ผมลืมไปว่า ผู้ปกครองเผด็จการ ปกติไม่ฟังเสียงประชาชนอยู่แล้ว นี่คือโฉมหน้าทหาร ผู้ลอยหน้าลอยตา ในยามที่ชาวบ้านกระบี่-เทพาอดข้าวล้มไปทีละคนสองคน การอดข้าวหน้าทำเนียบรัฐบาลเพื่อให้ยกเลิกโครงการโรงไฟฟ้าถ่านหินกระบี่และเทพา จึงยังไม่มีสัญญาณใดๆจากนายกรัฐมนตรี  มีเพียงโฆษกไก่อู ที่ออกมาตอบโต้

รัฐบาลช่วงนี้ออกสโลแกนวาทกรรมใหม่ "ไทยนิยม" มาเสริมแรงวาทกรรม "ไทยแลนด์ 4.0 และประชารัฐ" ที่เริ่มไปไม่รอด และเสียคะแนนไปมากจากเรื่องนาฬิกา ความน่าสนใจของการรีบเร่งสร้างวาทกรรม "ไทยนิยม" ขึ้นมาในครั้งนี้ เกี่ยวอะไรกับถ่านหิน?

"ไทยนิยม" ชัดเจนว่า เป็นวาทกรรมเพื่อการเตรียมการเลือกตั้งในปี 2562 ที่พรรคทหารพร้อมจะสานต่ออำนาจเผด็จการ คสช. การเลือกตั้งต้องใช้เงินมหาศาล การตุนกระสุนจึงเป็นหัวใจของชัยชนะ และทุนฟอสซิลคือกลุ่มทุนหลักของประเทศไทยที่ใครๆก็ต้องซูฮก เพราะมิเช่นนั้นอาจจะขาดแคลนกระสุนได้

จึงไม่แปลกที่นโยบายดีๆเช่น ส่งเสริมการติดโซลาร์รูฟท็อบบนหลังคาเพื่อผลิตไฟใช้เอง นโยบาย net metering ที่ให้ทุกหลังคาเรือนหากผลิตไฟเหลือใช้ก็ขายคืนให้การไฟฟ้าได้ หรือนโยบายการส่งเสริมการผลิตไฟฟ้าจากพลังงานลม-ชีวภาพ รวมทั้งการเลิกสัมปทานในอ่าวไทยแต่หันมาแบ่งปันผลผลิตแทนจึงไม่เกิด มีแต่นโยบายจะดันแต่โรงไฟฟ้าถ่านหินให้ได้

คนกระบี่-เทพา อดข้าวประท้วงในครั้งนี้ เขาไม่ได้สู้อยู่กับ กฟผ.ผู้เป็นเจ้าของโครงการโรงไฟฟ้าหรอก แต่เขาต้องสู้กับอำนาจรัฐเผด็จการที่กำลังจะตั้งพรรคทหารที่เปลี่ยนเสื้อจากชุดลายพรางมาใส่เสื้อชุดไทย เป็น "พรรคไทยนิยม" ที่เน้นหนักการตุนกระสุนไว้รอเลือกตั้ง ซึ่งแน่นอนว่าทุนฟอสซิลและทุนถ่านหินคือผู้สนับสนุนหลักอย่างเป็นทางการ ไทยนิยมและถ่านหินนิยมจึงเป็นคนละด้านของเหรียญเดียวกัน เหรียญแห่งการคอรัปยึดประเทศของชนชั้นนำ

การอดข้าวครั้งนี้คนกระบี่-เทพาคงไม่ชนะแน่ หากคนไทยไม่ลุกขึ้นมาช่วยกัน สำหรับผม นี่ไม่ใช่เพียงการคัดค้านโรงไฟฟ้าถ่านหินเท่านั้น แต่นี่คือการชี้ให้เห็นถึงความเลวร้ายของระบอบเผด็จการด้วย