Skip to main content
sharethis

ศรีลังกาประกาศสถานการณ์ฉุกเฉิน หลังเกิดเหตุกลุ่มคนบุกทำร้ายและเผาบ้านเรือนร้านค้าชาวมุสลิมในเมืองแคนดี ทางการศรีลังกาเชื่อเป็นเพราะมีพระชาวพุทธสุดโต่งไม่กี่คนยุยงปลุกปั่น โดยอาศัยอ้างกรณีความขัดแย้งระหว่างบุคคลที่มีการทำร้ายร่างกายจนเสียชีวิต 

รัฐบาลศรีลังกาประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินเมื่อวันที่ 6 มี.ค. ที่ผ่านมา หลังมีกลุ่มคนใช้ความรุนแรงต่อประชากรชาวมุสลิมในย่านใจกลางเมืองแคนดี โดยผู้ก่อเหตุส่วนใหญ่เป็นกลุ่มชาวเชื้อสายสิงหลจู่โจมร้านค้าและบ้านเรือนของชาวมุสลิมหลายหลังรวมถึงมัสยิดอย่างน้อยหนึ่งแห่ง มีอย่างน้อย 1 คนเสียชีวิตจากเหตุการณ์โดยพบเป็นศพอยู่ในบ้านที่ถูกเผาทำให้เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยของทางการรวมถึงหน่วยพิเศษออกมาวางกำลังควบคุมสถานการณ์และประกาศบังคับใช้เคอร์ฟิวเพราะกลัวว่าจะเกิดเหตุรุนแรงตอบโต้กัน

นิวยอร์กไทม์ระบุว่าความขัดแย้งล่าสุดนี้สะท้อนให้เห็นว่าความเปราะบางของสังคมศรีลังกาที่ยังคงพยายามฟื้นตัวเองจากสงครามกลางเมืองที่เคยเกิดขึ้นมาหลายสิบปีก่อนหน้านี้

เอส บี ดิสซานายาเก รัฐมนตรีประจำรัฐสภาศรีลังกาแถลงว่ารัฐบาลประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินเป็นเวลา 10 วัน เนื่องจากมีความสงสัยว่าตำรวจจะทำหน้าทีได้รวดเร็วพอหรือไม่ ทางรัฐสภาจึงมีมติประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินเพื่อรับมือสถานการณ์

ชนวนเหตุรุนแรงในศรีลังกาครั้งนี้เริ่มต้นมาจากความขัดแย้งส่วนบุคคลระหว่างชาวสิงหลกับชาวมุสลิมที่ทะเลาะกันเรื่องการจราจร มีชายคนขับรถบรรทุกชาวสิงหลถูกกลุ่มชาวมุสลิมรุมทำร้ายจนได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิตที่โรงพยาบาลในเวลาต่อมาเมื่อวันที่ 2 มี.ค.

เจ้าหน้าที่ทางการและผู้อาศัยในแคนดีเปิดเผยว่าหลังจากการเสียชีวิตของคนขับรถบรรทุกก็มีพระชาวพุทธสายสุดโต่งยุยงปลุกปั่นให้เกิดวามรุนแรงระหว่างกลุ่มชุมชน ซึ่งริฉัด บาทิวดีน รัฐมนตรีกระทรวงอุตสาหกรรมและพาณิชย์เรียกร้องให้มีการจับกุมตัวพระสองรูปที่ทำการยุยงปลุกปั่นให้เกิดตวามรุนแรงดังกล่าว แม้ว่าพระสายสุดโต่งจะออกมาแสดงความเสียใจต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นแล้วก็ตาม

บาทิวดีนกล่าวอีกว่าหลังจากที่คนขับรถบรรทุกเสียชีวิตเขาก็เตือนว่าให้คอยระวังการก่อจลาจลจากวามตึงเครียดระหว่างกลุ่มศาสนา โดยขอกำลังเสริมจากเจ้าหน้าที่และขอให้ชาวมุสลิมอยู่แต่ในบ้านและปิดร้านค้าของตัวเองให้ดี แต่ก็ยังมีเหตุเผาบ้านเรือนร้านค้าที่ถูกทิ้งไว้เกิดขึ้น ทำให้บาวทิวดีนแสดงความรู้สึกเสียใจที่เจ้าหน้าที่ตำรวจไม่สามารถช่วยเหลือระงับเหตุรุนแรงที่เกิดขึ้นกับชนกลุ่มน้อยได้

มีผู้รวบรวมสถานการณ์ในเรื่องนี้ระบุว่าเหตุการณ์ทะเลาะกันระหว่างชาวมุสลิมกับคนขับรถชาวสิงหลนั้นไม่เกี่ยวข้องกับความขัดแย้งระหว่างเชื้อชาติเลยและมีการจับกุมผู้ก่อเหตุทำร้ายร่างกายผู้อื่นจนเสียชีวิตแล้ว อีกทั้งหลังจากกรณีคนขับรถเสียชีวิตที่โรงพยาบาล ผู้นำชุมชนทั้งชาวพุทธและชาวมุสลิมในพื้นที่ก็ร่วมประชุมกับผู้กำกับการตำรวจเพื่อหารือไม่ให้เรื่องบานปลายกลายเป็นความขัดแย้งระหว่างเชื้อชาติหรือศาสนา นอกจากนี้ยังมีตัวแทนชาวมุสลิมไปเข้าพบตัวแทนชาวพุทธในชุมชนผู้ตาย แสดงการขอขมาต่อครอบครัวของผู้ตายรวมถึงร่วมบริจาคค่าพิธีศพ อีกทั้งยังพูดถึงรายละเอียดว่าทางชุมชนจะร่วมมือกันอย่างไรในการนำตัวผู้กระทำผิดเข้าสู่กระบวนการยุติธรรม

อย่างไรก็ตามกลุ่มพระที่เป็นสายสุดโต่งก็อ้างใช้เหตุการณ์นี้ยุยงให้เกิดความเกลียดชังจนต้องสงสัยว่าพวกเขามีส่วนเกี่ยวข้องทำให้เกิดเหตุรุนแรงต่อกลุ่มชาวมุสลิมตั้งแต่ช่วงต้นสัปดาห์ที่ผ่านมา

นิวยอร์กไทม์ระบุว่ามีเหตุรุนแรงต่อชาวมุสลิมเกิดเพิ่มขึ้นในศรีลังกาช่วงในไม่กี่ปีที่ผ่านมา ขณะที่กลุ่มผู้นำของศรีลังกาพยายามยับยั้งความเหิมเกริมแบบชาตินิยมของกลุ่มชาวพุทธเชื้อสายสิงหลซึ่งเป็นคนส่วนใหญ่ของศรีลังกา ไมตรีพละ ศิริเสนา ประธานาธิบดีของศรีลังกากล่าวว่าการที่รัฐบาลผสมที่อ่อนแอถูกมองว่าทำให้กลุ่มสุดโต่งเกิดความเหิมเกริมเพราะคนที่ยุยงปลุกปั่นให้เกิดความเกลียดชังถูกปล่อยให้ลอยนวลไม่ต้องรับผิดชอบใด

 

เรียบเรียงจาก

Sri Lanka Declares State of Emergency After Mob Attacks on Muslims, The New York Times, 06-03-2018

 

ข้อมูลเพิ่มเติมจาก

Situation Update on the Violence in Kandy-Sri Lanka, 06-03-2018

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net