Skip to main content
sharethis

รายงานฉบับใหม่ iLO เรื่องสภาพการทำงานในไทยของแรงงานประมงและอาหารทะเลสะท้อนภาพรวมของความก้าวหน้า การละเมิดแรงงานที่ยังพบอยู่อย่างต่อเนื่อง และข้อท้าทายที่ยังต้องเผชิญอยู่ 

ที่มาภาพประกอบ เว็บไซต์ https://shiptoshorerights.org/
 
7 มี.ค.2561 เว็บไซต์องค์การแรงงานระหว่างประเทศ หรือ ILO รายงานว่า โครงการสิทธิเรือสู่ฝั่ง ซึ่งได้รับงบประมาณสนับสนุนจากสหภาพยุโรปได้ประเมินสภาพการทำงานในอุตสาหกรรมประมงและอาหารทะเลไทยที่ถูกตรวจสอบข้อเท็จจริงอย่างเข้มข้นในช่วง 3 ปีที่ผ่านมา ผลการศึกษาวิจัยข้อมูลพื้นฐานเรื่องแรงงานประมงและอาหารทะเลในประเทศไทย เป็นงานวิจัยฉบับแรกที่ทำขึ้นในประเทศไทยที่ครอบคลุมทั้งภาคประมง ภาคอาหารทะเลและการเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำ
 
รายงานข่าวระบุต่อว่า การวิจัยได้รวมผลจากการสัมภาษณ์แรงงานในภาคประมงและอาหารทะเล จำนวน 434 คน ซึ่งส่วนใหญ่เป็นแรงงานข้ามชาติที่ทำงานให้ผู้ประกอบการรายใหญ่และรายเล็กใน 11 จังหวัด ในปี 2560 โดยได้ทำการสำรวจเกี่ยวกับการจัดหางาน ค่าจ้าง ชั่วโมงการทำงาน ความปลอดภัยและสุขภาพ บริการ กลไกร้องเรียน และสภาพความเป็นอยู่ ตลอดจนตัวชี้วัดของการบังคับใช้แรงงานและการดำเนินการตามกฎหมาย
 
ถึงแม้การศึกษาวิจัยนี้ไม่ได้ถูกออกแบบมาให้ครอบคลุมในทุกเรื่องทั้งหมด ผลการศึกษาสะท้อนทั้งความคืบหน้าและปัญหาที่แรงงานที่สัมภาษณ์ยังคงเผชิญอยู่ รายงานมีข้อเสนอแนะให้มีการบังคับใช้กฎหมายไทยให้มีประสิทธิภาพมากขึ้นเพื่อป้องกันและยุติการละเมิดสิทธิแรงงานข้ามชาติ

ผลการวิจัยที่สำคัญ

หลักฐานแห่งความก้าวหน้า 

  • กรณีการทำร้ายร่างกายน้อยลง
  • การจ้างแรงงานอายุน้อยกว่า 18 มีน้อยมาก (น้อยกว่าร้อยละ 1)
  • แรงงานข้ามชาติกว่าร้อยละ 43 มีสัญญาว่าจ้างที่เป็นลายลักษณ์อักษรเพิ่มขึ้นกว่าสีปีที่ผ่านมา
  • แรงงานประมงบางคนได้รับค่าจ้างแต่ละเดือนสูงขึ้น

การละเมิดแรงงานที่ยังพบอยู่อย่างต่อเนื่อง

  • ร้อยละ 34 ของแรงงานประมงและอาหารทะเลไม่ได้รับค่าจ้างขั้นต่ำ
  • ยังมีความไม่เท่าเทียมเรื่องค่าจ้างระหว่างหญิงชาย โดยร้อยละ 52 ของแรงงานหญิงได้รับค่าจ้างต่ำกว่าค่าจ้างขั้นต่ำ
  • ร้อยละ 24 ในภาคประมงแจ้งว่าถูกนายจ้างยึดค่าจ้าง บางคนถูกยึดค่าจ้างเป็นเวลา 12 เดือนหรือมากกว่านั้น
  • ร้อยละ 34 แจ้งว่าถูกยึดเอกสาร

รายงานขององค์การแรงงานระหว่างประเทศมีข้อเสนอแนะให้รัฐบาลไทย องค์การนายจ้าง สหภาพแรงงาน ภาคประชาสังคมและผู้ซื้ออาหารทะเลทั่วโลกร่วมมือกันผลักดันให้มีการบังคับใช้กฏหมายไทยให้มีประสิทธิภาพและให้เป็นอุตสาหกรรมที่นำไปสู่งานที่ดีมีคุณค่า

จรินทร์ จักกะพาก ปลัดกระทรวงแรงงาน กล่าวว่า “งานวิจัยข้อมูลพื้นฐานเกี่ยวกับแรงงานประมงและอาหารทะเลได้แสดงถึงความมุ่งมั่นร่วมกันของทุกหุ้นส่วนภาคีในสังคม ที่จะขับเคลื่อนและประเมินความก้าวหน้าในการดำเนินงานยกระดับคุณภาพชีวิตและมาตรฐานแรงงานในภาคประมงและอาหารทะเลให้สอดคล้องกับมาตรฐานสากล และการบรรลุเป้าหมายที่ 8 การจ้างงานที่มีคุณค่าและการเติบโตทางเศรษฐกิจ ตามกรอบการพัฒนาที่ยั่งยืนของสหประชาชาติ (Sustainable Development) โดยไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลัง (No one left behind) รวมถึงการให้ความสำคัญต่อการเป็นห่วงโซ่อุปทานของโลก (Global Supply Chain) ที่ดำเนินงานอย่างมีจริยธรรม มีความยุติธรรม และมีการจ้างงานที่มีคุณค่า อันเป็นหัวใจสำคัญของความยั่งยืน และเป็นนโยบายสำคัญของรัฐบาลไทย” 

ลุยซา แร็กเฮอร์ อุปทูตของคณะผู้แทนสหภาพยุโรปประจำประเทศไทยกล่าวว่าสหภาพยุโรปยึดมั่นในการส่งเสริมงานที่มีคุณค่าที่ครอบคลุมทั้งการสร้างงาน การประกันสิทธิประโยชน์ของผู้ใช้แรงงาน สิทธิการประกันสังคมและการเสวนาทางสังคมที่มีส่วนร่วมของทุกภาคส่วน สหภาพยุโรปยินดีและชื่นชมกับรัฐบาลไทยสำหรับความก้าวหน้าในความสำเร็จที่รวดเร็วเป็นรูปธรรม โดยเฉพาะการสร้างกรอบกฎหมายและระเบียบเพื่อพัฒนาคุณภาพการทำงานในภาคประมงและอาหารทะเลทั้งของแรงงานข้ามชาติและแรงงานไทย ทั้งนี้ สหภาพยุโรปตระหนักดีถึงข้อท้าทายและปัญหาอื่นๆ ที่ยังมีอยู่ ซึ่งทางสหภาพยุโรปพร้อมที่จะสนับสนุนและช่วยเหลือรัฐบาลไทยเพื่อให้บรรลุวัตถุประสงค์ที่ต้องการ

แกรห์ม บัคลีย์ ผู้อำนวยการสำนักงานแรงงานระหว่างประเทศประจำประเทศไทย กัมพูชา และสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว กล่าวว่า การวัดความคืบหน้าที่เป็นรูปธรรมเรื่องงานที่ดีมีคุณค่าในรายงานชิ้นนี้เป็นเรื่องที่สำคัญมาก เนื่องจากลูกจ้าง นายจ้าง ผู้กำกับดูแลกติกาและผู้ซื้ออาหารทะเลไทยล้วนมีส่วนได้ส่วนเสีย เราต้องการให้ความสามารถในการแข่งขันการค้าขายอาหารทะเลทั่วโลกมีความหมายมากกว่าราคาสินค้าที่ต่ำและคุณภาพดี เราต้องการให้ความสามารถในการแข่งขันหมายถึงงานที่ดีมีคุณค่าสำหรับแรงงานในอุตสาหกรรมนี้ทั้งหมดตั้งแต่เรือจนถึงผู้ค้าปลีก

รายงานข่าวจาก ILO ยังหมายเหตุด้วยว่า ผลของการวิจัยไม่สามารถเป็นข้อสรุปเกี่ยวกับอุตสาหกรรมประมงและอาหารทะเลในประเทศไทยได้ทั้งหมดเนื่องจากเป็นการสุ่มตัวอย่างโดยไม่ใช้หลักการความน่าจะเป็นของการสุ่มตัวอย่าง (Nonprobability sampling)

ภูมิหลัง โครงการสิทธิเรือสู่ฝั่งของ ไอแอลโอ โดยการสนับสนุนของสหภาพยุโรป มีวัตถุประสงค์เพื่อป้องกันและลดแรงงานบังคับ แรงงานเด็กและแรงงานรูปแบบอื่นที่ไม่เป็นที่ยอมรับ รวมทั้งลดการละเมิดแรงงานโดยเฉพาะต่อแรงงานข้ามชาติในภาคอุตสาหกรรมประมงและอาหารทะเลไทยโดยร่วมมือกับกระทรวงแรงงาน หน่วยงานราชการ และภาคีอื่นๆ 

รายงานฉบับสมบูรณ์และรายละเอียดเกี่ยวกับโครงการหาได้ที่เว็บไซต์ www.shiptoshorerights.org 

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net