Skip to main content
sharethis
เศรษฐียักษ์ใหญ่อเมริกันสั่งปิดสื่อของตัวเองพร้อมกัน 3 แห่ง หลังจากที่พนักงานสื่อแห่งหนึ่งของเขาตัดสินใจเข้าร่วมสหภาพแรงงาน พวกเขาคือสื่อท้องถิ่นผู้นำเสนอเรื่องราวของผู้คนในนิวยอร์กอย่าง Gothamist กับ DNAInfo นักเขียนชื่อโนแลนระบุว่าการเป็นสมาชิกสหภาพเป็นสิทธิอันชอบธรรมของนักข่าวเหล่านี้และสหภาพที่เรียกร้องสิทธิในประชาชนก็ทำอะไรให้กับสังคมมากกว่าพวกเศรษฐี
 
5 พ.ย. 2560 โจ ริคเกตต์ส เศรษฐีพันล้านเจ้าของธนาคารโบรกเกอร์หุ้นทีดีอเมริเทรด สั่งปิดสื่อ Gothamist, DNAInfo และ Shanghaiist ที่เขาเป็นเจ้าของหลังจากที่พนักงานลงมติเข้าร่วมสหภาพแรงงาน เดอะการ์เดียนระบุว่าการตัดสินใจของเจ้าพ่อสื่อรายนี้ถือเป็น "ความตกต่ำ" ในยุคสื่อออนไลน์
 
เมื่อสัปดาห์ก่อนหน้านี้กลุ่มผู้สื่อข่าวและกองบรรณาธิการจากสื่อ Gothamist ที่เป็นสื่อที่นำเสนอเรื่องราวและวัฒนธรรมในท้องถิ่นของนิวยอร์กพยายามจัดตั้งสหภาพแรงงานของตัวเอง แต่เมื่อวันที่ 2 พ.ย. ที่ผ่านมาริคเกตส์เศรษฐีเอียงขวาผู้สนับสนุนประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ก็ประกาศสั่งปิดสื่อทั้ง DNAinfo และ Gothamist ทำให้นักข่าว 115 รายต้องออกจากงานแม้จะได้รับเงินชดเชยเป็นเวลา 3 เดือน
 
ถ้อยแถลงของโจ ริคเกตต์ส อ้างว่าการสั่งปิดสื่อตัวเองในครั้งนี้เป็นเพราะเหตุผลทางการเงิน โดยอ้างว่าสื่อของเขา "เป็นธุรกิจ" และต้องการ "ประสบความสำเร็จทางเศรษฐกิจ" เพื่อให้มันคงอยู่ต่อไป ในถ้อยแถลงจากเว็บไซต์ริคเกตต์สะบุอีกว่า "ถึงแม้พวกเราจะสามารถสร้างความก้าวหน้าสำคัญในการทำให้ DNAinfo เป็นธุรกิจที่ประสบความสำเร็จได้ แต่สุดท้ายแล้วความก้าวหน้าก็ไม่มากพอจะส่งเสริมความพยายามอย่างหนักและค่าใช้จ่ายที่จำเป็นในการสร้างสื่อแบบนี้แบบที่ทำให้ก่อตั้งบริษัทขึ้นมา"
 
กระนั้นโฆษกของ DNAinfo ก็เปิดเผยว่า "การตัดสินใจที่จะเข้าร่วมสหภาพแรงงานโดยกองบรรณาธิการถือเป็นแค่อีกหนึ่งอุปสรรคในเชิงการแข่งขันที่จะทำให้ธุรกิจปะสบความสำเร็จในทางการเงินได้ยากขึ้น"
 
 
"...รู้สึกใจสลาย" เสียงจากคนข่าวและพนักงานสื่อ
 
กองบรรณาธิการของ Gothamist เคยลงมติร่วมกันว่าจะมีการเข้าร่วมสมาคมนักเขียนแห่งอเมริกาอีสต์ (Writers Guild of America East) ทางสมาคมนักเขียนระบุถึงเรื่องที่ริคเกตต์สสั่งปิดสื่อเหล่านี้ว่าเป็นเรื่อง "น่าเป็นห่วงอย่างยิ่ง" และมองว่าการปิดสื่อนครั้งนี้เป็นเครื่องมือคุกคามคนทำงานที่กำลังพยายามจัดตั้งสหภาพตัวเอง
 
ริคเกตต์สยังเคยเขียนเว็บล็อกเมื่อเดือน ก.ย. ที่ผ่านมาในหัวข้อว่าทำไมเขาถึงต่อต้านการตั้งสหภาพแรงงานในธุรกิจที่เขาสร้าง ในบทความมีการอ้างว่า "สหภาพส่งเสริมให้เกิดพลวัติแบบพวกเขาพวกเราซึ่งทำลายความเป็นหมู่คณะที่ธุรกิจต้องอาศัยมันในการประสบความสำเร็จ"
 
คนทำงานให้สื่อเหล่านี้แสดงออกทั้งความตกตะลึง ความเสียใจและความไม่พอใจ เคนเนธ ทัน บรรณาธิการบริหารของ Shanghaiist ทวิตหลังรับรู้คำประกาศปิดสื่อแค่ว่า "ชีวิตบัตซบ" ขณะที่สก็อต ไฮนส์ ช่างภาพข่าวที่ Gothamist กล่าวให้สัมภาษณ์ต่อ CNN ว่า เพื่อนร่วมงานบางคนร้องไห้สะอึกสะอื้นออกมาทันทีคนอื่นๆ ก็ร้องตะโกนออกมา
 
"ภายในชั่วพริบตา ส่วนหนึ่งของชีวิตผมที่ยิ่งใหญ่และมีความสำคัญก็สาบสูญ หายไป ถูกลบเลือนไป ... รู้สึกใจสลาย" แดน วอชเบิร์น ผู้ก่อตั้ง Shanghaiist กลาว เจมส์ กริฟฟิธส์ ผู้ที่เคยทำงานที่ Shanghaiist ระบุว่า พวกเขาบีบเค้นและทำงานสุดกำลังเพื่อให้ได้ข่าวออกมาโดยที่มีค่าตอบแทนจำนวนไม่มากนัก
 
นักกิจกรรมที่ชื่อชอน คิง ทวิตว่าเขารู้สึกโกรธในสิ่งที่เกิดขึ้นกับสื่อ DNAinfo และ Gothamist "พวกเขาจัดตั้งสหภาพแรงงานกันเพียงเพื่อให้เศรษฐีเลวทรามเจ้าของบริษัทปิดตัวพวกเขาลง"
 
 
โนแลนระบุถึงกรณี Gothamist-DNAinfo สหภาพสื่อทำอะไรให้ชาวอเมริกันมากกว่าพวกคนรวย 
 
แฮมิลตัน โนแลน นักเขียนอาวุโสของ Splinter ระบุว่านักข่าวมักจะได้เห็นปัญหาในที่ทำงานอย่างค่าจ้างน้อย การจัดการที่ไม่มีประสิทธิภาพ และการสื่อสารกันไม่ดีพอ ซึ่งเป็นปัญหาเดียวกับที่เกิดขึ้นในที่ทำงานจำนวนมากทั่วสหรัฐฯ แต่อุตสาหกรรมสื่อในสหรัฐฯ ก็กำลังพยายามรวมกลุ่มจัดตั้งสหภาพกันเพื่อให้อุตสาหกรรมสื่อดีขึ้น ถึงแม้หลายคนจะมองว่าการจัดตั้งสหภาพแรงงานนั้น "ล้าสมัย" ไปแล้ว แต่อุตสาหกรรมเทคโนโลยีที่ยังคงเป็นน้องใหม่ก็กลายเป็นสหภาพแรงงานที่ประสบความสำเร็จที่มองเห็นได้มากที่สุดในสหรัฐฯ แต่สิ่งที่ริคเกตต์สกระทำกับสื่อที่พยายามเข้าร่วมก็เป็นเรื่องน่าเสียใจ
 
โนแลนระบุถึงความไม่จริงใจในถ้อยแถลงของริคเกตต์สด้วยว่า ถึงแม้ DNAinfo จะไม่ได้ทำกำไรจริง แต่ริคเกตต์สก็ยังลงทุนต่อมากว่า 8 ปี ขณะที่ Gothamist นั้นจริงๆ แล้วทำกำไรได้ดี แต่เขากลับเลือกปิดตัวสื่อลงหลังจากที่สื่อ Gothamist ตัดสินใจเข้าร่วมสหภาพ แทนที่เขาจะเลือกต่อรองกับพนักงานสมาชิกสหภาพจำนวนหนึ่งเขากลับเลือกเลย์ออฟพนักงานนับร้อย ก่อนที่จะกลับไปนอนในที่พักมูลค่า 29 ล้านดอลลาร์
 
"ความคิดที่ว่าพนักงานอย่างใน DNAinfo-Gothamist มีแรงจูงใจจะทำให้นายจ้างตัวเองล้มละลายนั้นเป็นความคิดที่น่าขัน พวกเขาทำงานที่นั่น พวกเขามีแรงจูงใจอย่างมุ่งมั่นในการที่จะทำให้สถานที่ทำงานของพวกเขาดีขึ้น ความสำเร็จของพวกเขาผูกโยงอยู่กับความสำเร็จของบริษัทด้วยเช่นกัน" โนแลนระบุในบทความ
 
โนแลนมองว่าสหภาพแรงงานทำอะไรๆ ให้ชาวอเมริกันมากกว่าพวกคนรวยทุกคนรวมกันเสียอีก สหภาพเป็นทั้งสิทธิตามกฎหมายและเครื่องมือต่อสู้ของคนงาน คนทำสื่ออย่าง DNAinfo และ Gothamist ต่างก็ช่วยประชาชนในการรายงานสิ่งที่เกิดขึ้นนเมืองของพวกเขา แต่ก็ถูกลงโทษเพียงเพราะใช้สิทธิของตัวเอง
 
มีการพยายามกีดกันการร่วมสหภาพของนักข่าวแล้วสองครั้งใหญ่ๆ อีกครั้งหนึ่งคือกรณีที่ฮัฟฟิงตันโพสต์เลย์ออฟพนักงาน 39 รายที่เป็นตัวแทนของสมาคมนักเขียนแห่งอเมริกาอีสต์ กระนั้นก็ตาม ตั้งแต่ปี 2558 จนถึงตอนนี้ก็มีพนักงานของสื่อออนไลน์ต่างๆ เข้าร่วมสหภาพมากขึ้นเรื่อยๆ ไม่ว่าจะเป็นสื่อ Vice, MTV News, ThnkProgress, The Intercept, Slate, Salon สื่อต่างๆ เหล่านี้ล้วนเข้าร่วมสมาคมนักเขียนแห่งอเมริกาอีสต์ หรือไม่ก็สมาคมนิวส์กิลด์ (NewsGuild) ซึ่งเป็นสหภาพอีกแห่งหนึ่ง
 
 
 
เรียบเรียงจาก
 
Billionaire shuts down US and Chinese news sites after staff join union, The Guardian, 03-11-2017
 
News workers unionized. Days later, they were jobless. Was it payback?, The Guardian, 04-11-2017
 
ถ้อยแถลงการปิดตัว DNAinfo และ Gothamist, 02-11-2017
 
A Billionaire Destroyed His Newsrooms Out of Spite, The New York Times, 03-11-2017
 

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net