Skip to main content
sharethis

คณะกรรมการของรัฐบาลเกาหลีใต้เปิดเผยเมื่อวันที่ 7 ก.พ. ที่ผ่านมาว่า ในเหตุการณ์ปราบปรามผู้ชุมนุมเรียกร้องประชาธิปไตยกวางจูเมื่อปี 2523 มีการใช้เฮลิคอปเตอร์ติดปืนยิงใส่ประชาชนจริง ซึ่งถือว่าเป็นอาชญากรรมที่มีความรุนแรงในระดับสังหารหมู่และนับเป็นอาชญากรรมต่อมนุษยชาติ



 
ในเหตุการณ์เมื่อเดือน พ.ค. ปี 2523 ที่เรียกว่าขบวนการทำให้เป็นประชาธิปไตยกวางจู เป็นเหตุการณ์ที่มีประชาชนออกมาชุมนุมต่อต้านเผด็จการทหารของนายพลชุน ดูฮวาน ล่าสุด มีการเปิดเผยจากรัฐบาลเกาหลีใต้ว่ามีการปราบปรามผู้ชุมนุมโดยการใช้เฮลิคอปเตอร์ 500MD และ UH-1H รวมถึงเครื่องบินเจ็ทที่มีระเบิดเตรียมพร้อมเป็นกำลังเสริม

หลังจากการสืบสวนเป็นเวลานาน 5 เดือนโดยคณะกรรมการเฉพาะกิจที่ตั้งโดยกระทรวงกลาโหมภายใต้รัฐบาลมุนแจอินของเกาหลีใต้ทำให้ได้ข้อสรุปดังกล่าว คณะกรรมการนี้มีทั้งเจ้าหน้าที่ทหาร ตำรวจ อัยการ ข้าราชการราว 30 ราย และกรรมการฝ่ายพลเรือน 9 ราย พวกเขาสืบสวนเก็บข้อมูลโดยการทบทวนเอกสารราว 620,000 หน้าและสัมภาษณ์คนมากกว่า 120 คน

แม้ว่าจะยังไม่มี "หลักฐานระดับชี้ขาด" ว่ามีคำสั่งโดยตรงมาจากผู้นำทหารในการใช้เฮลิคอปเตอร์สั่งยิงผู้ชุมนุม แต่ก็มีคำให้การจากผู้เห็นเหตุการณ์จำนวนมากชี้ให้เห็นว่ามีการสังหารผู้คนด้วยอาวุธปืนเฮลิคอปเตอร์จริงในวันที่ 21 พ.ค. - 27 พ.ค. 2523 ที่พื้นที่ใกล้กับที่ว่าการจังหวัดช็อลลาใต้ ซึ่งเป็นกองบัญชาการของผู้ชุมนุมในท้องถิ่น

โดยมีหลักฐานก่อนหน้านี้แสดงให้เห็นว่ามีรอยกระสุนที่ชั้น 10 ของอาคารที่ว่าการจังหวัด โดยมีการตั้งสมมติฐานว่าน่าจะมาจากอาวุธปืนกล M60 ที่ติดอยู่กับเฮลิคอปเตอร์ UH-1H หรือไม่ก็เป็นกระสุนของปืนยาว M16

มีสมมติฐานความเป็นไปได้อีกอย่างหนึ่งคือการใช้กระสุนปืนวัลแคนยิงจากเฮลิคอปเตอร์โจมตีคอบร้า จากการที่มีอดีตนักบิน 4 นาย ให้การไว้ว่าพวกเขาได้รับคำสั่งให้วางกำลังในกวางจูเมื่อวันที่ 22 พ.ค. 2523 ด้วยเฮลิคอปเตอร์ AH-1J Cobra พร้อมกระสุนวัลแคน 500 นัด

คณะกรรมการสืบสวนข้อเท็จจริงประกาศว่ากองทัพภายใต้กฎอัยการศึกยิง "เตือน" ใส่ประชาชนทั่วไปในวันที่ 21 พ.ค. จากเฮลิคอปเตอร์ พวกเขากระทั่งยิงใส่พลเมืองที่ไม่มีอาวุธโดยตรง การกระทำเช่นนี้ถือเป็นการกระทำที่บ้าบิ่น ไร้มนุษยธรรม เป็นหลักฐานที่แสดงให้เห็นถึงความป่าเถื่อน โหดร้าย และเป็นอาชญากรของปฏิบัติการปราบปรามการลุกฮือของประชาชน

นอกจากนี้คณะกรรมการยังพูดถึงกรณีการยิงจากเฮลิคอปเตอร์ในวันที่ 27 พ.ค. ว่าเป็นการโจมตีประชาชนโดยมีการไตร่ตรองไว้ล่วงหน้าและวางแผนไว้ซับซ้อน โดยเป็นการโจมตีใส่ประชาชนที่อาวุธคาลวินไรเฟิลและอาวุธทั่วไปอื่นๆ ซึ่งทางคณะกรรมการระบุว่าเป็น "การสังหารหมู่ประชาชนจำนวนมาก"

ปฏิบัติการทางทหารในครั้งนั้นยังมีการเตรียมพร้อมเครื่องบินรบ F-5 และ A-37 ที่บรรทุกระเบิด MK-82 เอาไว้เตรียมพร้อมในอีกสองเมืองด้วย อย่างไรก็ตามยังไม่มีหลักฐานที่แน่ชัดว่าเครื่องบินสองลำดังกล่าวเตรียมเอาไว้ทิ้งระเบิดใส่เมืองกวางจู

จากการที่ข้อมูลเอกสารและหลักฐานอื่นๆ ยังมีจำกัด ทำให้คณะกรรมการเรียกร้องให้มีการออกกฎหมายพิเศษสำหรับการสืบหาความจริงในประวัติศาสตร์โศกนาฏกรรมนี้ อีกทั้งยังเรียกร้องให้รัฐเกาหลีใต้และกองทัพขอโทษประชาชนเนื่องจากปฏิบัติการในครั้งนั้นไร้มนุษยธรรมและเป็นอาชญากรรมที่ยอมรับไม่ได้

มีการประเมินว่าประชาชนในกวางจูราว 200,000 คนจากประชากรของเมือง 750,000 คน เข้าร่วมการลุกฮือต่อต้านรัฐบาลในครั้งนั้น โดยที่มีการวางกำลังทหารมากกว่า 20,000 นาย ออกมาปราบปรามผู้เรียกร้องประชาธิปไตย โดยขบวนการนี้เริ่มแรกมาจากกลุ่มนักศึกษา หลังจากกลุ่มนักศึกษาถูกกองทัพทุบตีและจับกุมก็ทำให้พลเมืองธรรมดาทั่วไปจำนวนมากออกมาร่วมกับการชุมนุม พอมีเหตุการณ์ที่ทหารยิงใส่ประชาชนมือเปล่า ทำให้มีบางส่วนเริ่มติดอาวุธตัวเองเป็นกองกำลังประชาชนเพื่อปกป้องคุ้มครองประชาชนด้วยกันเอง

เหตุการณ์ในกวางจูมีผู้เสียชีวิตราว 200 ราย บาดเจ็บราว 1,000 ราย ตามการประเมินของทางการ แต่ก็มีบางส่วนประเมินว่าผู้เสียชีวิตน่าจะราว 1,000 - 2,000 ราย

 

 

เรียบเรียงจาก

Military's helicopter shooting during 1980 Gwangju Democratization Movement confirmed, Korea Herald, 07-02-2018

http://www.koreaherald.com/view.php?ud=20180207000309

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net