ทีมทนายนำหลักฐานใหม่ ร้องอัยการสูงสุดรื้อคดีสลาย แดง 53

ทีมทนายญาติผู้เสียชีวิต จากสลายการชุมนุม ปี 53 นำหลักฐานใหม่เข้ายื่นอัยการสูงสุด ขอให้ไต่สวน อภิสิทธิ์ และ สุเทพ หลัง ป.ป.ช.ยกฟ้องเมื่อปี 58 

ที่มาภาพ เฟซบุ๊กแฟนเพจ Banrasdr Photo

18 ก.ย.2560 รายงานข่าวระบุว่า วันนี้ (18 ก.ย.60) เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา โชคชัย อ่างแก้ว และ วิญญัติ ชาติมนตรี  ทนายความจากสมาพันธ์นักกฎหมายเพื่อสิทธิและเสรีภาพ (สกสส.) พร้อมด้วยญาติผู้เสียชีวิตจากเหตุการณ์สลายการชุมนุมกลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) เมื่อปี เม.ย.-พ.ค. 53 เข้ายื่นหนังสือ พร้อมหลักฐานใหม่ ขอความเป็นธรรมต่ออัยการสูงสุด เพื่อขอให้อัยการสูงสุดแจ้ง คณะกรรมการสรรหากรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ให้ไต่สวนคดี 99 ศพ ​ที่มี อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ อดีตนายกรัฐมนตรี และ สุเทพ เทือกสุบรรณ อดีตรองนายกรัฐมนตรี เป็นผู้ถูกกล่าวหาในความผิดต่อตำแหน่งหน้าที่ราชการตามประมวลกฎหมายอาญา หรือ ทุจริตต่อหน้าที่ตามกฎหมาย และเจตนาฆ่า 

วิญญัติ ชี้แจงว่า แม้ ป.ป.ช.จะมีมติยกฟ้อง อภิสิทธิ์ และ สุเทพ เมื่อปี 2558 แล้วก็ตาม แต่จากผลของคำพิพากษาของศาลฎีกาที่ยกฟ้องและให้เหตุผลว่า คดีดังกล่าวต้องยื่นต่อ ศาลอาญาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง  ซึ่งจากคำพิพากษานี้ ทางทีมทนายความได้พิจารณาอย่างละเอียดแล้วพบว่า มีหลักฐานจากคำพิพากษาศาลฎีกา รวมถึงคำสั่งฟ้องที่ทางอัยการสูงสุดทำไว้ก่อนหน้านั้น ที่ ป.ป.ช.ไม่ได้นำมาพิจารณา
        
ด้าน เรือโท สมนึก เสียงก้อง โฆษกสำนักอัยการสูงสุด ได้กล่าวว่า จะนำเรื่องดังกล่าวเข้ายื่นต่อประธานอัยการสูงสุด เพื่อให้พิจารณา ซึ่งคาดว่าจะใช้เวลาไม่นาน

ทั้งนี้เมื่อวันที่ 31 ส.ค.ที่ผ่านมา ศาลฎีกา พิพากษายืนตามศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์ ยกฟ้องสำนวนคดีที่ อัยการ ฟ้อง อภิสิทธิ์ กับสุเทพ ฐานร่วมกันก่อให้ฆ่าผู้อื่นเหตุสลายการชุมนุมกลุ่ม นปช. โดยเมื่อ 28 ส.ค. 57 ศาลชั้นต้นได้มีคำสั่งยกฟ้องคดีดังกล่าวไปแล้ว โดยศาลระบุว่ามูลเหตุแห่งคดี เป็นเรื่องที่โจทก์กล่าวหาจำเลยในฐานะนายกรัฐมนตรี รองนายกรัฐมนตรี และ ผอ.ศอฉ. ซึ่งเป็นความผิดตามอำนาจหน้าที่ราชการ และเป็นการออกคำสั่งโดยมิชอบด้วยกฎหมาย จึงอยู่ในอำนาจของศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง หาใช่อยู่ในอำนาจการพิจารณาของศาลอาญาไม่ ศาลอาญาจึงไม่มีอำนาจรับคำฟ้องของโจทก์ทั้ง 2 สำนวน จึงพิพากษายกฟ้องคดีที่โจทก์ฟ้องจำเลยทั้ง 2 และยกฟ้องการขอเป็นโจทก์ร่วม (อ่านรายละเอียด)
 
ขณะที่มีการฟ้องต่อ ป.ป.ช.ไปแล้วครั้งหนึ่ง หลังศาลชั้นต้นพิจารณาว่าอยู่ในอำนาจการสืบสวนสอบสวนของ ป.ป.ช. ตาม พ.ร.ป.ว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2542 และฉบับแก้ไข นั้น โดยกลุ่มผู้เสียหายได้ยื่นเรื่องต่อ ป.ป.ช. ต่อมาเมื่อวันที 29 ธ.ค.58 แต่ ป.ป.ช. ได้มีมติให้ คำร้องตกไป (อ่านรายละเอียด)

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไทอัพเดท ได้ที่:
Facebook : https://www.facebook.com/prachatai
Twitter : https://twitter.com/prachatai
YouTube : https://www.youtube.com/prachatai
Prachatai Store Shop : https://prachataistore.net
สนับสนุนประชาไท 1,000 บาท รับร่มตาใส + เสื้อโปโล

ประชาไท