Skip to main content
sharethis
หนุ่มสาวปัตตานีรวมตัวจัดกิจกรรมแสดงความหวังที่จะเห็นสามจังหวัดชายแดนภาคใต้สงบสุข ผ่านการแสดงดนตรี ศิลปะและงานทำมือ 
 

ผู้จัดงานแต่งกายในธีม indigo ธีมสีของงาน ภาพโดย Abdulghani Ismail  
 

 
จินา (ซ้าย) และ บูดูลิตเติ้ล ภาพโดย Abdulghani Ismail 
 


ภาพโดย Abdulghani Ismail 
 

ผลิตภัณฑ์ทำมือจาก Trash Hero Pattani ภาพโดย Abdulghani Ismail 
 

อันธิฌา แสงชัย แสดงกีตาร์และร้องเพลง 
 
เมื่อวันที่ 17 ก.พ. 2561 คนรุ่นใหม่ในสามจังหวัดชายแดนภาคใต้ในนามกลุ่มสายบุรีลุคเกอร์จัดงาน The Face of Hope ที่ร้านสะมิแล ใกล้ มอ.ปัตตานี ในงานมีการแสดงศิลปะ ดนตรี ฉายหนังสั้น มิวสิควิดิโอ และขายผลงานทำมือ โดยทั้งหมดเป็นผลงานของคนรุ่นใหม่ในสามจังหวัดชายแดนภาคใต้ 
 
อานัส พงค์ประเสริฐ กลุ่มสายบุรีลุคเกอร์ บอกกับประชาไทว่า ทางกลุ่มหวังอยากให้งานนี้เป็นสัญลักษณ์ของความหวังของคนในพิ้นที่ โดยเฉพาะกลุ่มคนหนุ่มสาว โดยเป็นการแสดงออกถึงความหวังผ่านดนตรี เรื่องเล่า ศิลปะ และไลฟ์สไตล์ "เราเชื่อว่า คนที่อยู่ที่นี่เขายังมีความหวัง เราอยากให้กิจกรรมนี้เป็นพื้นที่ที่คนที่ยังมีความหวังได้มาพบปะ แลกเปลี่ยนความหวัง และวิสัยทัศน์ของพวกเขาต่อพื้นที่แห่งนี้ ที่จะทำให้เรามีกำลังใจ เชื่อว่าเราสามารถเดินหน้าสร้างความเปลี่ยนแปลงในพื้นที่นี้ได้" อานัสกล่าว "พื้นที่นี้ถูกมองว่าเป็นพื้นที่เต็มไปด้วยความรุนแรง ความโศกเศร้าสูญเสียมาอย่างยาวนาน แต่นั่นไม่ใช่ทั้งหมด เราอยากนำด้านที่เป็นความหวังของคนในพื้นที่ออกมาให้เห็น ผ่านกิจกรรมที่เราจัดในวันนี้" 
 
เขากล่าวต่อว่า งานนี้เป็นงานภาคต่อของงานเดอะเคราไนท์ ดนตรี กวี ศิลป์ ซึ่งจัดไปเมื่อเดือน มี.ค. 2559 ซึ่งเป็นงานแสดงดนตรีและศิลปะเพื่อส่งเสริมความเป็นสังคมพหุวัฒนธรรมของสามจึงหวัดชายแดนภาคใต้ และยังสอดแทรกเนื้อหาถึงความต้องการสันติภาพ (อ่านเพิ่มเติม: นักกิจกรรม 3 จว.ชายแดนใต้ 'รื้อ ถอน สร้าง' ความเข้าใจของชาวมลายูมุสลิม ต่อดนตรีและศิลปะ)
 
ในงาน The Face of Hope นี้ มีศิลปินที่มาแสดงหลักคือ บูดูลิตเติ้ล และจิน่า นักร้องนักแต่งเพลงชาวมลายูมสุลิม ที่สร้างสรรค์ผลงานเพลงภาษามลายูและภาษาอังกฤษ และเสริมด้วยนักดนตรีสมัครเล่นแต่เป็นคนที่มีบทบาทสำคัญในพื้นที่อย่าง อันธิฌา แสงชัย อาจารย์ด้านปรัชญา มอ. ปัตตานี นักกิจกรรมด้านสิทธิผู้หญิงและสิทธิผู้มีความหลากหลายทางเพศ และเจ้าของร้านหนังสือบูคู เป็นต้น
 
อานัสกล่าวเสริมว่า เขาจะนำกิจกรรมแบบเดียวกันไปจัดที่จังหวัดนราธิวาสในเร็วๆ นี้ 
 
"ถึงแม้เหตุการณ์จะรุนแรงขึ้นและเราก็เสียใจกับสิ่งที่เกิดขึ้น แต่เราไม่เคยหมดหวัง เราก็ยังพยายามที่จะทำอะไรบางอย่างเพื่อให้เกิดความเปลี่ยนแปลง ถึงจะมีระเบิดอีกกี่ครั้งก็ตาม เราก็จะลุกขึ้นมาทำตามความหวังของเรา" อานัสกล่าว 

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net