Skip to main content
sharethis

เลื่อนนัดฟังคำสั่งฟ้อง สุลักษณ์ ศิวรักษ์ ในข้อหา ผิด ม.112 กรณีวิพากษ์ประวัติศาสตร์พระนเรศวรฯ ไป 17 ม.ค.61 เหตุคดีนี้มีความละเอียดอ่อน สอบพยานผู้เชี่ยวชาญเพิ่ม ด้าน ส.ศิวรักษ์ ชี้ ถ้าหมิ่นพระนเรศวรไม่ได้ ก็หมิ่นพระเจ้าเอกทัศน์ พระเจ้าเหาไม่ได้ ดังนั้นประวัติศาสตร์ก็เรียนไม่ได้

 

ภาพจาก Banrasdr Photo

7 ธ.ค.2560 Banrasdr Photo รายงานว่า อัยการศาลทหารเลื่อนนัดฟังคำสั่งฟ้อง สุลักษณ์ ศิวรักษ์ หรือ ส.ศิวรักษ์ ในข้อหาความผิดกฎหมายอาญามาตรา 112 จากกรณีวิพากษ์ประวัติศาสตร์พระนเรศวรมหาราช ในงานเสวนาที่มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์เมื่อปี 2557 โดยอัยการศาลทหารนัดฟังคำสั่งอีกครั้งในวันที่ 17 ม.ค. 2561

โดยเมื่อวันที่ 9 ต.ค.ที่ผ่านมา พวงทิพย์ บุญสนอง ทนายความของ สุลักษณ์ เปิดเผยว่า พนักงานสอบสวนสรุปสำนวนคดีดังกล่าวเสร็จแล้ว และมีความเห็นควรสั่งฟ้องคดีที่ สุลักษณ์ ถูกทหารเข้าแจ้งความให้เจ้าพนักงาสอบสวน สน.ชนะสงคราม  ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 112 ความผิดฐานหมิ่นพระบรมเดชานุภาพ เมื่อวันที่ 16 ต.ค. 2557 จากรณีที่ สุลักษณ์ ได้ร่วมอภิปรายเรื่อง “ประวัติศาสตร์ว่าด้วยการชำระและการสร้าง” ที่มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ จัดโดยคณะสภาหน้าโดม เมื่อวันที่ 5 ต.ค. 2557 โดยกล่าวหาว่าในการอภิปรายดังกล่าวสุลักษณ์ได้กล่าวหมิ่นพระบรมเดชานุภาพอดีตพระมหากษัตริย์ คือ สมเด็จพระนเรศวรมหาราช โดยกล่าวว่า การทรงกระทำยุทธหัตถีไม่มีจริง และมีอีกหลายถ้อยคำที่เข้าข่าย “หมิ่นเบื้องสูง” นั้น

บีบีซีไทย รายงานว่า เมื่อเวลา 10.10 น. สุลักษณ์ เปิดเผยว่า คดีนี้มีความละเอียดอ่อน อัยการทหารได้ให้เวลา 1 เดือนในการสอบพยานผู้เชี่ยวชาญเพิ่มเติม ก่อนนัดฟังคำสั่งว่าจะฟ้องหรือไม่ 

พร้อมเผยรายชื่อพยานหลายคน ซึ่งเป็นนักกฎหมาย และนักวิชาการด้านประวัติศาสตร์อาทิ คณิต ณ นคร อดีตอัยการสูงสุด กิตติศักดิ์ ปรกติ นักกฎหมาย รวมถึงนักประวัติศาสตร์เมียนมา เป็นต้น

 

สุลักษณ์ กล่าวถึงการพูดในงานเสวนาที่มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ วิพากษ์ประวัติศาสตร์การกระทำยุทธหัตถีของสมเด็จพระนเรศวรมหาราช อันนำมาสู่การแจ้งความดำเนินคดีในข้อหาหมิ่นพระบรมเดชานุภาพว่า "ถ้าเกิดว่าหมิ่นพระนเรศวรไม่ได้ ก็หมิ่นพระเจ้าเอกทัศน์ พระเจ้าเหาไม่ได้ ดังนั้นประวัติศาสตร์ก็เรียนไม่ได้"

วานนี้ (6 ธ.ค.60) ฮิวแมนไรท์วอทช์ ออกคำแถลง เรียกร้องอัยการทหารไทย ควรถอนฟ้องข้อกล่าวหาต่อ สุลักษณ์ ด้วย 

“การนำกฎหมายหมิ่นพระบรมเดชานุภาพมาใช้อย่างมิชอบของรัฐบาลทหาร ได้รุนแรงถึงขั้นที่เป็นความเหลวไหล เมื่อนักวิชาการท่านสำคัญถูกดำเนินคดีอาญา เนื่องจากการตั้งคำถามต่อสงครมมยุทธหัตถีซึ่งเกิดขึ้นเมื่อศตวรรษที่ 16” แบรด อดัมส์ (Brad Adams) ผู้อำนวยการภูมิภาคเอเชีย ฮิวแมนไรท์วอทช์ กล่าว พร้อมย้ำด้วยว่า เสรีภาพทางวิชาการและเสรีภาพในการแสดงความเห็นในประเทศไทย จะได้รับผลกระทบใหญ่หลวง หากมีการไต่สวนคดีต่อสุลักษณ์เกิดขึ้นจริง

สำหรับประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112 ระบุว่า “ผู้ใดหมิ่นประมาท ดูหมิ่นหรือแสดงความอาฆาตมาดร้ายพระมหากษัตริย์ พระราชินี รัชทายาท หรือผู้สำเร็จราชการแทนพระองค์ ต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่สามปีถึงสิบห้าปี”
 
ฮิวแมนไรท์วอทช์ ชี้ว่า ไม่มีเนื้อความใดในกฎหมายบ่งบอกว่ามาตรานี้ครอบคลุมถึงบุคคลอื่น ๆ อย่างพระมหากษัตริย์ในอดีตหรือคำอธิบายทางประวัติศาสตร์เกี่ยวกับรัชกาลในอดีต แต่ในช่วงหลายปีที่ผ่านมา ทางการไทยได้ตีความกฎหมายนี้อย่างกว้างขวางมากขึ้นเรื่อย ๆ ทั้ง ๆ ที่ไม่สอดคล้องกับเนื้อหาตามกฎหมาย
 

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net