แอมเนสตี้ อินเตอร์เนชั่นแนล ระบุกองกำลังเมียนมา “ฆ่าล้างเผ่าพันธุ์” ชาวโรฮิงญา พบหลักฐานเผาบ้านเรือนมากกว่า 3,300 ตารางกิโลเมตร ตลอดจนปล้นสะดมและกราดยิงอย่างเป็นขบวนการ
15 ก.ย. 2560 แอมเนสตี้ อินเตอร์เนชั่นแนล รายงานว่า แอมเนสตี้ฯ เชื่อว่าการคุกคามและเข่นฆ่าชาวโรฮิงญาในรัฐยะไข่ของเมียนมาเข้าข่าย “การฆ่าล้างเผ่าพันธุ์” อย่างชัดเจน หลังพบหลักฐานเพิ่มเติมที่ทำให้เชื่อได้ว่ากองกำลังฝ่ายความมั่นคงของเมียนมาเผาบ้านเรือนและโจมตีชาวโรฮิงญาด้วยวิธีต่างๆ อย่างเป็นขบวนการ โดยเฉพาะในช่วงสองสัปดาห์ที่ผ่านมา
แอมเนสตี้ ระบุว่า จากการวิเคราะห์ข้อมูลภาพถ่ายดาวเทียม ภาพถ่ายอื่นๆ วิดีโอจากในพื้นที่ และการสัมภาษณ์พยานหลายสิบคนทั้งในเมียนมาและที่หนีข้ามชายแดนมายังบังกลาเทศ พบว่ามีบ้านเรือนในรัฐยะไข่ถูกเผามากกว่า 80 จุด กินพื้นที่ราว 3,300 ตารางกิโลเมตร มีการไล่ทำร้าย ปล้นสะดม และยิงใส่ชาวโรฮิงญา จนถึงตอนนี้ มีชาวโรฮิงญาต้องหลบหนีไปยังบังกลาเทศแล้วอย่างน้อย 370,000 คน ซึ่งไม่รวมประชาชนอีกประมาณ 87,000 คนที่หลบหนีออกมาก่อนหน้านี้แล้วในการคุกคามครั้งก่อนช่วงปลายปี 2559 และต้นปี 2560
นอกจากนี้ แอมเนสตี้ฯ คาดว่าขอบเขตความเสียหายอาจกินวงกว้างกว่านี้มาก เนื่องจากมีเมฆหมอกปกคลุมช่วงฤดูมรสุม ทำให้ดาวเทียมไม่สามารถจับภาพเหตุเพลิงไหม้ได้ทั้งหมด และเซ็นเซอร์ของดาวเทียมสำรวจสิ่งแวดล้อมที่แอมเนสตี้ใช้ยังจับภาพได้เฉพาะเหตุเพลิงไหม้ขนาดใหญ่เท่านั้น
ผู้ลี้ภัยชาวโรฮิงญา ภาพจาก แอมเนสตี้ อินเตอร์เนชั่นแนล
แอมเนสตี้ฯ ระบุอีกว่า หนึ่งในพยานที่แอมเนสตี้ฯ ได้สัมภาษณ์คือชายวัย 27 ปีจากอินดิน เขาเล่าว่ากองทัพเมียนมาและประชาชนจำนวนหนึ่งได้เข้ามาล้อมหมู่บ้านของเมื่อวันที่ 25 ส.ค. ที่ผ่านมา ยิงปืนขึ้นฟ้า ก่อนจะบุกเข้ามากราดยิงชาวโรฮิงญาที่กำลังหลบหนี เขาบอกว่าเขาซ่อนตัวอยู่ในป่าใกล้ๆ และมองเห็นทหารยึดหมู่บ้านอยู่สามวัน มีการปล้นสะดม และเผาบ้านเรือน
ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)