Skip to main content
sharethis

ปฏิกิริยาของคนเสื้อแดงอีสานหลังจากได้เห็นภาพของตัวเองประกอบกับข้อความบรรยายภาพที่ถูกเขียนโดยทหารถูกเผยแพร่บนเฟสบุ๊คของผู้สื่อข่าวอาวุโสจากบางกอกโพสต์


ที่มา: เฟสบุ๊ควาสนา นาน่วม

19 มกราคม 2561 วิไล หน่อแก้ว อดีตข้าราชการครูวัย 62 ปี คนเสื้อแดงจาก อ.นิคมคำสร้อย มุกดาหาร ได้ขอให้ช่วยเผยแพร่ถึงสิ่งที่ตัวเธอเองและสามีต้องประสบอยู่ให้สาธารณะได้รับรู้อย่างที่มันเป็น สิ่งที่เธอส่งมาด้วยก็คือ ภาพของเธอที่ไปปรากฏในสเตตัสบนเฟสบุ๊คของ วาสนา นาน่วม ผู้สื่อข่าวอาวุโส นสพ.บางกอกโพสต์

วิไลกล่าวว่า ข้อความที่ปรากฏบนเฟสบุ๊คของวาสนา ผิดจากความจริง ได้สร้างปัญหาและความเสื่อมเสียให้กับเธอและครอบครัว ประชาไทจึงได้พูดคุยและเก็บความบางส่วนที่เกี่ยวข้องมาเผยแพร่สู่สาธารณะ
 

ความเป็นมา 

เหตุการณ์ในภาพ เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 16 มกราคม 2561 เจ้าหน้าที่ทหารในเครื่องแบบ 5 คน ได้เดินทางมาพบกับวิไลและเดชณรงค์ หน่อแก้ว สองสามีภรรยาที่บ้านพัก

"มาเป็นประจำสัปดาห์ละครั้ง ตั้งแต่มีการรัฐประหาร 2557 ทหารจะมาที่บ้านทุกสัปดาห์ เพราะเขาหมายหัวว่าเป็นแกนนำคนเสื้อแดง ครั้งนี้มีนายทหารมา 5 คน เข้ามาสอบถามเราในบริเวณบ้าน 2 คน พูดคุยสอบถาม 1 คน เดินถ่ายรูป 1 คน  ส่วนอีก 3 คน ก็จะยืนคุมเชิงอยู่นอกรั้วบ้าน แต่สิ่งที่คุณวาสนาเอาไปรายงานข่าวมันไม่ถูกต้อง"

วิไลเล่าว่าตอนรัฐประหาร 2557 ทหารติดอาวุธได้ลงมาตรึงกำลังที่บ้านของเธอตลอด 24 ชั่วโมง เป็นเวลาเกือบเดือน หลังจากนั้น เธอและสามีก็ยังต้องเข้าไปรายงานตัวที่ค่ายทหารเป็นระยะ  

"ช่วงนั้นไม่มีโอกาสได้พบใครเลย ใครจะมาหาที่บ้าน ทหารก็จะไม่ให้เข้า จะออกไปซื้อกับข้าวก็ต้องขออนุญาตกับทหาร เกือบสองสัปดาห์ ทหารถึงได้ถอนกำลังไป แต่ก็จะมีทหารมาพบและมาสอบถามเรื่องราวความเคลื่อนไหวของเราตลอดมากว่าสามปี"


ที่บอกว่าการนำเสนอข่าวของวาสนาสร้างปัญหา มันเป็นการสร้างปัญหาอย่างไร?

"คุณวาสนาไปเขียนว่าทหารมาเยี่ยมเยียนเรา ซึ่งเป็นการเสนอข่าวที่ผิดความจริง เพราะที่จริงแล้วทหารมาเพื่อสอบถามความเคลื่อนไหวของพวกเรา ไม่ว่าจะมีเรื่องอะไรเกิดขึ้นที่ไหน ทหารก็จะมาถามเอากับเราว่ารู้เรื่องหรือไม่ ล่าสุด มีการพบปฏิทินทักษิณ-ยิ่งลักษณ์ที่ศรีสะเกษ ทหารก็จะมาสอบถามเอากับเรา "

"มันไม่ได้เป็นการเยี่ยมเยียนแต่มันเป็นการควบคุมพวกเรา"


จากข้อความ "ทหาร ไป พบปะ 2สามี ภริยา "ผู้เห็นต่างทางการเมือง" นั้น เราซึ่งเป็นสามี -ภรรยา ในภาพ ไม่ได้เป็นผู้เห็นต่างทางการเมือง เราคือประชาชนธรรมดาที่ยึดมั่นในระบอบประชาธิปไตยเท่านั้น โปรดอย่าใช้ความเป็นสื่อ มายัดเยียดให้คนที่เชื่อมั่นในระบอบประชาธิปไตยเป็นผู้เห็นต่าง


คำว่าผู้เห็นต่างมีปัญหาอย่างไร?

มันเป็นคำพูดที่รุนแรง เป็นคำพูดที่บั่นทอนจิตใจของเรา ที่นี่เป็นพื้นที่ที่เคยมีการเคลื่อนไหวของคอมมิวนิสต์ คำว่าผู้เห็นต่างเป็นคำพูดที่เจ้าหน้าที่รัฐใช้เรียกคอมมิวนิสต์ซึ่งเป็นฝ่ายตรงข้ามกับรัฐ

"ที่ผ่านมาก็มีทหารมาพบมาสอบถามที่บ้านทุกอาทิตย์ ชีวิตมันไม่ปกติ สภาพจิตใจมันก็แย่อยู่แล้ว การที่คุณวาสนาเอาภาพของเราไปเผยแพร่กับข้อความของทหาร มันก็เป็นสิ่งที่ไม่ถูกต้อง มันทำให้คนเข้าใจผิด มันเป็นการละเมิดความเป็นส่วนตัวของเรา มันยิ่งเป็นการทำให้เรารู้สึกแย่ลงไปอีก"

"ถ้าอยากรายงานข่าวของเราทำไมไม่มาสัมภาษณ์เรา"


"เราอยากบอกคุณวาสนาว่า เราไม่ใช่ผู้เห็นต่าง (ทางการเมือง) เราก็เป็นแค่ผู้เลื่อมใสในระบอบประชาธิปไตย เราเป็นแค่คนเสื้อแดงเท่านั้น ถ้าคุณบอกว่าเราเป็นผู้เห็นต่าง เราอยากถามคุณวาสนาว่า ไอ้คำว่าเห็นต่างทางการเมืองของคุณ มันคืออะไร การเมืองในมุมมองของคุณวาสนาคืออะไร ถึงได้มาบอกว่าเราเป็นผู้เห็นต่าง"


 

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net