Skip to main content
sharethis

ศูทย์ทนายความเพื่อสิทธิฯ รายงาน ศาลพิพากษา 2 จำเลย MBK39 จำคุก 12 วัน ปรับ 6พัน สารภาพลดกึ่งหนึ่ง โทษจำคุกรอลงอาญา 1 ปี ขณะที่ตำรวจแจ้งข้อหาขัดคำสั่งหัวหน้า คสช.3/58 คนอยากเลือกตั้งชุดชุมนุมอนุสาวรีย์ประชาธิปไตย นัดส่งอัยการ 27มีนาฯ

 
8 มี.ค.2561 ความคืบหน้าคนอยากเลือกตั้ง ค้าน คสช.สืบทอดอำนาจ หรือที่เรียกกันว่า 'MBK39' จำนวน 39 คน ที่ถูกกล่าวหาว่าฝ่าฝืนคำสั่งหัวหน้าคสช.ที่ 3/2558 และพ.ร.บ.ชุมนุมสาธารณะ จากการชุมนุมที่สกายวอล์คหน้าห้างสรรพสินค้า MBK (มาบุญครอง) เมื่อวันที่ 27 ม.ค.ที่ผ่านมา นั้น 
ภาพการชุมนุม 'รวมพลคนอยากเลือกตั้ง' ที่สกายวอล์กปทุมวัน กรุงเทพเมื่อวันที่ 27 ม.ค. ที่ผ่านมา 
 
ความคืบหน้าล่าสุด วันนี้ ศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชน รายงานว่า นพเก้า คงสุวรรณและ นพพร นามเชียงใต้ 2 จำเลยให้การรับสารภาพ ศาลได้อ่านคำพิพากษาโดยสรุป เห็นว่าจำเลยมีความผิดตามพ.ร.บ.ชุมนุมสาธารณะพ.ศ.2558 และคำสั่งหัวหน้าคสช.ที่ 3/2558 ให้ลงโทษบทหนักที่สุด ตามคำสั่งหัวหน้าคสช.ที่ 3/2558 พิพากษาให้จำคุกจำเลย 12 วัน ปรับ 6000 บาท จำเลยให้การรับสารภาพ ให้ลดโทษครึ่งหนึ่ง เหลือจำคุก 6 วัน ปรับ 3000 บาท เนื่องจากจำเลยไม่เคยต้องโทษจำคุกมาก่อน โทษจำคุกให้รอการลงโทษเป็นเวลา 1 ปี จากนั้นจำเลยทั้ง 2 จึงได้ทำการจ่ายค่าปรับเป็นเงิน 3,000 บาท แล้วเดินทางกลับ

ก่อนที่จะได้ฟังคำพิพากษา นพพร กล่าวว่า ไม่ได้รู้สึกตื่นเต้นอะไร เพราะไม่ได้คิดมากเกี่ยวดับคดีนี้ แต่มีช่วงคืนก่อนที่จะมาฟังคำพิพากษารู้สึกนอนได้ไม่เต็มอิ่มบ้าง เพราะคดีนี้เป็นคดีอาญา ต้องมีการติดคุก ซึ่งเราไม่ได้เข้าไปเที่ยว ส่วนเหตุผลที่เลือกรับสารภาพในคดีนี้ เนื่องจากตนเองมีอีกคดีหนึ่งที่กำลังพิจารณาอยู่ จึงอยากให้คดีนี้สิ้นสุดลง เพื่อที่จะได้ไปเต็มที่กับอีกคดีของตนเอง

ตร.แจ้งข้อหาขัดคำสั่งหัวหน้า คสช.3/58 คนอยากเลือกตั้งชุด 2

ขณะที่ความคืบหน้าคดีกลุ่มคนอยากเลือกตั้งฯ หรือ #RDN50 จำนวน 41 คน ที่ถูกแจ้งความข้อหาฝ่าฝืนคำสั่งหัวหน้า คสช.3/58 จากเหตุเข้าร่วมชุมนุมที่อนุสาวรีย์ประชาธิปไตย เมื่อวันที่ 10 ก.พ.ที่ผ่านมานั้น ศูนย์ทนายความฯ รายงานด้วยว่า วันนี้ กลุ่มคนดังกล่าวเดินทางเข้ารับทราบข้อกล่าวหาที่ สน.นางเลิ้ง โดย เนติวิทย์ โชติภัทร์ไพศาลได้ขอเลื่อนรับทราบข้อกล่าวหาเป็นวันที่ 14 มี.ค.นี้

ศูนย์ทนายความฯ รายงานว่า เมื่อ 10.00 น. ผู้ต้องหาเข้าพบพนักงานสอบสวน พนักงานสอบสวนแจ้งข้อกล่าวหาฝ่าฝืนคำสั่งหัวหน้า คสช. 3/58 เรื่องห้ามชุมนุมการเมืองโดยไม่ได้รับอนุญาต โดยบรรยายพฤติการณ์ว่าเมื่อ 10 ก.พ.61 ที่บริเวณร้านแมคโดนัลด์ วงเวียนอนุสาวรีย์ประชาธิปไตย ผู้ต้องหาได้เข้าร่วมกิจกรรม “รวมตัวกัน รวมพลคนอยากเลือกตั้ง แสดงพลังต้านสืบทอดอำนาจ คสช.” มีการโดยในการชุมนุมดังกล่าวมี รังสิมันต์ โรม สิรวิชญ์ เสรีธิวัฒน์ ณัฏฐา มหัทนา อานนท์ นำภา สุกฤษฎ์ เพียรสุวรรณ ชลธิชา แจ้งเร็ว และกาณฑ์ พงษ์ประภาพันธ์ เป็นแกนนำปราศรัยกับผู้ชุมนุมประมาณ 400 คน โดยมีเนื้อหากล่าวหาการทำงานของ คสช. โดยใช้คำรุนแรงและปลุกปั่นให้ประชาชนขับไล่ คสช. และเรียกร้องให้มีเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรภายในพฤศจิกายน 2561  ให้ คสช.หยุดการสืบทอดอำนาจ และการทุจริตของรัฐบาล และในการชุมนุมผู้เข้าร่วมได้มีการแสดงสัญลักษณ์ต่างด้วย
 
ทั้ง 41 คน ให้การปฏิเสธทุกข้อกล่าวหา พนักงานสอบสวนได้ปล่อยตัวโดยไม่มีเรียกหลักทรัพย์ประกันและได้นัดส่งตัวให้อัยการในวันที่ 27 มี.ค.นี้ เวลา 9.00 น.
 
ทั้งนี้ทนายความได้ทราบจากพนักงานสอบสวนว่าไม่ได้มีชื่อของ พันธ์ศักดิ์ ศรีเทพ อยู่ในคดีเดียวนี้แต่อย่างใด
 
ศูนย์ทนายความฯ อีดว่า นอกจากกลุ่มที่ถูกดำเนินคดีฝ่าฝืนคำสั่งหัวหน้า คสช. 3/2558 ทั้ง 42 คนนี้แล้ว ยังมีกลุ่มที่ถูกดำเนินคดี รังสิมันต์ โรม, สิรวิชญ์ เสรีธิวัฒน์, ณัฏฐา มหัทนา, สุกฤษฎ์ เพียรสุวรรณ, กาณฑ์ พงษ์ประพันธ์, ชลธิชา แจ้งเร็วและ อานนท์ นำภา ซึ่งในขณะนี้มีคนที่เข้ารับทราบข้อกล่าวหาทั้งหมดแล้ว
 

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net