จดหมายเปิดผนึก: จาก 'เด็กมอต้น' ต่อการฆ่าตัวตายของนักเรียน ม.1

ประชาไททำหน้าที่เป็นเวที เนื้อหาและท่าที ความคิดเห็นของผู้เขียน อาจไม่จำเป็นต้องเหมือนกองบรรณาธิการ

 

ฉันเป็นนักเรียนอยู่ชั้น ม.ต้น ในระบบการศึกษา
ตอนฉันยังเด็ก ฉันสนุกกับการเรียน ฉันเจอครูใจดีคนหนึ่ง ที่สอนดีมาก
แต่หลังจากจบประถมแล้ว ก็ต้องเข้าเรียนในระดับชั้นมัธยมต้น
โรงเรียนเป็นโรงเรียนที่ต้องเดินเรียน แต่ตารางสอน เป็นคาบต่อคาบ
มันทำให้นักเรียนเข้าเรียนไม่ทัน ครูก็ต้องต่อว่านักเรียนว่ามาสายบ้าง
หนึ่งในนั้นที่โดน ก็มีฉัน
จนเสียเวลาในการเรียนไปมาก แล้วก็เรียนไม่รู้เรื่องเลย
ครูก็ให้การบ้านมาก ทุกคาบที่เรียน งานก็เยอะ
เพื่อนๆ และฉันทำการบ้านไม่ทัน
พอถึงเวลาส่ง ฉันกับเพื่อนก็จะโดนดุบ้าง ตีบ้าง
บางครั้งได้ 0 วิชานั้นไปเลย

เพื่อนๆ บางคนถูกพ่อแม่ตั้งความหวังว่าลูกจะต้องเรียนเก่ง จะได้ทำงานสบายๆ
โดยที่ไม่ดูว่า ลูกชอบวิชานั้นหรือเปล่า
พ่อแม่บางคนไม่รู้เลยด้วยซ้ำไปว่า ลูกตนเองชอบอะไร อยากทำอะไร
พ่อแม่ก็ให้แต่ลูกเรียนหนังสือ เรียนพิเศษ ติว จ้างครูมาสอน
ทั้งที่ลูกอาจไม่ชอบที่จะต้องเรียนโน่น นี่ นั้น แบบที่พ่อแม่ต้องการ
เมื่อไม่มีคนที่เข้าใจ หาทางออกไม่ได้ ก็อาจจบลงด้วยการฆ่าตัวตาย หรือหนีออกจากบ้าน
เพราะไม่มีใครฟัง ไม่มีใครถาม

สังคมไทยในตอนนี้ มองความรุนแรงเป็นเรื่องปกติ
ผู้ปกครองควรใช้ความรุนแรงกับลูกตัวเองหรือ? 
แล้วกฎหมายปกป้องคุ้มครองเด็กมีไว้ทำไม?

ในเมื่อผู้ใหญ่ในสังคม สร้างสื่อต่างๆ ข่าวสาร ที่มีแต่ความรุนแรง
ความเชื่อที่ว่า “ตีลูก ลูกถึงจะจำ” มันได้ผลจริงหรือ?

ผู้ปกครองที่เลี้ยงฉันมาเขาไม่เคยใช้กำลัง
เราพูดคุยกันดีๆ
เพราะการใช้ความรุนแรงกับเด็ก
ทำให้เด็กมีบาดแผลในใจ

พอโตขึ้น เมื่อเขาถูกสอนว่าความรุนแรงเป็นเรื่องปกติ
เขาอาจจะใช้ความรุนแรงกับทุกสิ่ง
และหากเขามีลูก เขาก็อาจจะใช้ความรุนแรงกับลูกของเขา เป็นวัฎจักรเดิมซ้ำซาก

บางคนไม่ชอบความรุนแรง พอเขาบอกพ่อแม่หรือครูเขาก็จะโดนว่า
“เพราะเธอไม่ดีเอง”
“เพราะเธอเกเร”
“ เพราะเธอนิสัยไม่ดี”
“ต้องตีถึงจะจำ”

สังคมมองมันเป็นเรื่องของครอบครัว
เป็นเรื่องของนักเรียนกับครู 
แล้วนี่มันเป็นทางออกที่ดีแล้วหรือ ?

เมื่อความรุนแรงเป็นเรื่องปกติ
ถึงจะกฎหมายคุ้มครองแต่คนในสังคม ไม่เห็นความสำคัญ ไม่เข้าใจ
ทำให้ปัญหายังคงอยู่

เหตุการณ์ล่าสุดที่ผ่านมา
มีข่าวเพื่อนนักเรียน (ม.1) ฆ่าตัวตายในสื่อต่างๆ

มันสะท้อนถึงปัญหาของระบบการศึกษาไทย
ที่ไม่เข้าใจเด็ก
ใช้หลักสูตรล้าหลังมาสอนเด็กที่อยู่ในยุคสมัยที่โลกพัฒนาไปไกลแล้ว
แต่การศึกษายังสอนเด็กเดิมๆ

ต่อให้ตั้งกฎว่าไม่ต้องทำการบ้านแล้ว
แต่ทางสถาบันก็ยังให้ทำการบ้านอยู่
ทำการบ้านไม่ทันส่งครูก็ทำโทษ โดนตีบ้าง หรือประจาน

“มันเป็นสิ่งที่ไม่ถูกต้องมาก”
“ครูไม่ได้มีสิทธิ์ที่จะทำร้ายเรา”
“แม้แต่พ่อแม่เองก็ไม่ควรทำ”

ฉันรู้ว่าพ่อแม่หลายคน รู้ว่าการตีไม่ถูกต้อง
แต่เพราะถูกสอนมาว่า  “ตีแล้วจะจำ”  เลยกระทำ “ตีลูก” 

บางครอบครัวกักขังเด็ก
ไม่ให้เด็กกินข้าว (เป็นการลงโทษเเมื่อทำผิด)
การกระทำนี้เป็นความรุนแรงซึ่งกระทำต่อเด็ก
ผ่านสถาบันครอบครัว
สถาบันการศึกษา
เราจะต้องมาทำความเข้าใจรากฐานของปัญหา
ไม่ว่าจะเป็นการบังคับ การกดดัน การตี การข่มขู่

ฉันจะบอกวิธีแก้ปัญหา
เนื่องด้วยฉันก็คือคนหนึ่งในนักเรียนที่เรียนแล้วเครียดกับการบ้าน
งานต่างๆ ที่มากมาย
จนคิดฆ่าตัวตายหลายครั้งแล้ว!!!!

จริงๆ แล้วเด็กทุกคนเข้าต้องการความปลอดภัย
ต้องการคนที่เข้าใจ
ทั้งจากผู้ปกครอง ครู รวมถึงญาติพี่น้อง
ต้องการการสนับสนุนในสิ่งที่ชอบของเขา

ฉันอยากให้ผู้ใหญ่ทุกคนอ่านบทความ ที่มาจากเด็กคนหนึ่ง ที่อยู่ในปัญหากับการเรียนทุกวันนี้

ขอบคุณค่ะ

เด็กมอต้น

 

 

เกี่ยวกับผู้เขียน: เด็กมอต้น เป็นนามแฝงของนักเรียนชันมัธยม 3 วัย 15 ปี เธอเด็กที่ตระหนักในเรื่องสิทธิเด็ก เคยเขียนจดหมายเปิดผนึกและให้สัมภาษณ์ (แบบไม่เปิดเผยชื่อ) ในกรณีอื่นมาแล้ว
 

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไทอัพเดท ได้ที่:
Facebook : https://www.facebook.com/prachatai
Twitter : https://twitter.com/prachatai
YouTube : https://www.youtube.com/prachatai
Prachatai Store Shop : https://prachataistore.net
ข่าวรอบวัน
สนับสนุนประชาไท 1,000 บาท รับร่มตาใส + เสื้อโปโล

ประชาไท