รู้จัก 'นักตรวจสอบปัญญาประดิษฐ์' กับสาเหตุที่ว่าทำไมการปล่อยบรรษัทใหญ่พัฒนา AI จะส่งผลร้าย

ระบบปัญญาประดิษฐ์อาจจะกลายเป็นสื่งที่อำนวยความสะดวกหรือทำร้ายมนุษย์ได้ทั้งจากอคติและการแย่งงาน 'รัมมาน เจาดูรี' นักตรวจสอบระบบปัญญาประดิษฐ์มองว่ามันขึ้นอยู่กับว่าใครเป็นผู้พัฒนามัน ถ้าหากเราปล่อยให้การพัฒนาปัญญาประดิษฐ์อยู่ในกำมือของบรรษัทใหญ่ไม่กี่คน มันก็ย่อมกลายเป็นสิ่งที่มีอคติแบบมนุษย์และเอื้อประโยชน์แต่กลุ่มคนระดับบน เราจะทำลายอคตินี้ได้อย่างไร
 
 
'รัมมาน เจาดูรี' นักตรวจสอบระบบปัญญาประดิษฐ์ ที่มาภาพ: rummanchowdhury.com
 
30 ก.ย. 2560 รัมมาน เจาดูรี เชื่อว่าเทคโนโลยีระบบปัญญาประดิษฐ์เป็นเครื่องมือของกลุ่มชนชั้นนำไม่กี่คนในซิลิคอนวัลเลย์ ทำให้เธอมีภารกิจส่วนตัวในการทำให้ะบบปัญญาประดิษฐ์ "เป็นประชาธิปไตย" มากขึ้น เมื่อคนถามเธอว่าเทคโนโลยีนี้จะดำเนินไปในทิศทางไหน เธอเชื่อ อิลอน มัสก์ หรือ มาร์ค ซัคเคอร์เบิร์ก มากกว่ากัน เธอก็จะชอบในทำนองว่าแล้วทำไมผู้คนถึงไม่ทำให้เทคโนโลยีนี้ดำเนินไปตามแนวทางที่ผู้คนกำหนดไว้เองล่ะ
 
เจาดูรี ยกตัวอย่างกรณีชุมชนโอเพ่นซอร์สที่เอื้อเครื่องมือการเขียนโปรแกรมให้กับผู้คนทั่วไป เปิดให้พวกเขาสร้างสิ่งต่าง ๆ จากโค้ดโปรแกรมที่มีอยู่เดิม เจาดูรีเสนอว่าเราควรสามารถนำระบบปัญญาประดิษฐ์มาใช้เพื่อลดช่องว่างของผู้คนได้เช่นกัน เช่นการสร้างปัญญาประดิษฐ์ในการให้ความรู้ การสร้างระบบปัญญาประดิษฐ์เพื่อทำให้การจ้างงานมีการกีดกันทางเชื้อชาติน้อยลง เธอย้ำว่าเรื่องพวกนี้ "ขึ้นอยู่กับพวกเราเอง"

มาช่วยกันทำให้ปัญญาประดิษฐ์เป็นประโยชน์ต่อพวกเราเองกันเถอะ

เจาดูรีเป็นผู้ที่ศึกษาปริญญาตรีสองแขนงในสถาบันเทคโนโลยีแมสซาชูเซตส์ อีกทั้งยังมีปริญญาโทด้านสถิติจากมหาวิทยาลัยโคลอมเบียและปริญญาเอกด้านรัฐศาสตร์จากมหาวิทยาลัยแห่งแคลิฟอร์เนีย ซานดิเอโก ปัจจุบันเธอทำงานเป็นผู้นำฝ่ายการตรวจสอบระบบปัญญาประดิษฐ์ให้มีความรับผิดชอบต่อโลกในบริษัท แอ็คเซนเจอร์ เธอมีวิสัยทัศน์เกี่ยวกับปัญญาประดิษฐ์ 2 ส่วนหลัก ๆ
 
ส่วนแรกคือการนำระบบปัญญาประดิษฐ์มาเป็นตัวช่วยขับเคลื่อนแรงงาน เป็นตัวที่ทำให้ผู้คนยังมีงานทำแทนที่จะมาแย่งงานคน ใช้ปัญญาประดิษฐ์เป็นเครื่องมือฝึกทักษะหรือทำการเติมช่องว่างความสามารถของผู้คนได้
 
ส่วนที่สองคือการปฏิบัติการอย่างมีความรับผิดชอบ หากระบวนการที่ต่อต้านอคติจากอัลกอริทึมซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของการเขียนโปรแกรมที่มาจากน้ำมือของมนุษย์ที่เต็มไปด้วยอคติเอง และทำให้ผู้คนเข้าใจว่าพวกเขากำลังทำงานอยู่กับข้อมูลอะไร เจาดูรีบอกว่าตรงจุดนี้พวกเขากำลังค้นหาวิธีอยู่
 
ในฐานะที่เป็นนักวิทยาการด้านข้อมูล เจาดูรีบอกว่าเธอพยายามเข้าใจมนุษย์ผ่านข้อมูล เธอเคยทำการศึกษาเรื่องปัญญาประดิษฐ์เนื่องจากต้องการเข้าใจว่ามนุษย์มีความลำเอียงชอบพอและความอคติมาจากอะไร และพยายามประเมินผลว่าเทคโนโลยีเช่นนี้ส่งผลอะไรกับมนุษยชาติบ้าง
 
ตัวเจาดูรีเองมาจากครอบครัวผู้อพยพชาวบังกลาเทศ เธอเกิดในเทศมณฑลร็อคแลนด์ รัฐนิวยอร์ก ตอนนี้อาศัยอยู่ในซานฟรานซิสโก เธอบอกว่าเธอเติบโตมาในสถานที่ที่เชื้อชาติและเพศสภาพไม่ได้ใช้เป็นเครื่องตัดสินคน ผู้คนแค่สนใจว่าพวกเธอเป็นคนอย่างไรและพวกเธอทำงานอะไร อย่างไรก็ตามการที่เธอได้ไปศึกษาที่อื่นทำให้เธอเห็นความไม่เท่าเทียมกันทางเพศสภาพที่เกิดขึ้นในซิลิคอนวัลเลย์ ทั้งเรื่องค่าจ้างที่ไม่เท่าเทียมกัน และปัญหาวัฒนธรรมในที่ทำงาน ซึ่งเรื่องเหล่านี้เคยตกเป็นข่าวดังเมื่อไม่นานมานี้

แน่ใจหรือว่าผู้คนทั่วไปจะไร้อคติ?

เรื่องปัญญาประดิษฐ์เป็นที่ถกเถียงกันมานานแล้วว่าจะทำให้เกิดผลเสียเลวร้ายต่อมนุษยชาติหรือไม่ แม้กระทั่งในกรณีที่เจาดูรี ที่มีเป้าหมายอยากให้ระบบปัญญาประดิษฐ์เข้าถึงได้สำหรับทุกคนจะส่งผลเสียต่อมนุษยชาติอยู่ดีหรือไม่
 
ผู้ที่ตอบคำถามคืออเล็กซานดรา วิตทิงตัน ผู้อำนวยการด้านวิสัยทัศน์อนาคตจากองค์กรฟาสต์ฟิวเจอร์ เธอกังวลว่าถ้าหากไมมีการพิจารณาเรื่องปัญหาอคติในตัวมนุษย์เดินดินทั่วไปตั้งแต่แรกก่อนจะมีปฏิบัติการทำให้ผู้คนเข้าถึงปัญญาประดิษฐ์ได้ ก็จะกลายเป็นการแพร่กระจายปัญหาอคติที่เกิดจากมนุษย์อยู่ดี เธอยกตัวอย่างกรณีปัญญาประดิษฐ์ที่ใส่ตัวตนแบบผู้หญิงลงไปอย่าง Siri ที่เป็นแค่ผู้ช่วยไม่ได้เป็นตำแหน่งอื่นอยู่ดี วิตทิงตันจึงเชื่อว่ามนุษย์ที่มีอคติก็จะสร้างสิ่งที่มีอคติออกมา จึงต้องระวังไม่ให้มองเทคโนโลยีอย่างเป็นอุดมคติสวยงามมากเกินไป
 
เจาดูรีเล็งเห็นในเรื่องนี้ เธอจึงเน้นลงทุนลงแรงในเรื่องจริยธรรมของปัญญาประดิษฐ์และวางขอบข่ายงานเกี่ยวกับการขจัดอคติต่าง ๆ เพื่อพัฒนาระบบปัญญษประดิษฐ์ที่ใช้ได้ทั้งกับการตัดสินของศาลและการจ้างงาน เพื่อออกแบบระบบที่ไม่ต้องแก้ปัญหาแบบวัวหายล้อมคอก
 
จอห์น ฮาเวนส์ ผู้อำนวยการบริหารของหน่วยงานริเริ่มด้านจริยธรรมปัญญาประดิษฐ์ของสถาบันวิชาชีพวิศวกรไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์ (IEEE) ประทับใจในแนวคิดของเจาดูรีและมีความมุ่งมั่นที่จะให้เกิดการพัฒนาปัญญาประดิษฐ์ในแบบเดียวกัน
 
เจาดูรียังพยายามสร้างความเท่าเทียมด้านโอกาสในการเรียนรู้ด้วยการเปิดสถาบันเอ็กซ์ในเบย์แอเรียเพื่อให้ผู้ลี้ภัยได้เรียนรู้เกี่ยวกับวิทยาการข้อมูลและทักษะด้านการตลาด และนำไปใช้หางานอิสระผ่านเว็บไซต์อย่าง Upwork ได้ เธอเชื่อว่าการใช้ปัญญาประดิษฐ์พัฒนาการศึกษานั้นจะช่วยลดช่องว่างความเหลื่อมล้ำได้
 
 
เรียบเรียงจาก
 
THE DATA SCIENTIST PUTTING ETHICS INTO AI, Ozy, 25-09-2017

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไทอัพเดท ได้ที่:
Facebook : https://www.facebook.com/prachatai
Twitter : https://twitter.com/prachatai
YouTube : https://www.youtube.com/prachatai
Prachatai Store Shop : https://prachataistore.net
ข่าวรอบวัน
สนับสนุนประชาไท 1,000 บาท รับร่มตาใส + เสื้อโปโล

ประชาไท