัดแย้ง พุทธ-มุสลิม หลับหูหลับตาเวลาวีระธูและพวกปลุกระดม โฆษกกระทรวงวัฒนธรรมและศาสนาระบุเป็นปราศรัยสาธารณะไม่ขัดคำสั่งห้ามเทศน์จากมหาเถรสมาคม

(กลาง) พระวีระธูนำคณะสงฆ์และญาติโยมเดินขบวนหนุนวัดพระธรรมกาย-พระธัมมชโย เมื่อ 23 กุมภาพันธ์ 2560 ที่เมืองมัณฑะเลย์ ในพม่า (ที่มา: เฟซบุ๊ค Wira Thu)

สืบเนื่องจากกรณีเหตุการณ์ความรุนแรงโดยกลุ่มมุสลิมโรฮิงญาติดอาวุธ Arakan Rohingya Salvation Army (ARSA) โจมตีจุดตรวจบริเวณชายแดน สถานีตำรวจและฐานทัพในเขตชุมชน  Maungdaw, Buthidaung และ Rathedaung บริเวณภาคเหนือของรัฐยะไข่ ส่งผ ลมีเจ้าหน้าที่ตำรวจเสียชีวิตอย่างน้อย 10 นาย ผู้ที่คาดว่าเป็นกลุ่มติดอาวุธเสียชีวิต 15 ราย ก่อนที่ทางการพม่าใช้กำลังทหารตอบโต้ด้วยการปิดล้อมชุมชนทั้งสามก่อนจะเข้าจู่โจม ทำให้มีผู้เสียชีวิตกว่า 100 คน พลัดถิ่นที่อยู่อีกราว 5,000-10,000 คน

วันนี้ (1 ก.ย. 2560) สำนักข่าว เดโมเครติก วอยซ์ ออฟ เบอร์มา (DVB) รายงานว่า พระวีระธู ผู้นำกลุ่มพุทธพม่าขวาจัด ได้ออกปราศรัยในวันพุธที่ผ่านมาที่ศาลากลางเมืองย่างกุ้ง โดยกล่าวโจมตีทั้งกลุ่มชาวมุสลิมหัวรุนแรงในพื้นที่ตะวันตกของพม่า กล่าวถึงกลุ่มองค์กรช่วยเหลือจากต่างประเทศที่ทำงานในพื้นที่ดังกล่าวว่าเป็นผู้ก่อการร้าย

การออกปราศรัยครั้งนี้เกิดขึ้นระหว่างช่วงเวลาที่วีระธูถูกรัฐบาลพม่าสั่งห้ามเทศนาเนื่องจากเนื้อหาการเทศน์ที่สร้างความเกลียดชัง โดยระยะเวลาการห้ามเริ่มต้นตั้งแต่ 10 มี.ค. 2560 และจะสิ้นสุดในเดือน มี.ค. 2561

“มองดอว (Maungdaw) ล่มสลายแล้ว” คือคำพูดของวีระธูต่อชุมชนทางตอนเหนือของอารากันที่ผู้อาศัยส่วนมากเป็นชาวมุสลิมอันเป็นพื้นที่เกิดเหตุความรุนแรงครั้งล่าสุด

“ฝูงชนโจมตีหมู่บ้านด้วยระเบิดและผู้คนก็ไม่สามารถตอบโต้ได้ ชาวบ้านต้องหนีออกจากหมู่บ้านและอำนาจอธิปไตยเหนือพื้นที่มองดอวอยู่ในภาวะเสี่ยง ถ้ายังเป็นเช่นนี้ เราจะต้องยกดินแดนให้พวกเบงกอล” คำว่า เบงกอล เป็นคำเรียกแทนตัวมุสลิมโรฮิงญาที่ชาวพม่าหลายคนใช้รวมไปถึงรัฐบาลด้วยเพื่อแสดงว่าชาวโรฮิงญาเป็นผู้อพยพมาจากบังกลาเทศ

นอกจากการพูดจาโจมตีชนกลุ่มน้อยมุสลิมแล้ว พระชื่อดังชาวพม่ายังโจมตีรัฐบาลพรรคสันนิบาตแห่งชาติเพื่อประชาธิปไตยหรือ NLD และคณะกรรมการที่ปรึกษารัฐยะไข่ที่นำโดยอดีตเลขาธิการสหประชาชาติ โคฟี อันนัน และขอให้รัฐบาลประกาศกฎอัยการศึกบนพื้นที่อารากันตอนเหนือ

“ถ้าประกาศกฎอัยการศึกแล้วประชาชนได้รับการปกป้อง ทหาร รัฐสภา และรัฐบาลก็จะได้รับความนิยม” “ตราบใดที่คำสั่งมอบหมายให้ทหารจัดการพื้นที่และการประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินยังไม่เกิดขึ้น ประชาชนก็จะถูกปล้นโดยพวกเบงกอล...ผู้บัญชาการทหารสูงสุดคือคนเดียวที่สามารถปกป้องชีวิตและทรัพย์สินของประชาชนชาติพันธุ์(อารากัน)ยะไข่”

การปราศรัยเร่าร้อนและกระตุ้นอารมณ์เกิดขึ้นท่ามกลางความตึงเครียดภายในประเทศระหว่างผู้นับถือศาสนาพุทธกับชนกลุ่มน้อยที่นับถือศาสนาอิสลาม พร้อมกับเหตุการณ์ความรุนแรงระหว่างกลุ่มติดอาวุธชาวมุสลิมโรฮิงญา และการตอบโต้จากทหารและตำรวจ ส่งผลให้ประชาชนนับพันหลบหนีไปยังบังกลาเทศหรือไม่ก็เมืองอื่นที่ปลอดภัยกว่า นอกจากนั้นการต่อสู้ระหว่างกลุ่ม ARSA และกองกำลังของรัฐยังสร้างความหวาดกลัวกับทั้งชาวพุทธและมุสลิม

พระวีระธูถูกกล่าวหาว่าปลุกระดมทัศนคติต่อต้านชาวมุสลิม และเติมเชื้อไฟให้กับความขัดแย้งระหว่างชาวพุทธและชาวมุสลิมที่คุกรุ่นมาตั้งแต่ความรุนแรงในรัฐอารากันตั้งแต่ปี 2555 แล้ว โดยในเดือน มี.ค. ที่ผ่านมา มหาเถรสมาคมของพม่าได้ออกคำสั่งห้ามวีระธูเทศนาเป็นเวลาหนึ่งปี อย่างไรก็ดี การห้ามดังกล่าวดูไม่ได้เป็นอุปสรรคกับการปราศรัยที่รุนแรงในวันพุธที่ผ่านมา

โฆษกของกระทรวงวัฒนธรรมและศาสนาได้กล่าวกับสำนักข่าว DVB ว่าการปราศรัยดังกล่าวเป็นการพูดในที่สาธารณะ ไม่ถือว่าเป็นการเทศน์ทางศาสนา

ฟิล โรเบิร์ตสัน รักษาการผู้อำนวยการ Human Rights Watch ประจำทวีปเอเชียกล่าวว่าทัศนคติชื่นชอบการต่อต้านและหยาบคายต่อชาวมุสลิมของวีระธูนั้นเป็นมาตั้งแต่สมัยที่พม่ายังถูกปกครองโดยระบอบทหารซึ่งทัศนคติดังกล่าวก็ทำให้วีระธูถูกจับขังคุกในเวลานั้น

“รัฐบาลพม่ายังคงเดินหน้าเล่นเกมการเมืองกับความสัมพันธ์ระหว่างชาวพุทธและมุสลิม ส่วนหนึ่งของเกมการเมืองคือการไม่รู้ไม่เห็นเมื่อวีระธูและพวกสุดโต่งใช้ภาษาที่เร่าร้อนในการสร้างความเกลียดชังและหาเหตุผลในการใช้ความรุนแรง” โรเบิร์ตสัน กล่าวกับ DVB

ในการปราศรัย วีระธูยังได้แสดงความเคลือบแคลงองค์กรช่วยเหลือต่างๆ ที่ปฏิบัติงานในรัฐอารากันดังที่กลุ่มชาตินิยมชาวอารากันกล่าวหา ว่ากลุ่มทั้งหลายดังกล่าวลำเอียงให้การดูแลกับชาวโรฮิงญามากกว่า ทั้งนี้ ชาวโรฮิงญาที่อาศัยในค่ายสำหรับผู้พลัดถิ่นตั้งแต่ปี 2555 มีจำนวนมากกว่า 1 แสนคน

“องค์กรเอ็นจีโอต่างชาติคือผู้ก่อการร้ายที่เข้ามาทำลายมองดอว” วีระธูกล่าว

การเอาองค์กรเอ็นจีโอมาเป็นเป้าหมายนั้นมีมูลมาจากข้อแถลงจากรัฐบาลว่ากลุ่มเอ็นจีโอต่างชาติให้การสนับสนุนกลุ่มติดอาวุธ ARSA โดยท่อเหล็กและปุ๋ยที่เอามาใช้เพื่อการพัฒนาถูกกลุ่มติดอาวุธเอาไปดัดแปลงเป็นระเบิด นอกจากนั้นรัฐบาลยังประกาศว่าได้ค้นพบขนมบิสกิตของโครงการอาหารโลก (World Food Programme) ในพื้นที่ที่รัฐบาลกล่าวว่าเป็นแคมป์ฝึกผู้ก่อการร้ายในเทือกเขามายู รัฐอารากัน

แปลและเรียบเรียงจาก

DVB, Wirathu skirts public sermon ban, proclaims ‘Maungdaw has fallen’, August 31, 2017

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net