ยกเลิกประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินที่มีความร้ายแรงในพื้นที่ อ.เบตง จ.ยะลา

เมื่อวันที่ 13 มี.ค.ที่ผ่านมา เว็บไซต์ราชการกิจจานุเบกษา เผยแพร่ประกาศเรื่อง ยกเลิกการประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินที่มีความร้ายแรงในเขตท้องที่อำเภอเบตง จังหวัดยะลา ลงนามโดย พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชานายกรัฐมนตรี 

ตามที่ได้มีประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินที่มีความร้ายแรง ลงวันที่ 20 กรกฎาคม พ.ศ. 2548 และได้ประกาศการขยายระยะเวลาการประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินที่มีความร้ายแรงในท้องที่ดังกล่าว มาจนถึงปัจจุบัน เพื่อใช้มาตรการต่าง ๆ ที่บัญญัติไว้ในพระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ. 2548 เข้าดำเนินการในการแก้ไขปัญหาความไม่สงบในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ การคุ้มครองความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สิน ทั้งของรัฐและประชาชน ภายในเขตพื้นที่ประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินที่มีความร้ายแรง นั้น

โดยที่ปรากฏว่า ในปัจจุบันสถานการณ์อันเป็นเหตุให้มีการประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินที่มีความร้ายแรงในเขตท้องที่อำเภอเบตง จังหวัดยะลา อยู่ในภาวะที่เจ้าหน้าที่ของรัฐและหน่วยงานของรัฐสามารถ ใช้มาตรการต่าง ๆ เข้าควบคุม ระงับยับยั้ง และแก้ไขปัญหาได้ตามปกติแล้ว ดังนั้น อาศัยอำนาจ ตามความในมาตรา 5 วรรคสาม ประกอบกับมาตรา 11 วรรคสาม แห่งพระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ. 2548 นายกรัฐมนตรีจึงออกประกาศไว้ ดังต่อไปนี้

ให้ยกเลิกการประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินที่มีความร้ายแรงในเขตท้องที่อำเภอเบตง จังหวัดยะลา ทั้งนี้ ตั้งแต่วันที่ 20 มีนาคม พ.ศ. 2561 เป็นต้นไป

โดยเมื่อวันที่ 16 ก.พ.ที่ผ่านมา ข่าวสดออนไลน์ ที่ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.วัลลภ รักเสนาะ เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ แถลงผลประชุมคณะกรรมการบริหารสถานการณ์ฉุกเฉิน ที่มีพล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหมเป็นประธาน ว่า ที่ประชุมเห็นชอบปรับลดพื้นที่อำเภอเบตง จังหวัดยะลา ออกจากพื้นที่ประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินที่มีความร้ายแรงตามพระราชกำหนดฯและให้นำมาตรการตามพระราชบัญญัติการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร 2551 มาบังคับใช้ในพื้นที่แทน ตามที่กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร เสนอ เนื่องจากการทำงานในพื้นที่ดังกล่าวผ่านการประเมินผลตามตัวชี้วัดตามแผนการและขั้นตอนตามโครงการเมืองต้นแบบสามเหลี่ยม มั่นคง มั่งคั่ง ยั่งยืน

นอกจากนี้ ที่ประชุมยังเห็นชอบให้ขยายระยะเวลาประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินในพื้นที่จังหวัดนราธิวาส ยะลา และจังหวัดปัตตานี เว้นอำเภอแม่ลาน ออกไปอีก 3 เดือนตั้งแต่วันที่ 20 มี.ค.- 19 มิ.ย.นี้ โดยจะเสนอให้คณะรัฐมนตรีเห็นชอบต่อไป 

 

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไทอัพเดท ได้ที่:
Facebook : https://www.facebook.com/prachatai
Twitter : https://twitter.com/prachatai
YouTube : https://www.youtube.com/prachatai
Prachatai Store Shop : https://prachataistore.net
เรื่องที่เกี่ยวข้อง
ข่าวรอบวัน
สนับสนุนประชาไท 1,000 บาท รับร่มตาใส + เสื้อโปโล

ประชาไท